- Details
- Category: คลัง
- Published: Wednesday, 25 November 2015 22:51
- Hits: 3985
รมช.คลังเผยโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาแบบใหม่ อยู่ระหว่างให้สศค.-สรรพากรศึกษารายละเอียด
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. และกรมสรรพกร อยู่ระหว่างการศึกษาในรายละเอียดการปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาแบบใหม่ ซึ่งประเมินว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการอีกสักระยะ ขณะที่การจัดตั้งกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายนั้นที่จะมีมาตรการทางภาษีออกนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นมาตรการช่วยเหลือเป็นการทั่วไป แต่จะช่วยเหลือเป็นการเฉพาะกลุ่ม เช่น การนำเงินในกองทุนช่วยเหลือในส่วนของดอกเบี้ย ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้ยังเร็วไปที่จะประเมิน
ทั้งนี้ นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงตลาดทุนไทยในปัจจุบันว่า ตลาดทุนไทยมีความแข็งแกร่งและสามารถรองรับกับเศรษฐกิจที่มีความผันผวนและชะลอตัวได้ โดยล่าสุดรัฐบาลได้เห็นชอบในหลักการตั้งกองทุนดังกล่าวขนาด 10,000 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ซึงอยู่ระหว่งรอรายละเอียดที่จะออกมา ซึ่งเชื่อว่าการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว และการปรับปรุงระบียบ กฎเกณฑ์ต่างๆ จะช่วยให้ไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนเพิ่มมากขึ้น
รมช.คลังหวังมาตรการลงทุนภาครัฐ-ตั้งกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผลักดันไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงานมอบรางวัล SET AWARDS 2015 ว่า ในปัจจุบันรัฐบาลอยู่ระหว่างเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งออกมาตรการทั้งการเงินและการคลัง มาตรการทางภาษีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และความคล่องตัวในการลงทุน ล่าสุด ครม.ได้เห็นชอบในหลักการร่างพรบ.การจัดตั้งกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย วงเงิน 10,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทำรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งหวังว่าการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาล จะสนับสนุนให้ไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนและประกอบธุรกิจในอนาคต ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในช่วงที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าหลัก รวมถึงราคาสินค้าเกษตรตกต่ำรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามที่จะหามาตรการรองรับเพื่อดูแลทุกภาคส่วน ทั้งมาตรการดูแลพี่น้องประชาชน การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งการช่วยเหลือสภาพคล่องและมาตรการทางด้านภาษี
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลเริ่มอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบแล้ว 6.7 แสนล้านบาท และพยายามเดินหน้าในการดำเนินโครงการใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง และการออกมาตรการผ่อนคลาย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการต่างๆ เช่น การออกพ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ ที่อยู่ระหว่างให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์พิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้สมบูรณ์ภายใน 7 เดือนนี้ การปรับลดภาษีนิติบุคคลเป็นการถาวร เหลือ 20% เป็นต้น
"ปลายเดือนที่ผ่านมาธนาคารโลกมีการจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ พบว่าไทยอยู่อันดับที่ 49 ของโลกจาก 189 ประเทศ และอยู่อันดับที่ 3 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งยอมรับว่าเป็นอันดับที่ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 46 แต่เชื่อว่าจากที่รัฐบาลดำเนินการมา ในปีหน้าอันดับหน้าจะดีขึ้นกว่าปีนี้แน่นอน"นายวิสุทธิ์ กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย