- Details
- Category: คลัง
- Published: Friday, 18 September 2015 16:33
- Hits: 2731
คลังเชื่อปฏิรูปจัดซื้ออุดรูรั่ว 9 แสนล. ดีเดย์ 1 ต.ค.ต้องใช้อีบิดดิ้ง/มาร์เก็ต ต้านคอร์รัปชั่นไม่เชื่อกันทุจริตหมด
มติชนออนไลน์ : วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558
ก.คลังหวังปฏิรูปจัดซื้อจัดจ้างเป็นระบบอีมาร์เก็ตหรืออีบิดดิ้งลดรอยรั่ว ช่วยประหยัดเงินมหาศาล เผย 8 ปี เงินลงทุนภาครัฐ 8-9 ล้านล้านบาท ลดได้ 10% เท่ากับ 9 แสนล้านบาท ยัน 1 ต.ค. เริ่มใช้กับโครงการ 2 ล้านบาทขึ้นไป ด้านองค์กรต้านคอร์รัปชั่น ไม่เชื่อป้องกันทุจริตได้หมด
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานปฏิรูปการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยระบบอีมาร์เก็ตและอีบิดดิ้ง ที่โรงแรมดุสิตธานีว่า การปฏิรูปการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญ เพราะหากสามารถลดรอยรั่วได้จะทำให้รัฐประหยัดเม็ดเงินได้มหาศาล โดยงบลงทุนปี 2559 มีวงเงินรวมถึง 5.4 แสนล้านบาท หากรวมงบลงทุนรัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะมีเม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 8 แสนล้านบาท ถ้ารวมเม็ดเงินลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐที่กำหนดวงเงินลงทุน 3.3-3.4 ล้านล้านบาท กับงบลงทุนของหน่วยงานราชการปีละ 8 แสนล้านบาท วงเงินลงทุนภาครัฐในช่วง 8 ปีข้างหน้ามีวงเงินสูงถึง 8-9 ล้านล้านบาท ถ้าลดการรั่วไหลของงบประมาณดังกล่าวได้ 10% ช่วยประหยัดเงินได้ถึง 9 แสนล้านบาท
นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ทั้งนี้กระทรวงการคลังพยายามปรับระบบการจัดซื้อจัดจ้างใหม่จากระบบอีออคชั่นมาเป็นอีมาร์เก็ตและอีบิดดิ้ง ยืนยันว่าจะเริ่มทันทีในวันที่ 1 ตุลาคม 2558 สำหรับวงเงินงบประมาณไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท โดยได้ผ่อนเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐใหม่ โดยให้วงเงินลงทุน 1-5 แสนบาทใช้วิธีตกลงราคา ส่วนราคา 5 แสนบาท ถึง 2 ล้านบาท ให้ใช้วิธีสอบราคา หากเกิน 2 ล้านบาทขึ้นไปจึงจะใช้วิธีอีบิดดิ้งหรืออีมาร์เก็ต เพื่อผ่อนคลายให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กยังไม่ต้องมาใช้ระบบอีบิดดิ้งและอีมาร์เก็ตในช่วง 6 เดือน นับจาก 15 ตุลาคม 2558-31 มีนาคม 2559 โดยจะประเมินผลในเดือนธันวาคมนี้อีกครั้งว่าควรเพิ่มวงเงินหรือเวลาที่จะผ่อนคลายกฎดังกล่าวต่อไปอีกหรือไม่
"วงเงินลงทุนต่ำกว่า 2 ล้านบาท มีอยู่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 70% ของโครงการลงทุนกว่า 1 แสนโครงการ นอกจากจะช่วยผู้ประกอบการขนาดเล็ก ยังช่วยให้การเบิกจ่ายรวดเร็วสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเร่งรัดเงินลงทุนโครงการขนาดเล็กเข้าไปในระบบเศรษฐกิจด้วย"นายวิสุทธิ์กล่าว
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในระบบจัดซื้อจัดจ้าง กระทรวงการคลังได้เสนอ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างเพื่อการบริหารพัสดุ ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กฎหมายจัดซื้อจัดจ้างใหม่ คาดจะมีผลบังคับใช้ประมาณ 1 พฤษภาคม 2559
นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า กฎหมายจัดซื้อจัดจ้างใหม่ที่รัฐบาลอยู่ระหว่างการผลักดัน อาจป้องกันปัญหาการคอร์รัปชั่นได้ระดับหนึ่ง แต่ที่สุดแล้ว ก็จะไม่สามารถป้องกันปัญหาดังกล่าวได้ทั้งหมด ทั้งนี้ มีกระแสข่าวการเรียกรับเงินจากผู้เข้าประมูลโครงการรัฐ โดยระบุว่า ถ้าผู้เข้าประมูลต้องการข้อมูลหรือรายชื่อผู้เข้าประมูลรายอื่นจะต้องยอมเสียค่าใช้จ่ายจำนวน 0.5% ของวงเงินประมูล (ในต่างจังหวัด) และ 1% ของวงเงินประมูลสำหรับกรุงเทพฯ ถือเป็นกระแสข่าวที่สะท้อนช่องทางการทุจริต ซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป
สศค.คาดมาตรการกระตุ้นศก.1.3 แสนลบ.ดัน GDP ปีนี้ +0.4%,ทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 3%
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกองทุนหมู่บ้าน และการเร่งใช้งบประมาณโครงการขนาดเล็กของภาครัฐ วงเงิน 1.3 แสนล้านบาทจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกราว 0.4% และยังมั่นใจว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์หรือไม่
"ที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการเร่งเรื่องการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ทั้งการสนับสนุนผ่านบีโอไอ และการตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการลงทุน ซึ่งมีกระทรวงการคลังและกรมภาษีเข้าร่วมด้วย เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 ปีนี้" นายกฤษฎา กล่าว
อินโฟเควสท์