- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 03 September 2015 20:47
- Hits: 2443
รมว.คลัง ชี้ ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ส.ค. 58 ต่ำสุดในรอบ 15 ปี เพราะงบลงทุนไม่ลงสู่ระบบ อุบไม่พูดเรื่อง นิรโทษกรรมไม่เก็บภาษีเอสเอ็มอีย้อนหลัง
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค.2558 ที่ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 15 ปี ว่า เกิดจากสาเหตุที่ประชาชน และภาคธุรกิจมีความคาดหวังต่อการดำเนินนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ แต่ที่ผ่านมาเม็ดเงินการลงทุนขนาดใหญ่ไม่กระจายลงสู่ระบบอย่างรวดเร็วตามที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้เกิดการขาดความเชื่อมั่นเพราะฉะนั้นรัฐบาลจึงมุ่งเน้นการกระจายการลงทุนขนาดเล็ก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมา เนื่องจากโครงการเหล่านี้จะสามารถกระจานเม็ดเงินลงสู่ระบบได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนแนวทางในการดูแลเอสเอ็มอี เป็นมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2 ต่อจากมาตรการกองทุนหมู่บ้าน โดยคาดว่าจะนำมาตรการดังกล่าวเข้าที่ประชุมครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลังนั้นจะดูแลในเรื่องเกี่ยวกับมาตรการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเอสเอ็มอีให้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเจ้าภาพหลักของการดูแลเอสเอ็มอีในครั้งนี้ คือ กระทรวงอุตสาหกรรมที่จะชี้แจงในภาพรวมของมาตรการดังกล่าวอีกครั้ง
สำหรับข้อเสนอของภาคเอกชนให้นิรโทษกรรม โดยไม่เก็บภาษีย้อนหลังของเอสเอ็มอีนั้น ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดขณะนี้ ขอให้มีการอนุมัติออกมาชัดเจนก่อน
รมว.คลัง เผยเตรียมนำมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีเข้า ครม. 1-2 สัปดาห์นี้ หลังนายกฯสั่งเร่งฟื้นความเชื่อมั่นภาคเอกชน
รมว.คลัง เผยเตรียมนำมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีเข้า ครม. 1-2 สัปดาห์นี้ หลังนายกฯสั่งเร่งสร้างความเชื่อมั่นภาคเอกชน ให้สิทธิประโยชน์การลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นศก.
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงานสัมมนาก้าวไปข้างหน้ากับทิศทางเศรษฐกิจไทยในอนาคตว่า ขณะนี้ภาครัฐกำลังเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการอัดฉีดเงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน เพื่อให้เม็ดเงินถึงประชาชนที่กำลังลำบากเกษตรกร คนรายได้น้อยสามารถกู้เงินจากส่วนนี้ได้โดยไม่มีดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังมีการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณในช่วง 3 เดือน โดยจะนำโครงการเล็กๆไม่เกิน 1 ล้านบาท กระจายทั่วประเทศ
“เงินที่เติมลงไปเป็นการช่วยเหบือให้เขาในยามที่เขาลำบาก มองว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าจะช่วยให้เขามีรายได้และมีการพัฒนาอาชีพเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมออกมาตรการกช่วยเหลือเอสเอ็มอีซึ่งคาดว่าจะเข้าครม.ในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า”นายอภิศักดิ์ กล่าว
สำหรับ สิ่งที่จะเข้าไปดูแลช่วยเหลือเอสเอ็มอี จะมีหลายเรื่องเข้ามาเสริม ทางกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพ เป็นการช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาเอสเอ็มอี
ทั้งนี้ หลังจากที่ช่วยคนลำบากแล้ว ไม่ให้เกิดปัญหามากขึ้น เรายังมีความตั้งใจช่วยกลุ่มธุรกิจ หรือประเภทธุรกิจที่มีความสำคัญของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้คุยแล้ว 2-3 กลุ่ม ซึ่งขณะนี้ยังพอไปได้ แต่หากมองในระยะต่อไปอาจมีปัญหา ซึ่งเราจะออกมาตรการออกมาช่วยเหลือ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยตอบสนองแนวคิดในรอบแรก และจะช่วยป้องกันไม่ให้กลุ่มที่จะมีปัญหาในอนาคต ไม่เกิดปัญหาได้
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ในเรื่องของการลงทุนภาคเอกชน จะต้องเรงความเชื่อมั่น เพราะในปัจจุบันการส่งออกมีปัญหา สะท้อนจากในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมาการส่งออกมีปัญหาตลอด ส่วนการบริโภคยังชะลอ เพราะประชาชน ยังมีหนี้เยอะ และยังไม่มั่นใจต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ จึงชะลอการใช้จ่าย ดังนั้นยังไม่เป็นตัวที่กระตุ้นได้ง่าย ส่วนการลงทุนมีการเดินหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว โดยจะมีการเติมโปรเจคเล็กๆของรัฐบาลเพื่อให้เกิดการจ้างงาน
ส่วนการลงทุน จะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ให้กับภาคเอกชน ด้วยการหาแนวทางส่งเสริมการลงทุน ในการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ มากกว่าที่ได้รับอยู่ในปัจจุบันจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ซึ่งในเรื่องดังกล่าว นายกรัฐมนตรีสั่งให้เร่งดำเนินการ โดยจะมีคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นผู้ดูแลความคืบหน้าของกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ละกลุ่มให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งเมื่อทุกอย่างเดินหน้าได้ ก็จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้สูงขึ้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย