WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

กิตติรัตน์'ออกโรงบี้ 3 กรมจัดเก็บภาษี บีบปั๊มรายได้อุดงบประมาณ

     แนวหน้า : 'กิตติรัตน์'เรียก 3 กรมจัดเก็บภาษี หาวิธีบี้รายได้เพิ่ม สศค.รับสภาพปัญหาการเมืองยืดเยื้อเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ปีงบประมาณ 57 รายได้วืดเป้า 5 หมื่นล้านบาท กรมบัญชีกลางเดินหน้าทำเรื่องของบกลางหมื่นล้านเอามาโปะโครงการรถคันแรก ถ้าไม่ได้ประชาชนต้องทำใจรอรัฐบาลใหม่เข้ามาอนุมัติ

    นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่าในวันที่ 23 เมษายน 2557 นี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้เรียกประชุมหน่วยงาน3 กรมจัดเก็บภาษีซึ่งประกอบด้วยกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร เพื่อประเมินภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของปีงบประมาณ 2557 รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ให้มากขึ้น

     "กรมสรรพากร ผมเน้น 3 เรื่องคือเร่งรัดการจัดเก็บรายได้ และให้เร่งจ่ายเงินภาษีคืนให้เร็ว เพราะถ้าได้เงินคืนเร็วก็จะมีเงินไปใช้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง และเน้นเรื่องทุจริต ส่วนเรื่องรายได้สรรพากรที่ลดลงเพราะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าลดลง คงไปบังคับให้ผู้ประกอบการนำเข้าเพิ่มไม่ได้ แต่ถ้าทำตามที่เน้นใน 3 เรื่องนี้ เชื่อว่าการจัดเก็บรายได้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น" นายรังสรรค์ กล่าว

      ก่อนหน้านี้ นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร ยอมรับว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมในปีงบประมาณ 2557 จะอยู่ที่ 1.76 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการณ์ที่ตั้งไว้ที่ 1.89 ล้านล้านบาท หรือลดลง 7 % ผลการจัดเก็บรายได้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ(ตุลาคม 2556-มีนาคม 2557)จัดเก็บได้ 7.05 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 2.3 หมื่นล้านบาทสาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าลดลงถึง 1.8 หมื่นล้านบาท และเศรษฐกิจซบเซาจากปัญหาการเมืองทำให้คนชะลอการใช้จ่าย เอกชนลดการลงทุนใหม่

    นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในปีงบประมาณ 2557 จะต่ำกว่าเป้าหมายราว 5% หรือประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายรวมที่ 4.63 แสนล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการบริโภคของประชาชน รวมถึงการต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลออกไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้กรมสูญเสียรายได้เดือนละ 9 พันล้านบาท

     ขณะที่นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากรก็ยอมรับว่า แนวโน้มการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากรในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2557 ต่ำกว่าเป้าหมายถึง 1.2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 18.64% เป็นผลมาจากการนำเข้าสินค้าที่ลดลง จากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้ออาจส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2557 ทำได้เพียง 1.06 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.31 แสนล้านบาท

    จากเหตุผลดังกล่าวในข้างต้นทำให้นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)คาดการณ์ว่าการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณนี้มีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 5 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายที่ 2.275 ล้านล้านบาทเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนในปัจจุบัน

    ส่วนทางด้านความคืบหน้าในการหาเงินงบประมาณมาจ่ายคืนให้กับประชาชนที่ใช้สิทธิ์รถคันแรกของรัฐบาลนั้นล่าสุดมีรายงานข่าวจากกระทรวงการคลังว่า กรมบัญชีกลางได้ทำหนังสือถึงสำนักงบประมาณเพื่อให้อนุมัติงบกลางของปีงบประมาณ 2557 จำนวน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายให้กับผู้ใช้สิทธิ์ในโครงการรถคันแรกที่ยังไม่ได้รับเงินให้ได้ครบตามกำหนดเดือนกันยายน 2556 เนื่องจากขณะนี้เงินงบประมาณที่ตั้งไว้ไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามเงินที่ได้ขอไปนั้น จะได้ตามที่ได้ขอหรือไม่ ยังบอกไม่ได้ แต่หากไม่ได้ตามที่ขอก็จะทำให้การจ่ายเงินให้กับผู้ใช้สิทธิ์รถคันแรกได้ไม่ครบตามที่ผู้ใช้สิทธิ์ขอมา

    “ปีงบประมาณ 2557 กระทรวงการคลังของบจ่ายรถคันแรกไปจำนวน 5 หมื่นล้านบาท แต่ได้รับการจัดสรรเพียง 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้จ่ายให้กับผู้ใช้สิทธิตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2557 ถึงเดือนเมษายน 2557 ใช้เงินไปแล้ว 3.5 หมื่นล้านบาท เหลือเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะจ่ายให้กับผู้ใช้สิทธิรถคันแรกที่จะเงินคืนในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ได้อีกเดือนเดียว หรืออาจมีเงินจ่ายให้กับผู้ใช้สิทธิที่จะได้เงินคืนในเดือนเมษายนบางส่วนเท่านั้น เพราะเฉลี่ยการจ่ายเงินคืนให้ผู้ใช้สิทธิรถคันแรกอยู่ที่เดือนละ 3,000-4,000 ล้านบาท”

     "หากไม่ได้รับการอนุมัติงบกลาง 1 หมื่นล้านบาท ก็ยังไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนมาจ่ายให้กับผู้ใช้สิทธิ ซึ่งอาจจะต้องหยุดจ่ายเงิน รอจนกว่ามีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ และกู้เงินหรือใช้เงินคงคลังจ่ายคืนรถคันแรกเหมือนปี 2556 ที่ใช้เงินคงคลังจ่ายคืนเพราะเงินงบประมาณไม่เพียงพอ แต่รัฐบาลรักษาการทำไม่ได้ เพราะการใช้เงินคงคลังจะมีผลผูกพันกับรัฐบาลใหม่ต้องมาตั้งงบประมาณในปีถัดไปมาใช้เงินคงคลัง"แหล่งข่าว กล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!