- Details
- Category: คลัง
- Published: Saturday, 08 August 2015 12:25
- Hits: 3451
กอช.เปิดรับสมาชิก 20 ส.ค.
บ้านเมือง : นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สามารถสรุปรายละเอียด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รัฐบาลจึงได้มอบนโยบายให้เลขาธิการกองทุนการออมแห่งชาติหรือ กอช. เร่งดำเนินการรับสมัครสมาชิก โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความประสงค์จะมารับสมัครสมาชิกคนแรกของ กอช. ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 20 ส.ค.58 นี้
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้มอบนโยบายให้ กอช. เร่งประสานงานกับหน่วยงานในกระทรวงการคลัง ได้แก่ ธนาคารเพื่อเกษตรและสหกรณ์หรือ ธ.ก.ส. ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้จัดทำระบบการรับสมาชิกผ่านเครือข่ายของธนาคารเหล่านี้ ขณะนี้ทั้ง 3 ธนาคารมีความพร้อมในการจัดทำระบบเชื่อมต่อเข้ากับระบบของ กอช. ในวันเปิดรับสมาชิกครั้งแรก และคนไทยทุกคนที่มีคุณสมบัติในการสมัครสมาชิก กอช. สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ธนาคารเพื่อสมัครเป็นสมาชิกได้ โดยใช้หลักฐานเพียงบัตรประชาชนเท่านั้น
ด้านนายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ เปิดเผยว่า การค้ำประกันและผลตอบแทน รัฐบาลจะรับประกันผลตอบแทนของสมาชิก นอกจากนี้อายุสมาชิกอัตราเงินสมทบจากรัฐบาล อายุ 15-30 ปี รัฐสบทบให้ 50% ของเงินสะสมแต่ไม่เกินปีละ 600 บาท อายุ 30-50 ปี รัฐสบทบให้ 80% ของเงินสะสม แต่ไม่เกินปีละ 960 บาท อายุ 50 ปีขึ้นไป รัฐสบทบให้ 100% ของเงินสะสมแต่ไม่เกินปีละ 1,200 บาท
ดีเดย์ 20 ส.ค.รับสมาชิกกอช.
ไทยโพสต์ : พระราม 6 * คลังดีเดย์ 20 ส.ค. นี้ เปิดรับสมัครสมาชิก กอช.ตั้งเป้าปีแรกประชาชนแห่สมัคร 6 แสนคน ลุ้น 5 ปี สมาชิกทะลุ 3 ล้านคน
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.การคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ส.ค.นี้ รัฐบาลจะเปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) อย่างเป็นทางการ ที่ทำเนียบรัฐ บาล โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยผู้มีสิทธิ์สมัครเป็นสมาชิก กอช.จะต้องเป็นบุคคลสัญ ชาติไทยอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 60 ปี และจะต้องไม่เคยเป็นสมาชิกกองทุนที่ได้รับเงินสมทบจากรัฐหรือนายจ้างมาก่อน และไม่อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญด้วย เช่น ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ ทั้งเกษตรกร ค้าขาย รับจ้างทั่วไป คนขับรถแท็กซี่ แม่บ้าน นักเรียน นิสิต นักศึกษา เป็นต้น
ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ซึ่งใช้หลักฐานเพียงบัตรประชาชนเท่านั้น โดยคาดว่าภายในปี 2558 จะมีประชาชนและผู้สูงอายุเข้าเป็นสมาชิกกองทุนอย่างน้อย 6 แสนคน และอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีสมาชิกทั้งสิ้น 3 ล้านคน ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลมีงบประมาณรองรับจำนวนสมาชิกที่เข้ามาได้ โดยปีแรกคาดว่าจะใช้เงินสมทบ จำนวน 683 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1.7 พันล้านในปี 2559
นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการ กอช. เปิดเผยว่า เงินกองทุนดังกล่าวจะนำไปลงทุนหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่ต่ำกว่า 60% ของ เงินกองทุน ที่มีคณะอนุกรรมการการลงทุนเป็นผู้ดูแลนโยบายการลงทุนอย่างเหมาะสม รวมทั้งยังมีการค้ำประกันผลตอบแทนให้สมาชิกได้รับไม่น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ซึ่งประชาชนมั่นใจได้ว่าเงินสะสมมาจะได้รับเงินคืนอย่างแน่นอน ขณะที่ ประชาชนที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคมอยู่สามารถโอนกรรมสิทธิ์การเป็นสมาชิกมาอยู่กับ กอช.ได้ตามมาตรา 40.