- Details
- Category: คลัง
- Published: Saturday, 25 July 2015 22:20
- Hits: 6590
'ขุนคลัง' ลั่นเดินหน้าภารกิจยอมรับกระทบความมั่นใจการบริหารนโยบาย
บ้านเมือง : คลังสนองนโยบายรัฐอัด 4 หมื่นล้าน เพิ่มศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ สั่งออมสินและ ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ ขณะที่ขุนคลังประกาศไม่ลาออก ต้องสานต่อภารกิจสำคัญปรับโครงสร้างภาษี สร้างระบบเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง ยอมรับข่าวกระทบความมั่นใจนักลงทุน
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการเพิ่มศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ภายใต้มาตรการสนับสนุนและพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ระหว่างสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สนับสนุนเงินทุน 4 หมื่นล้าน ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 5% ต่อปี และกู้ยืมไม่เกิน 5 ปี เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุน บรรเทาความเดือดร้อนและแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นและแก้ปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้าโดยตรง
ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.58 จนถึงปัจจุบัน ได้มีการสนับสนุนให้สินเชื่อแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามโครงการไปแล้ว จำนวน 3,356 กองทุน เป็นเงิน 5,725.43 ล้านบาท แบ่งเป็นธนาคารออมสินจำนวน 1,704 กองทุน เป็นเงิน 3,011.43 ล้านบาท และ ธ.ก.ส. จำนวน 1,652 กองทุน เป็นเงิน 2,714 ล้านบาท
โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะร่วมดำเนินการในหลายด้าน ประกอบด้วยสนับสนุนเงินทุนแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่ได้รับการประเมินศักยภาพในระดับดีมาก (A) และดี (B) ให้ความ
ร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการเพิ่มศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และให้ความร่วมมือในการติดตามสนับสนุนและติดตามประเมินผล สรุปผลการดำเนินงานเพื่อเสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ด้านนายสมหมาย ภาษี รมว.การคลัง กล่าวว่า ได้กำหนดมาตรการและแนวทางเพื่อสนับสนุนและพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 3 ด้าน คือ 1.การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 2.การปรับปรุงการบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ 3.สนับสนุนด้านเงินทุนแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โครงการเพิ่มศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ปัจจุบันมีอยู่ 59,874 แห่ง โดยให้ธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส.สนับสนุนวงเงินสินเชื่อรวม 40,000 ล้านบาท หรือธนาคารละ 20,000 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาสนับสนุน 2 ปี ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 5% ต่อปี และมีระยะเวลาการกู้ยืมไม่เกิน 5 ปี
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้มีการพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองด้วยการยกระดับกองทุนหมู่บ้านเป็นสถาบันการเงินชุมชนเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง โดยปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน การคัดเลือกคณะกรรมการและกำหนดหลักเกณฑ์ค้ำประกันเงินกู้ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า และส่งเสริมให้การดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองมีความมั่นคงและเป็นมาตรฐานเดียวกัน
"ที่เพิ่มงบกองทุนหมู่บ้านให้มากขึ้น ทางเราเห็นว่าการนำเงินภาครัฐมาช่วยชาวบ้านให้อยู่ดีกินดีมากขึ้น มีประสิทธิภาพ โดยจ่ายดอกเบี้ยไม่สูงมากเพียง 4.85% เป็นดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งชาวบ้านประมาณ 75% ให้การตอบสนองกับโครงการนี้ดีมาก ก.คลังจึงมีความจำเป็นอนุมัติจัดสรรเพิ่มวงเงินให้เป็น 4 หมื่นล้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ชาวบ้านในหมู่บ้านนำเงินไปพัฒนาอาชีพต่อยอดได้เรื่อยๆ" นายสมหมาย กล่าว
นายสมหมาย ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง โดยยืนยันว่าไม่มีความคิดที่จะลาออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอน นอกจากนายกรัฐมนตรีจะมีการปรับเปลี่ยน ครม. ดังนั้นจะยังคงเดินหน้าปฏิบัติภารกิจต่อไป โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างภาษี การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เกิดการขยายตัวที่ดีขึ้น ซึ่งยอมรับว่ากระแสข่าวดังกล่าวมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการบริหารจัดการของรัฐบาลและการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นหน่วยงานความมั่นคงควรเร่งหาผู้ปล่อยข่าว และต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้ลดลงอีก
อย่างไรก็ตาม การทำงานที่ผ่านมาต้องมีทั้งผู้ที่ไม่พอใจและพอใจในการทำงานของตนอยู่แล้ว ซึ่งพร้อมรับคำวิจารณ์ทุกอย่าง แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน แต่งานบางส่วนมีความล่าช้าเห็นได้จากที่ผ่านมามีการเสนออนุมัติงบลงทุนในหลายโครงการ เช่น การทำถนนของกรมทางหลวง 40,000 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท 25,000 ล้านบาท ซึ่งรวมเป็นวงเงิน 65,500 ล้านบาท แต่มีการเบิกจ่ายเพียง 3,000 ล้านบาท และหลังจากนี้มีแผนจัดการเงินลงทุนโครงการต่างๆ ของรัฐที่ยังค้างอยู่คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ให้แล้วเสร็จ