- Details
- Category: คลัง
- Published: Friday, 29 May 2015 12:48
- Hits: 2626
สมหมาย สั่งลุยขายหุ้นล้างหนี้ยันไม่ปล่อยรัฐวิสาหกิจธีระชัยโพสต์เฟซบุ๊กค้าน
ไทยโพสต์ * "สมหมาย" ไม่ถอยคนขวางคลังขายหุ้นใช้หนี้ประ เทศ 7.2 แสนล้านบาท ยังเป็นเรื่องจำเป็น ชี้ถือเยอะแต่ไม่ก่อประโยชน์
นายสมหมาย ภาษี รมว.การคลัง เปิดเผยว่า การขายหุ้นเพื่อใช้หนี้ของประเทศ วงเงิน 7.2 แสนล้านบาท โดยการออกเป็นกฎหมายพิเศษภายใน 2 เดือนนี้ ยืนยันว่ามีความจำเป็น เพราะมีหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่จำนวนมากและไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจที่ตั้งกันขึ้นมาหลายแห่งและไม่ได้นำส่งผลประโยชน์ที่ได้รับมาให้กับประเทศ ก็ไม่จำเป็นต้องถือต่อไป เพื่อนำรายได้มาลดหนี้ที่มีอยู่จำนวนมาก
โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามปฏิรูปภาษีเพื่อทำให้การเก็บรายได้ของประเทศมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอนำมาใช้หนี้ดังกล่าว เนื่องจากประเทศต้องการการลงทุนอีกจำนวนมาก ทั้งด้านคมนาคมขนส่ง การศึกษา และการสาธารณสุข และการพัฒนาสังคมด้านอื่นๆ
ทั้งนี้ การขายหุ้นที่กระ ทรวงการคลังถืออยู่มีความชัด เจนว่า จะไม่ขายหุ้นที่กระทรวง การคลังถือและอยู่ในตลาดหลัก ทรัพย์ และมีผลการดำเนินการที่ดีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมามีความพยายามของนักลงทุนในตลาดหุ้นนำเรื่องนี้ไปสร้างราคาเพื่อหวังผลประโยชน์จากการซื้อขาย
"การขายหุ้นของกระ ทรวงการคลัง จะเป็นการขายหุ้นบริษัทที่ไม่มีความจำเป็นต้องถือ ซึ่งมีจำนวนมาก ผมไม่ได้บอกว่าจะขายหุ้นรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ถ้าผมขายคงถูกนายกรัฐมนตรีไล่ออกจากตำแหน่ง" นายสมหมายกล่าว
นายสมหมายกล่าวอีกว่า ภาระการใช้หนี้ของประเทศสูง ขึ้นเรื่อยๆ ในปีงบประมาณ 2559 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา มีภาระชำระต้นเงินกู้ จำนวน 6.1 หมื่นล้านบาท มีภาระชำระดอก เบี้ย 1.39 แสนล้านบาท รวมเป็นภาระ 2 แสนล้านบาท ในอนาคตมีภาระจ่ายหนี้จากการออกกฎหมายพิเศษเข้ามาเพิ่มอีกปีละ 6.4 หมื่นล้านบาท เป็นเวลา 20 ปี ซึ่งเป็นภาระหนักมากสำหรับการทำงบประมาณ การขายหุ้นเพื่อมาใช้หนี้ในส่วนของการออกกฎหมายพิเศษ ซึ่ง จะเขียนไว้ชัดเจนว่าเงินจากการขายหุ้นไม่ต้องส่งเข้ากระ ทรวงการคลัง ให้นำไปใช้หนี้โดยตรง จะทำให้ลดภาระงบประ มาณในแต่ละปีลง
ด้านนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.การคลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซ บุ๊กส่วนตัว "Thirachai Phu vanatnaranubala" โดยได้มีการแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่กระทรวงการคลังจะขายหุ้นในมือ เพื่อโปะขาดทุนในโครงการจำนำข้าว ซึ่งระบุว่า "แนวคิดนี้ผมเคยเขียนไว้ในเฟซบุ๊ก ในปี 2557 ตั้งแต่ก่อนมีการจัด ตั้งรัฐบาล แต่ข้อมูลที่ได้เพิ่มเติม ทำให้ผมเปลี่ยนใจแล้ว บัดนี้ผม ไม่เห็นด้วย เพราะ 1.เนื่องจาก จะได้เงินไม่มาก จึงไม่คุ้มกับผล กระทบต่อภาพพจน์ นักวิเคราะห์สากลอาจจะพาลเข้าใจผิดว่าฐานะประเทศร่อแร่เต็มที
2.ประชาชนจะเข้าใจ ไขว้เขวได้ ว่ากระทรวงการคลังไม่จริงใจที่จะเรียกให้ผู้ที่ก่อความเสียหายต้องชดใช้ก่อน 3.การบริหารเงินกู้ระดับ 7-8 แสนล้านบาท กระทรวงการคลังสามารถทำได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว 4.การจะขายหุ้นใดหรือไม่ เมื่อใด ควรพิจารณาต่างหากจากการบริหารขาดทุนจำนำข้าว การเอา 2 เรื่องมาปนกัน จะก่อความเข้าใจผิด 5.การจะ ขายหุ้นควรจะมีการศึกษา และมีการตั้งคำถามใหญ่ว่า รัฐบาลควรจะถือหุ้นอยู่ในธุรกิจเอกชนหรือไม่ การถือต่อไปมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร