WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

GFIMSคลังชี้เศรษฐกิจน่าห่วงส่งออกเสี่ยงติดลบ ลุ้นท่องเที่ยวทำเงิน 1.39 ล้านล้าน

     แนวหน้า : คลังระบุภาพรวมเศรษฐกิจไทยน่าห่วง ส่งออกทั้งปีเสี่ยงติดลบ ภาคการท่องเที่ยวจะกลายเป็นพระเอกหลักที่จะช่วยทำรายได้เข้าประเทศ 1.39 ล้านล้านบาท แบงก์ชาติเผยไตรมาสแรกภาวะธุรกิจยังทรงตัว ผู้ประกอบการส่วนใหญ่หวังครึ่งปีหลังลงทุนฟื้น ผู้บริโภคจับจ่ายมากขึ้น

     แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี2558นี้ ต้องยอมรับว่าภาพรวมค่อนข้างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะครึ่งปีแรกที่ภาคการส่งออกที่ฟื้นตัวได้ต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้คาดว่าในครึ่งปีแรกส่งออกไทยจะขยายตัวติดลบ ทั้งปีก็มีโอกาสและความเป็นไปได้สูงที่ตัวเลขส่งออกจะขยายตัวแบบติดลบเช่นเดียวกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างจีนที่ชะลอตัวลงอย่างมาก โดยในไตรมาสแรกติดลบถึง 14.4% ส่วนทั้งปีคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้เพียง 7% จากเดิมที่ 7.2% และที่ผ่านมารัฐบาลจีนก็ได้มีการส่งสัญญาณออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยลดอัตราดอกเบี้ยและใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น

    จีนถือเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย และจากสัดส่วนการส่งออกของไทยทั้งหมดพบว่าจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุด มีอัตราสูงถึง 11% ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงก็ย่อมส่งผลถึงไทยแน่นอน รวมถึงการปรับตัวของประเทศขนาดใหญ่ ทั้งจีนและสหรัฐ ที่หันมาเน้นการเป็นผู้ผลิตในประเทศมากขึ้น แทนการนำเข้า หลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ จึงเป็นผลสะท้อนชัดเจนว่าภาคการส่งออกของไทยกำลังประสบปัญหาอย่างหนักแหล่งข่าว กล่าว

     อีกทั้ง ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดอาทิ แผนการชำระหนี้ของยุโรป การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของประเทศอังกฤษในเดือนพฤษภาคมนี้ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ รวมถึงยังมีปัจจัยเสี่ยงในประเทศที่ความเชื่อมั่นของภาคเอกชนลดลง

     รวมถึงการติดปัญหาเรื่องการทำประมงแบบผิดกฎหมาย (ไอยูยู) และปัญหาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยราว 319 ล้านดอลล่าร์ต่อปี ซึ่งจะเข้ามากดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ด้วย ภายหลังจากแนวโน้มการฟื้นตัวช้ากว่าคาดการณ์อย่างมาก จากปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดทำให้คาดว่าเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2558 จะต่ำกว่า 3.7%

    อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวกที่จะเข้ามาบ้างก็คือภาคการท่องเที่ยวที่ปีนี้จะกลายเป็นพระเอกหลัก โดยได้ปรับประมาณการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้เพิ่มเป็น 29.4 ล้านคน คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ประเทศ  1.39 ล้านล้านบาท จากเดิมคาดอยู่ที่ 28.3 ล้านคน และสร้างรายได้ให้ประเทศราว 1.33 ล้านล้านบาท  ประเมินว่าค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ยต่อรายจะอยู่ที่ 4.7 หมื่นบาท นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าไทย ได้แก่ จีนคิดเป็นอัตราส่วนถึง 50% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด

     ขณะที่การเร่งลงทุนของภาครัฐก็ยังคงเป็นอีกความหวัง เพราะที่ผ่านมาภาครัฐพยายามกระตุ้นการเบิกจ่ายและใช้จ่ายเงินของส่วนราชการ เชื่อว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบได้อย่างต่อเนื่อง

     ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะธุรกิจในไตรมาสที่ 1 ปี 2558ในความเห็นของผู้ประกอบการยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน การบริโภคภาคเอกชนทรงตัว สะท้อนจากยอดขายสินค้าที่โดยรวมทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้าโดยมีปัจจัยถ่วงจากการลดลงของรายได้ครัวเรือนที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกและการเกษตร ประกอบกับสถาบันการเงินระมัดระวังการให้สินเชื่อแก่ครัวเรือนผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวด้วยการแสวงหาตลาดใหม่และจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด

    ด้านการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวเนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่ากำลังการผลิตยังมีเพียงพอต่อความต้องการของตลาดในประเทศและต่างประเทศซึ่งอยู่ในภาวะชะลอตัว การส่งออกสินค้าทรงตัวจากไตรมาสก่อนตามภาวะเศรษฐกิจคู่ค้า โดยเฉพาะคำสั่งซื้อจากจีนและกลุ่มอาเซียนที่ชะลอลง ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังทรงตัว โดยที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯ ที่เน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับบนยังมีกำลังซื้ออยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่กลุ่มที่มีแนวโน้มชะลอตัว ได้แก่ คอนโดมิเนียมระดับกลางถึงระดับล่าง ตลอดจนโครงการคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัด เนื่องจากมีอุปสงค์ที่เบาบางและมีอุปทานส่วนเกินค่อนข้างมาก  อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงส่งที่สำคัญของเศรษฐกิจในไตรมาสนี้ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

    สำหรับ ภาวะธุรกิจในไตรมาสที่ 2 ปี 2558 มีแนวโน้มทรงตัว จากผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจพบว่า ภาวะธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มดีขึ้นจากปัจจุบันเล็กน้อย แต่ในสัดส่วนที่ลดลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่คาดว่าการบริโภคจะฟื้นตัวล่าช้ากว่าที่คาด โดยคงการประเมินว่าการบริโภคจะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 จากผู้บริโภคระดับบนและกลางยังมีกำลังซื้อเพียงแต่ขาดความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจข้างหน้าจึงระมัดระวังการใช้จ่าย

     เช่นเดียวกับการส่งออกสินค้าที่คาดว่าจะยังไม่ฟื้นตัวเนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจคู่ค้ามีความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้การลงทุนภ คเอกชนมีแนวโน้มทรงตัวตามอุปสงค์ทั้งในแล ต่างประเทศที่อ่อนแอ ผู้ประกอบการคาดหวังต่อการลงทุนภาครัฐว่าจะเป็นแรงนำการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ภาคอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มดีขึ้นจากอุปสงค์ในตลาดกลางและบนที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีประกอบกับได้รับปัจจัยบวกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!