WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

คลัง คาดราคาน้ำมันจะมีราคาเฉลี่ยทั้งปีที่ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

   สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รายงานว่า บริษัท EOG Resources ผู้นำด้านการผลิตพลังงาน Shale ในสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตนํ้ามันของสหรัฐฯ จะลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ของหน่วยงานต่างๆ ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงานข้อมูลด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) และ หน่วยงานด้านพลังงานสากล (IEA) ที่มองว่าปริมาณการผลิตของสหรัฐฯ จะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ โดย EOG Resources มองว่าการลดลงอย่างรวดเร็วของแท่นขุดเจาะจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปริมาณการผลิตลดลง ปัจจัยด้านอุปทานดังกล่าวทำให้ทางบริษัทมองว่าความตกตํ่าของราคานํ้ามันดิบในปัจจุบันเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้นและน่าจะมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้ โดยทางบริษัทเองก็ได้มีการปรับแผนเพื่อลดกำลังการผลิตลงถึงครึ่งหนึ่งจากปีก่อนหน้าและลดเงินลงทุน ลงแล้วในปีนี้กว่าร้อยละ 40.0

    สศค. วิเคราะห์ว่า การลดลงของแท่นขุดเจาะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดราคานํ้ามันดิบโลกในช่วงเดือนที่ผ่านมา การลดลงของแท่นขุดเจาะเกิดขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 11 ติดต่อกันนับตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. จนถึงปัจจุบันลดลงแล้วกว่าร้อยละ 35.0 ทำให้จำนวนยอดรวมลงสู่ระดับตํ่าที่สุดนับตั้งแต่ปี 54 โดยนักลงทุนบางส่วนเริ่มมองถึงการวกกลับของราคาแล้ว สะท้อนจากจำนวนสัญญาการซื้อล่วงหน้าสุทธิ (Net long positions) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 และเป็นการเพิ่มครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ ขณะที่ราคาซื้อขายล่วงหน้าก็ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตของสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในสัปดาห์ที่สองของเดือน ก.พ. 58 โดยอยู่ที่ระดับ 9.28 ล้านบาร์เรลต่อวันสูงที่สุดในรอบ 32 ปี แม้ว่าจะมีการลดทรัพยากรในการผลิตทั้งเงินลงทุน จำนวนแท่นขุดเจาะ และกำลังแรงงานขนานใหญ่ก็ตาม ปริมาณการผลิตจะยังเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ราคาจะยังไม่สามารถกลับสู่ระดับเสถียรภาพที่ประมาณ 80.0 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลได้ในระยะเวลาอันสั้น ทั้งนี้ราคานํ้ามันดิบดูไบเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 49.6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลซึ่งยังคงอยู่ในแนวโน้ม ที่ สศค. คาดการณ์ โดยคาดว่าราคาจะค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้นและทำให้ราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 60.0 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!