- Details
- Category: คลัง
- Published: Friday, 06 February 2015 22:03
- Hits: 2093
คลัง เล็ง 1-2 สัปดาห์ ชงครม ขอเงินจ่ายชดเชยความเสียหายจากการปล่อยกู้ตามนโยบายภาครัฐ ให้ "เอสเอ็มอีแบงก์ - ไอแบงก์-ออมสิน กว่า 3 พันลบ.
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้มีการหรือกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 3 แห่ง คือ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) และธนาคารออมสิน เพื่อพิจาณาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปล่อยกู้ตามนโยบายภาครัฐ (พีเอสเอ) 8 โครงการ วงเงินปล่อยกู้เกือบ 2 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลังเตรียมเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ ครม.เห็นชอบกรอบในการชดเชยความเสียหาย
ขณะที่พบว่าทั้ง 8 โครงการดังกล่าวมีหนี้เสีย(เอ็นพีแอล)เกิดขึ้นแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนหนี้เสียประมาณ 15% ของวงเงินที่ปล่อยกู้ แต่บางโครงการยังไม่หมดระยะเวลาดำเนินการ หนี้เสียจึงอาจจะมากกว่านี้ บางโครงการที่ดำเนินการจบแล้วพบว่าหนี้เสียเกิดขึ้นกว่า 80% ของสินเชื่อคงค้าง
ทั้งนี้ โครงการพีเอสเอที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เป็นของเอสเอ็มอีแบงก์ถึง 6 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการเอสเอ็มอีพาวเวอร์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัยในปี 2554 วงเงินปล่อยกู้ 2,000 ล้านบาท ล่าสุดมีสินเชื่อคงค้าง 1,600 ล้านบาท มีหนี้เสียเกิดขึ้น 614 ล้านบาทคิดเป็น 38.38% ของสินเชื่อคงค้าง
2.โครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มปี 2554 วงเงินปล่อยกู้ 2,000 ล้านบาท ล่าสุดมียอดสินเชื่อคงค้าง 526 ล้านบาท มีหนี้เสียเกิดขึ้น 154 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 29.28% ของสินเชื่อคงค้าง
3.โครงการปล่อยกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีย่านราชประสงค์และพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง (เอสเอ็มอีพาวเวอร์เพื่อวันใหม่1) วงเงินปล่อยกู้ 5,000 ล้านบาท ล่าสุดมีสินเชื่อคงค้าง 2,914 ล้านบาท มีหนี้เสียเกิดขึ้น 1,225 ล้านบาท คิดเป็น 42.04% ของสินเชื่อคงค้าง 4.เอสเอ็มอีพาวเวอร์เพื่อวันใหม่ 2 วงเงิน 3,000 ล้านบาท ล่าสุดมีหนี้คงค้าง 1,607 ล้านบาท มีหนี้เสียเกิดขึ้น 647 ล้านบาท คิดเป็น 40.26% ของสินเชื่อคงค้าง
5. เอสเอ็มอีพาวเวอร์เพื่อวันใหม่ 3 วงเงิน 2,000 ล้านบาท ล่าสุดมีหนี้คงค้าง 54 ล้านบาท มีหนี้เสียเกิดขึ้น 5 ล้านบาท คิดเป็น 9.26% ของสินเชื่อคงค้าง และ 6. สินเชื่อฟื้นฟูเอสเอ็มอีหลังภัยพิบัติปี 2554 วงเงินสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท ล่าสุดมีสินเชื่อคงค้าง 1,440 ล้านบาท มียอดหนี้เสียเกิดขึ้น 80 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5.56% ของสินเชื่อคงค้าง
นอกจากนี้ ยังมีโครงการของไอแบงก์ 1 โครงการ คือ โครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัยปี 2553 และปี 2554 ที่มียอดสินเชื่อคงค้าง 697 ล้านบาท มีหนี้เสีย 620 ล้านบาท คิดเป็น 88.95% ของสินเชื่อคงค้าง ส่วนของธนาคารออมสินมี 1 โครงการคือ โครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัยปี 2553 วงเงินสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท ล่าสุดมีสินเชื่อคงค้าง 12 ล้านบาท ยังไม่แจ้งเรื่องเอ็นพีแอล
"หากโครงการใดสามารถปิดโครงการได้แล้ว กระทรวงการคลังคงต้องมีการตั้งงบประมาณมาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับธนาคารที่เข้ามาดำเนินโครงการพีเอสเอ เพราะโครงการดังกล่าวมีมติครม.รองรับไว้ชัดเจน แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการขอชดเชยความเสีย โดยเบื้องต้นคาดว่าจะต้องตั้งงบมาชดเชยความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท"
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
