WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

'สมหมาย'จ่อถก'หม่อมอุ๋ย' วางกรอบงบประมาณ 59 ก.พ.นี้

    แนวหน้า : นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือน ก.พ.2558 เตรียมหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เกี่ยวกับกรอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 โดยจะเสนอให้มีการทำงบประมาณแบบขาดดุลประมาณ 2.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ขาดดุล 2 แสนล้านบาท เพื่อให้มีงบประมาณกระจายไปใช้ในโครงการที่มีความจำเป็น โดยเฉพาะด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข และโครงการลงทุนพื้นฐาน ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่า การใช้จ่ายงบประมาณยังไม่มีความสมบูรณ์ แต่ละรัฐบาลตั้งงบประมาณมาใช้ในโครงการของตัวเอง

   "แนวทางต้องมีการทำงบประมาณแบบขาดดุลเพิ่มขึ้น แต่คงไม่ถึง 5 แสนล้านบาทจนเต็มกรอบ 20% ของงบประมาณรายจ่าย ซึ่งต้องตกลงกับรองนายกฯว่า จะเป็นเท่าใด และยังไม่มีแนวคิดที่จะทำงบประมาณแบบสมดุล เพราะก่อนหน้านี้ที่ตั้งกรอบไว้เพราะกลัวว่า รัฐบาลจะไปทำโครงการประชานิยมจนขาดความระมัดระวัง" นายสมหมาย กล่าว

   นายสมหมาย กล่าวว่า การทำงบประมาณแบบแบบขาดดุลเพิ่มขึ้น ภายใต้เงื่อนไขต้องมีการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น จากการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีด้วย โดยมั่นใจว่า ในปีงบประมาณ 2559 การจัดเก็บรายได้จะเพิ่มขึ้นพอสมควร ทั้งจากการปรับปรุงประสิทธิภาพจัดเก็บ และการอุดช่องโหว่ ซึ่งการจัดเก็บอาจยังไม่เต็มที่เพราะยังไม่ได้รวมภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่คาดว่าจะเริ่มจัดเก็บได้ในกลางปี 2560 ส่วนจะจัดเก็บจะเพิ่มมากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและระดับรายได้ประชาชนหากเศรษฐกิจโตได้ 4-5% ต่อปี ก็จะเก็บรายได้มาก แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีการทำงบประมาณขาดดุลเช่นเดิม

    นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีความจำเป็นที่จะต้องกู้เพื่อมาลงทุน โดยเฉพาะโครงการลงทุนใหญ่ๆ ในระยะยาว เพื่อเป็นการวางรากฐานของประเทศ ซึ่งต้องหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะอาจไปแตะต้องทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่บ้าง ในกรณีเช่น การลงทุนโครงการรถไฟรางคู่ต้องมีการกู้เงินออกพันธบัตรในประเทศ แต่สินค้าทุนยังจำเป็นที่ต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ ก็ต้องนำเงินสกุลบาทไปแลกเงินตราต่างประเทศออกมา ซึ่งเป็นกระบวนการค้าตามปกติ ไม่ได้ไปใช้ในลักษณะตั้งกองทุนจากเงินทุนสำรอง

  สำหรับ การลงทุนในโครงการน้ำที่ชะลอออกไปนั้น มองว่าการลงทุนจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 8-9 ปี และงบประมาณที่ตั้งไว้ 3.5 แสนล้านบาท อาจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งสิ่งสำคัญไม่ใช่เรื่องของเม็ดเงิน แต่อยู่ที่วิธีการที่ต้องทำให้ถูกต้อง มีการศึกษาความเป็นไปได้โครงการให้มีความรอบด้าน ครบถ้วน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!