- Details
- Category: คลัง
- Published: Monday, 31 October 2022 15:48
- Hits: 1488
วันสุดท้ายของการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้ (วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565) เป็นวันสิ้นสุดโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ซึ่งผู้ได้รับสิทธิทุกรายสามารถใช้จ่ายได้ภายในวันนี้จนถึงเวลา 22.59 น. โดย ณ วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2565 มีจำนวนผู้ใช้สิทธิครบวงเงินโครงการ 800 บาทแล้ว จำนวน 11.08 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 46.12 ของผู้ใช้สิทธิทั้งหมด และมีจำนวนผู้ใช้สิทธิใกล้ครบวงเงินโครงการ 800 บาท (วงเงินคงเหลือน้อยกว่า 200 บาท) จำนวน 10.82 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 45.05 ของผู้ใช้สิทธิทั้งหมด จึงขอเชิญชวนผู้ที่ยังมีสิทธิคงเหลือ เร่งใช้จ่ายให้ครบวงเงินโครงการภายในระยะเวลาที่กำหนด
สำหรับ ความคืบหน้าการใช้สิทธิมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 โฆษกกระทรวงการคลังเผยว่า จากข้อมูลสะสม ณ วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2565 เวลา 23.00 น. มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวม 38.26 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสมทั้งสิ้น 42,269.8 ล้านบาท โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้
1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 13.16 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 5,172.8 ล้านบาท
2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 1.08 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 392.2 ล้านบาท
3. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 24.02 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายรวม 36,704.8 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 18,696.1 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 18,008.7 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับยอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 15,313.2 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 7,418.1 ล้านบาท ร้าน OTOP 1,767.4 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 11,564.7 ล้านบาท ร้านบริการ 594.7 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 46.7 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมแล้วจำนวน 9.71 แสนราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 2.33 หมื่นราย