- Details
- Category: คลัง
- Published: Sunday, 07 December 2014 20:07
- Hits: 3301
คลังไฟเขียวแก้กม.3 กรมภาษี เตรียมชงเข้าครม.เข็นออกใช้ปี’58
แนวหน้า : แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้พิจารณาแก้ไขกฎหมายของ 3 กรมภาษี ที่เสนอขึ้นมาแล้ว โดยได้เห็นชอบตามหลักการสำคัญๆ ที่แต่ละกรมเสนอมา และทยอยส่งให้นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เพื่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาเป็นกฎหมายออกมาบังคับใช้ให้ได้ภายในปี2558
การแก้ไขกฎหมายภาษีที่สำคัญ เป็นของกรมสรรพสามิต ที่ได้มีการรวบกฎหมาย 7 ฉบับ ให้เหลือฉบับเดียว และเปลี่ยนแปลงฐานการเก็บภาษีจากเดิมใช้ราคาหน้าโรงงานสำหรับสินค้าที่ผลิตในประเทศ และฐานภาษีสำแดงราคานำเข้าสินค้า (ซีไอเอฟ) จากสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ ให้มาใช้จากราคาขายปลีกทั้งหมด เพื่อป้องกันการแจ้งราคาหน้าโรงงาน หรือซีไอเอฟ ต่ำกว่าเป็นจริง จะทำให้กรมสรรพสามิต เก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น โดยที่ไม่ต้องขึ้นอัตราภาษี
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้สั่งการให้กรมศุลกากรศึกษาผลกระทบจากการแก้ไขกฎหมายสรรพสามิตดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ขอเปิดเขตปลอดอากร (ฟรีโซน) เพื่อนำสินค้าเข้ามาประกอบการขายต่างประเทศ แต่ที่ผ่านมาได้ใช้ช่องทางนี้ผลิตสินค้าเพื่อขายในประเทศ โดยใช้สิทธิของเขตการค้าเสรีเสียภาษีอัตราต่ำ จะได้รับผลกระทบทำให้ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น
“เขตปลอดอากรมีเป้าหมาย ให้นำสินค้าเข้ามาประกอบเพื่อการส่งออก ไม่ได้ให้นำเข้ามาเพื่อผลิตขายในประเทศ ดังนั้นผู้ประกอบการที่มาประกอบการเพื่อขายในประเทศ ก็ต้องยอมรับว่าจะมีภาระภาษีเพิ่มขึ้นแต่กระทรวงการคลังได้สั่งการให้กรมศุลกากรไปดูและเตรียมแก้ไขปัญหา หากผู้ประกอบการร้องเรียนว่าไทยไม่ทำตามข้อตกลงการค้าโลก” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับ การแก้ไขกฎหมายของกรมศุลกากรอยู่ระหว่างการพิจารณาของฝ่ายกฎหมายของกระทรวง จะเสนอให้นายสมหมาย เห็นชอบ ส่งให้ ครม. อนุมัติต่อจากกฎหมายของกรมสรรพสามิต ซึ่งเห็นชอบตามหลักการที่กรมเสนอขึ้นมา ทั้งเรื่องการแก้ไขรางวัลสินบนนำจับให้ลดลงจากปัจจุบัน สินบนได้ 30% กับผู้แจ้งเบาะแส และรางวัล 25% ให้กับเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีการกำหนดเพดาน ได้มีการแก้ไขเป็นสินบน 30% แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ส่วนรางวัลลดเหลือ 15% แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังแก้กฎหมายเรื่องบทลงโทษ จากเดิมความผิดสำคัญของกรมศุลกากร 3 ประเภท ได้แก่ 1.การลักลอบนำเข้าสินค้า 2.การหลีกเลี่ยง เช่น สำแดงราคา หรือ อัตราภาษีไม่ตรง และ 3.หลีกเลี่ยงข้อห้ามกำกับ เช่น ไม่มีใบอนุญาต ทั้งหมดจะมีโทษเท่ากันหมด คือ ปรับ 4 เท่า ของราคาสินค้ารวมอากร และจำคุกไม่เกิน 10 ปี ซึ่งได้แก้ไขใหม่เพื่อศาลใช้ดุลพินิจในการลงโทษตามความหนักเบาของความผิด กรณีลักลอบ มีโทษปรับ 0.5-4 เท่า ของราคารวมอากร โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี กรณีหลีกเลี่ยงโทษปรับ 0.5-4 เท่า ของราคาหรืออากรที่ขาดไป โทษจำคุก 3 เดือน ถึง 10 ปี และการหลีกเลี่ยงข้อห้ามกำกับ ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท โทษจำคุก 3 เดือน ถึง 10 ปี
ส่วนการแก้ไขกฎหมายของกรมสรรพากรเสนอแก้ไขเงินเพิ่มจาก 1.5% เดือน เป็น 7.5% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น และการลดอัตราภาษีนิติบุคคลให้เหลือ 20% รวมถึงการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากอัตราแบบขั้นบันได 5 อัตรา เป็นถี่ขึ้น 7 อัตรา จากอัตราสูงสุด 37% เป็น 35% ให้เป็นการถาวร
ยกเครื่องกฎหมาย 3 กรมภาษีฉลุย สรรพสามิตรีดจากขายปลีกชง'ขุนคลัง'เสนอครม.เคาะ
ไทยโพสต์ * คลังไฟเขียว แผนยกเครื่องกฎหมาย 3 กรมภาษี ชง "สมหมาย" เสนอ ครม. เปิดทางสรรพสามิตรีดภาษีสินค้าจากราคาขายปลีก สั่งศุลกากรศึกษาผลกระทบ ผู้ประกอบการขอเปิดเขตปลอดอากร คาดออกเป็นกฎหมายได้ภายในปี 2558
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้พิจารณาแก้ไขกฎ หมายของ 3 กรมภาษี ได้แก่ กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร และกรมศุลกากร ที่ได้เสนอมา แล้ว โดยเห็นชอบตามหลักการ สำคัญๆ ที่แต่ละกรมเสนอ และ ทยอยส่งให้นายสมหมาย ภาษี รมว.การคลัง เสนอให้คณะรัฐ มนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาเป็นกฎหมายออกบังคับใช้ให้ได้ภายในปี 2558
สำหรับ การแก้ไขกฎหมาย ของกรมสรรพสามิต ได้มีการรวบกฎหมาย 7 ฉบับ ให้เหลือฉบับเดียว และมีการเปลี่ยนแปลง ฐานการเก็บภาษี จากเดิมใช้ราคาหน้าโรงงานสำหรับสินค้าที่ผลิตในประเทศ และราคาสำ แดงนำเข้าจากสินค้าที่นำเข้า จากต่างประเทศ ให้มาใช้จากราคาขายปลีกทั้งหมด เพื่อป้องกันการแจ้งราคาหน้าโรงงานต่ำกว่าเป็นจริง จะทำให้กรมฯ เก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องขึ้นอัตราภาษี
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้สั่งการให้กรมศุลกากรไปศึกษาดูผลกระทบจากการแก้ไขกฎหมายสรรพสามิตดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ขอเปิดเขตปลอดอากร เพื่อนำสิน ค้าเข้ามาประกอบการขายต่างประเทศ แต่ที่ผ่านมาได้ใช้ช่องทางนี้ผลิตสินค้าเพื่อขายในประ เทศ โดยใช้สิทธิ์ของเขตการค้า เสรีเสียภาษีอัตราต่ำ จะได้รับผลกระทบทำให้ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น และที่ผ่านมามีผู้ประ กอบการต่างประเทศหารือว่าจะได้รับผลกระทบอย่างมาก
สำหรับ การแก้ไขกฎ หมายของกรมศุลกากร ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของฝ่ายกฎหมายของกระทรวง จะเสนอให้นายสมหมายพิจารณา ก่อนส่งให้ ครม.อนุมัติต่อจากกฎหมายของกรมสรรพสามิต ซึ่งเห็นชอบตามหลักการที่กรมเสนอขึ้นมา ทั้งเรื่องการแก้ไขรางวันสินบนนำจับให้ลดลงจากปัจจุบัน สินบนได้ 30% กับผู้แจ้งเบาะแส และรางวัล 25% ให้กับเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีการกำ หนดเพดาน ได้มีการแก้ไขเป็นสินบน 30% แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ส่วนรางวัลลดเหลือ 15% แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีการแก้กฎหมายเรื่องบทลงโทษ จากเดิมความผิดสำคัญของกรมศุลกากร 3 ประเภท ได้แก่ 1.การลักลอบนำเข้าสินค้า 2. การหลีกเลี่ยง เช่น สำแดงราคา หรืออัตราภาษีไม่ตรง และ 3 หลีกเลี่ยงข้อห้ามกำกับ เช่น ไม่ มีใบอนุญาต ทั้งหมดจะมีโทษเท่ากันหมด คือปรับ 4 เท่าของ ราคาสินค้ารวมอากร และจำคุกไม่เกิน 10 ปี ซึ่งได้มีการแก้ ไขใหม่เพื่อศาลใช้ดุลพินิจในการลงโทษตามความหนักเบาของความผิด กรณีลักลอบมีโทษ ปรับ 0.5-4 เท่าของราคารวมอากร โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี กรณีหลีกเลี่ยงโทษปรับ 05-4 เท่า ของราคาหรืออากรที่ขาดไป โทษจำคุก 3 เดือน ถึง 10 ปี และการหลีกเลี่ยงข้อห้ามกำกับ ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท โทษจำคุก 3 เดือน ถึง 10 ปี
อย่างไรก็ตาม ได้ขอให้กรมศุลกากรทบทวนเรื่องเงินเพิ่มที่ปรับกับผู้เสียภาษีไม่ครบ จาก 1.5% ต่อเดือน ให้เป็น 7.5% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขกฎหมายของกรมสรรพากร ที่มีการเสนอแก้ไขเงินเพิ่มจาก 1.5% เดือน เป็น 7.5% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น
สำหรับ การแก้ไขกฎ หมายกรมสรรพากร ยังมีเรื่องการลดอัตราภาษีนิติบุคคลให้ เหลือ 20% และการลดภาษีบุคคลธรรมดา จากอัตราก้าว หน้า 5 อัตรา เป็น 7 อัตรา จากอัตราสูงสุด 37% เป็น 35% ให้เป็นการถาวร.
