- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 18 August 2022 11:54
- Hits: 6036
สวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการลงทะเบียน
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เป็นการปรับปรุงฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยให้เป็นปัจจุบัน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย และมีการเพิ่มเติมคุณสมบัติในการคัดกรองเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตัวตนผู้มีรายได้น้อยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยโครงการฯ ได้รับความร่วมจากหน่วยงานอีก 47 หน่วยงาน ซึ่งจะเป็นหน่วยงานรับลงทะเบียนและหน่วยงานที่ช่วยในการตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นผู้มีรายได้น้อยตามหลักเกณฑ์ที่โครงการฯ กำหนดเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทะเบียนมีคุณสมบัติเป็นผู้มีรายได้น้อยตัวจริงที่สมควรได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ตลอดจนเป็นการช่วยให้รัฐบาลใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่ผู้ที่ต้องการได้รับความช่วยเหลืออย่างแท้จริง
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ เป็นไปอย่างเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ กระทรวงการคลังจึงได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 โดยมีหน่วยงานที่เข้าร่วมในพิธีทั้งสิ้น 37 หน่วยงาน แบ่งเป็นหน่วยงานรับลงทะเบียน จำนวน 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กรมบัญชีกลาง (สำนักงานคลังจังหวัด) กรมการปกครอง (ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ) กรุงเทพมหานคร (สำนักงานเขต) และสำนักงานเมืองพัทยา
และหน่วยตรวจสอบคุณสมบัติที่มาเข้าร่วมพิธีลงนามวันนี้ จำนวน 33 หน่วยงาน จากหน่วยตรวจสอบคุณสมบัติทั้งสิ้น 47 หน่วยงาน เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทยจะเป็นผู้แทนในการลงนามของธนาคารพาณิชย์และบริษัทเงินทุน สำหรับหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่เข้าร่วมลงนามในวันนี้ ได้แก่ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร กรมการปกครอง กรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา กรมที่ดิน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานประกันสังคม สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การยางแห่งประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมการขนส่งทางบก กรมการกงสุล กรมราชทัณฑ์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมควบคุมโรค สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรมหม่อนไหม การท่าเรือแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด และบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
รวมทั้งหน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ซึ่งหน่วยงานทั้งหมดจะร่วมมือกันดำเนินการในโครงการฯ ปี 2565 เช่น การรับลงทะเบียน การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน การประมวลผล การจัดทำฐานข้อมูล การประกาศผลผู้มีสิทธิ์ เป็นต้น ให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างราบรื่นภายในระยะเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมได้กำหนดวันลงทะเบียนโครงการฯ เป็นช่วงระหว่างวันที่ 5 กันยายน – 19 ตุลาคม 2565 โดยประชาชนที่มีคุณสมบัติและต้องการได้รับสวัสดิการภายใต้โครงการฯ ปี 2565 ทุกคนจะต้องลงทะเบียนใหม่ ผ่านช่องทางการลงทะเบียนทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือhttps://welfare.mof.go.th และช่องทางการลงทะเบียน ณ หน่วยงาน
รับลงทะเบียนในพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ สำนักงานคลังจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร สำนักงานเมืองพัทยา สาขาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาธนาคารออมสิน และสาขาธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) รวมทั้งจุดให้บริการของธนาคารดังกล่าวมากกว่า 7,000 แห่ง โดยประชาชนสามารถดูรายละเอียดการดำเนินโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th
สถ. ร่วมมือภาคีเครือข่าย ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565
ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ กระทรวงการคลัง นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปรับปรุงฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยให้เป็นปัจจุบัน
ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย และมีการเพิ่มเติมคุณสมบัติในการคัดกรองเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตัวตนผู้มีรายได้น้อยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยโครงการฯ ได้รับความร่วมจากหน่วยงานอีก 47 หน่วยงาน ซึ่งจะเป็นหน่วยงานรับลงทะเบียนและหน่วยงานที่ช่วยในการตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นผู้มีรายได้น้อยตามหลักเกณฑ์ที่โครงการฯ กำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทะเบียนมีคุณสมบัติเป็นผู้มีรายได้น้อยตัวจริงที่สมควรได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ตลอดจนเป็นการช่วยให้รัฐบาลใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่ผู้ที่ต้องการได้รับความช่วยเหลืออย่างแท้จริง
บันทึกความร่วมมือดังกล่าว เป็นการผนึกกำลังของ 37 หน่วยงาน แบ่งเป็นหน่วยงานรับลงทะเบียน จำนวน 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กรมบัญชีกลาง (สำนักงานคลังจังหวัด) กรมการปกครอง (ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ) กรุงเทพมหานคร (สำนักงานเขต) และสำนักงานเมืองพัทยา และหน่วยตรวจสอบคุณสมบัติที่มาเข้าร่วมพิธีลงนามวันนี้ จำนวน 33 หน่วยงาน
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทำหน้าที่เป็นหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติและข้อมูลของผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน