- Details
- Category: คลัง
- Published: Saturday, 19 March 2022 23:26
- Hits: 10047
ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาฯ เดินหน้าแก้ไขสัญญาตัวแทนจำหน่าย เพิ่มโทษทางแพ่งและอาญา พร้อมยืนยัน ปัญหาสลากเกินราคาลดความรุนแรงใน 2 เดือน
ที่ห้องประชุม สำนักงาน ก.พ.(เดิม) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า จากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใยปัญหาดังกล่าว และกำชับให้คณะทำงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
คณะทำงานได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ควรปรับปรุงแก้ไขสัญญาการรับสลากไปจำหน่ายของตัวแทนจำหน่ายทุกประเภท ให้มีสภาพบังคับทางแพ่งด้วยการกำหนดเบี้ยปรับสำหรับตัวแทนที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา และวางแนวทางในการพิจารณาโทษทางอาญารวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่ม ในกรณีผู้กระทำผิดซ้ำหรือกรณีนำสลากไปรวมชุด หรือพฤติกรรมนายทุนกว้านซื้อสลากแล้วจำหน่ายในราคาสูง
นายเสกสกลฯ กล่าวต่อไปอีกว่า ปัญหาอย่างหนึ่งสลากเป็นสินค้าที่เปลี่ยนมือได้ ใครต้องการขายสลาก ก็สามารถไปซื้อมาขายต่อได้ ทำให้มีผู้ขายสลากหน้าใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้น นอกจากมาตรการและแนวทางต่างๆ ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เร่งดำเนินการทั้งในระยะสั้น ได้แก่ โครงการสลาก 80 โครงการลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ตลอดจนโครงการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของสำนักงานสลากฯ และแผนในระยะยาว คือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว
คณะอนุกรรมการ เห็นว่า การออกใบอนุญาตให้กับผู้จำหน่ายสลาก และมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ น่าจะเป็นอีกแนวทางที่นำมาประกอบการแก้ปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม แนวทางต่างๆ เหล่านี้ ยังต้องนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) เป็นประธาน ซึ่งมีกำหนดการประชุมในปลายเดือนนี้ เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับ การลงพื้นที่ตรวจสอบที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยชุดเฉพาะกิจ นำโดย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร หัวหน้าชุดนั้น เบื้องต้น ยังไม่พบการกระทำที่ผิดปกติ แต่ยังคงมีเรื่องของการมอบอำนาจ ซึ่งตนเห็นว่าควรเป็นเรื่องปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ จะมีหนังสือถึงกรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ขอให้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ในการเบิกจ่ายสลากฯ ของที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ในส่วนของการลงพื้นที่ตรวจสอบแผงจำหน่ายสลากทั่วประเทศ ในช่วงที่ผ่านมา ก็ได้รับทราบข้อมูลการจำหน่ายสลากของผู้ขายเพื่อจะนำมาประกอบการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า อย่างไรก็ตาม ตนยังคงยืนยันจะสามารถสรุปสาเหตุ และแนวทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงของราคาสลากให้เกิดผลในทางปฏิบัติได้ภายในเดือน พฤษภาคม 2565 ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ 2 เดือน ที่ระบุไว้
ลงพื้นที่ตรวจสอบความผิดปกติ การรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัดโควตาผู้ได้รับสิทธิ
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งกองบังคับการสืบสวนสอบสวนทั่วประเทศ ลงพื้นที่ตรวจสอบความผิดปกติ การรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ และตรวจสอบแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง หากพบการทำผิดเงื่อนไขของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะเสนอตัดโควตาผู้ได้รับสิทธิต่อไป
ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา โดยนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองประธานคณะทำงาน เป็น หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ดำเนินการ ให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าว และได้มีการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ครั้งที่ 2/2565 ในวันนี้ (18 มี.ค.65) เวลา 13.30 น. ณ สำนักงาน ก.พ. นั้น
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนทั่วประเทศ ลงพื้นที่ตรวจสอบการแจกจ่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้แก่ผู้มีสิทธิ์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์เป้าหมาย ที่มีการลงทะเบียนของผู้มีสิทธิ์รับสลากเป็นจำนวนมาก ของงวดวันที่ 16 มี.ค.65 จำนวน 40 แห่งทั่วประเทศ ผลการตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ จากผู้มีสิทธิรับสลากอย่างเคร่งครัด หากไม่ได้มารับด้วยตนเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านฉบับจริงมาแสดงเท่านั้น
รวมผู้มีสิทธิรับสลาก 47,398 ราย มารับด้วยตนเอง 37,559 ราย ได้รับมอบอำนาจ 8,628 ราย และยังไม่ได้มารับ 1,211 ราย จากการตรวจสอบ พบพฤติกรรมกลุ่มนายทุนที่มารับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากผู้มีสิทธิ์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์บางขุนเทียน กรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียงของไปรษณีย์เอราวัณ จ.เลย แต่เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มนายทุนจึงได้สลายตัวไป ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนต่อไป จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบการแจกจ่ายสลากสำหรับงวดวันที่ 1 เม.ย.65 อย่างต่อเนื่องต่อไป โดยให้เพิ่มจำนวนที่ทำการไปรษณีย์เป้าหมาย ที่มีการลงทะเบียนของผู้มีสิทธิ์รับสลากเป็นจำนวนมาก เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ จาก 40 แห่ง เป็น 95 แห่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนทั่วประเทศ ลงพื้นที่ตรวจสอบแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว 764 เป้าหมาย ผลการตรวจสอบพบกรณีผู้ที่ได้รับสิทธิฯ นำไปขายช่วงให้แก่ผู้อื่นหรือนำไปจำหน่ายเกินราคา จำนวนหลายรายในหลายพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน และส่งข้อมูลในทางสืบสวนให้แก่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อตัดโควตาผู้ได้รับสิทธิฯ ในส่วนการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้ตรวจพบว่า มีการจำหน่ายเกินราคา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข กล่าวต่อว่า ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลในตลาด ณ ปัจจุบัน มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนนี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนที่ต้องซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เกินราคาที่กำหนด ซึ่งตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องการจะแก้ไขความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
ดังนั้น จึงขอประชาสัมพันธ์ และขอความร่วมมือผู้ที่ได้รับสิทธิฯ และผู้ที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ให้รักษาสิทธิของตนเอง โดยการดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ทำไว้กับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะหากทำผิดเงื่อนไข สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะดำเนินการตัดสิทธิโควตาที่ได้รับทันที