WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

รมว.คลัง แจงไทย ต้องมีมาตรการกระตุ้น ศก.ระยะสั้นเพื่อดัน จีดีพีปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 1.5 %เหตุภาพรวม ศก.ในครึ่งปีแรกยังอ่อนไหวจากการเมือง

     นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค (APEC Finance Ministers’ Meeting: APEC FMM) ครั้งที่ 21 เมื่อวันที่ 21-22 ตุลาคม 2557 ณ กรุงปักกิ่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี Mr.Lou Jiwei รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจีน เป็นประธาน และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจากสมาชิกเอเปค 19 เขตเศรษฐกิจเข้าร่วมการประชุมด้วย พร้อมกับผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศ ประกอบด้วย กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ธนาคารโลก (World Bank) ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development) โดยได้มีการหารือเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปคที่ชะลอกว่าที่คาดและมีความเสี่ยงขาลง (Downside risk) สูง ทำให้สมาชิกเอเปคต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นเพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งรวมถึงการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้มีความมั่นคงและยั่งยืนผ่านการปฏิรูปนโยบายการคลังและภาษี การให้ภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานผ่านกระบวนการ PPP และการพัฒนาบริการด้านการเงินอย่างสร้างสรรค์ให้สามารถเข้าถึงประชาชนทุกระดับ

  ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลกและให้องค์กรระหว่างประเทศมีบทบาทเชิงรุกมากขึ้น อีกทั้ง ได้กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทย

   ในครึ่งปีแรกที่ยังอ่อนไหวอันเนื่องมาจากความไม่สงบทางการเมืองที่ผ่านมา ทำให้ต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เพื่อให้สามารถขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 ในปี 2557 ทั้งนี้ รัฐบาลจะทำการปรับโครงสร้างด้านเศรษฐกิจและด้านการคลังเพื่อลดช่องว่างของฐานะทางเศรษฐกิจ และเร่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนต่อไป

   ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ให้สัมภาษณ์รายการ Biz Talk ของสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีน เกี่ยวกับการหารือในการประชุมเอเปคครั้งนี้ว่า ไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ กับประเด็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นพิเศษ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และพร้อมที่จะให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการต่างๆ ด้วย พร้อมทั้งได้เน้นย้ำให้ความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยที่ได้กลับเป็นปกติแล้ว และหวังว่านักลงทุนและนักท่องเที่ยวจีนจะสนใจเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!