- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 22 May 2014 22:37
- Hits: 3722
ท่องเที่ยว-ลงทุนอาการหนัก สศค.ชี้จีดีพีปี 57 โตไม่ถึง 2.6%
แนวหน้า : สศค.เตรียมลดประมาณการณ์จีดีพีปี 57 จากเดิมที่คาดว่าจะโต 2.6% อ้างกฎอัยการศึกกระทบเชื่อมั่นนักลงทุน และนักท่องเที่ยว ลุ้นการเมืองยุติเร็ว มีรัฐบาลใหม่เข้ามา ช่วยฟื้นความเชื่อมั่น
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่าสศค.เตรียมปรับลดประมาณการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีปี 2557 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ จากเดิมที่คาดว่าทั้งปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 2.6% ต่อปีซึ่งอยู่บทสมมุติฐานที่ว่าต้องมีรัฐบาลชุดใหม่ภายในไตรมาสที่ 3 แต่หลังจากที่ได้มีการประกาศกฎอัยการศึก เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว และนักลงทุนลดลงไปมากกว่าเดิม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่สงบอยู่แล้ว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีที่คาดว่าจะอยู่ที่ 27-28ล้านคน แต่หลังจากที่ได้มีการประกาศกฎอัยการศึกคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงไปอีก ซึ่งจะส่งผลให้กระทบโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจของไทย โดยสศค.ต้องทำการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจในทุกแห่งถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นมาประกอบการปรับประมาณการณ์จีดีพีในครั้งนี้
“หลังมีประกาศกฎอัยการศึกทำให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น แต่จะลดจีดีพีลงเหลือเท่าไรนั้นอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล และพิจารณาจากสถานการณ์ทางการเมือง เพื่อประเมินตัวเลขที่จะออกมาแต่ก็ยังเชื่อว่าจะกระทบเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ” นางสาวกุลยา กล่าว
สศค.ยังคงหวังว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะหาข้อยุติได้โดยเร็วและมีรัฐบาลชุดใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาเพื่อให้ความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวต่างชาติ และจากนักลงทุนกลับมา ตลอดจนเข้ามากำหนดนโยบายใหม่ๆเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจลับมาฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง
สำหรับ ในปลายเดือนพฤษภาคมนี้สศค.เตรียมรายงานภาพรวมเศรษฐกิจเดือนเมษายนเบื้องต้นพบว่าการท่องเที่ยวไทยยังอยู่ในระดับที่ติดลบแต่ก็ถือว่าดีขึ้นจากเดือนมีนาคมเนื่องจากในเดือนเมษายนอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยมากขึ้น
อนึ่ง ก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)หรือ สภาพัฒน์ ได้ปรับลดจีดีพีปี2557ลงเหลือ 1.5-2.5% หลังจากที่เศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกติดลบ2.1%เหตุผลหลักมาจากปัญหาการเมืองทำให้การบริโภค การลงทุนในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง