WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บี้ปรับโครงสร้างหนี้จำนำข้าว สบน.เร่งเช็กสต็อกตีมูลค่า'พาณิชย์'ระบาย 5 หมื่นตัน

    ไทยโพสต์ * ‘สมหมาย’สั่งเข้มเร่งปรับโครงสร้างหนี้จำนำข้าว 6.8 แสนล้านบาท จี้ ธ.ก.ส.หารือร่วม สบน. พร้อมบี้สรุปยอดข้าวใน สต็อกเพื่อตีมูลค่าที่คาดจะขายได้ ‘พาณิชย์’ชง’ฉัตรชัย’ ไฟเขียวขายข้าวให้กับผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ 5 หมื่นตัน

     รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการประ ชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มี นายสมหมาย ภาษี รมว.การคลัง เป็นประธาน เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา มีวาระสำคัญ เรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ในโครงการรับจำนำข้าวที่มีอยู่กว่า 6.8 แสนล้านบาทใหม่ โดยมอบหมายให้ ธ.ก.ส.เข้าหารือกับสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เป็นการเร่งด่วน โดยให้สรุปยอดข้าวที่อยู่ในสต็อกเพื่อตีเป็นมูลค่าที่คาดว่าจะขายได้ แล้วเอามาลบกับยอดหนี้ที่กู้มาแบบเทอมโลนทั้งหมด

     โดยเงินกู้ที่เหลือที่เป็นส่วนต่าง จะให้ สบน.ออกพันธ บัตรเพื่อมาแปลงหนี้เทอมโลนดังกล่าวให้เป็นหนี้ระยะยาว ส่วน หนึ่งเพื่อใช้หนี้คืน ธ.ก.ส. ในส่วนที่มีผลขาดทุนเกิดขึ้น และอีกส่วน หนึ่งเพื่อเป็นการลดภาระดอก เบี้ยที่เกิดขึ้น เนื่องจากหนี้ที่กู้มา แบบเทอมโลน จะมีภาระดอก เบี้ยทั้งส่วนที่ต้องจ่ายให้สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ เฉลี่ยที่ 3% และค่าบริหารจัดการที่ต้องจ่ายให้ ธ.ก.ส.ในอัตรา FDR+1 หรืออยู่ที่ระดับ 4% โดย รมว.การคลัง ต้องการให้มีการสรุปเรื่องดังกล่าว โดยเร็ว ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการนำเข้าหารือในการประชุมคณะกรรม การ ธ.ก.ส.อีกครั้งปลายเดือนนี้

    นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดี กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผย ว่า หลังจากที่กรมได้ออกประกาศ การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกรัฐบาลให้กับภาคเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเพื่อการส่งออกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านา ปรากฏว่ามีผู้สนใจยื่นซื้อข้าวสารสต็อกรัฐบาลหลายแสนตัน ซึ่งกรมได้ เจรจาต่อรองและอนุมัติขายให้กับเอกชน 4-5 ราย ปริมาณข้าว 5 หมื่นตัน โดยเสนอให้ พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พิจารณาแล้ว

    ทั้งนี้ การเปิดขายข้าวให้กับผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ยืนยันว่ามีความโปร่งใส และเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ระบายข้าวที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ซึ่งมี 4 วิธี คือ ระบายผ่านจีทูจี ประมูล ขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า และขายตรงให้กับผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ โดยการขายตรงมีการตั้งคณะทำงานพิจารณาต่อรองการอนุมัติขาย โดยใช้หลักการเดียวกับการประ มูล คือ มีราคาขั้นต่ำ (ฟลอร์ไพรซ์) และยังต้องนำราคาประมูลมา เทียบเคียง เพื่อเจรจาต่อรองราคา ซึ่งเอกชนรายเล็กก็สามารถยื่นซื้อข้าวเข้ามาได้ โดยวิธีอาจจะรวมตัวแล้วมายื่นซื้อกับรัฐ ส่วนเอกชนรายใหญ่กรมได้มีช่องทางความร่วมมือการไปขายผ่านจีทูจีร่วมกัน ขณะที่เอกชนที่ไม่ได้อยู่ในสมาคมผู้ส่งออกข้าวก็สามารถซื้อข้าวรัฐผ่านวิธีการประมูล

   อย่างไรก็ดี การเปิดประ มูลข้าวสารสต็อกรัฐบาลในรอบ 3 นั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการชะลอ เพียงแต่ต้องรอผลการตรวจสอบคุณภาพข้าว

   ขณะที่ความคืบหน้าการ ขายข้าวผ่านจีทูจี ในเดือน ต.ค.นี้ จะมีการเจรจากับคอฟโก รัฐวิสาห กิจของจีน ที่จะตกลงในรายละเอียด การนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มเติมในกรอบ 1 ล้านตัน ซึ่งเพิ่งมีการนำเข้าไปเพียง 2 แสนตัน นอกจากนี้ ในเดือน พ.ย.ทางอิหร่านจะเดินทางมาไทย เพื่อเจรจาซื้อข้าวกับรัฐบาลไทย โดยอิหร่านจะส่งคณะจากกระทรวงสาธารณสุขมาดูคุณภาพข้าวจากไทย ก่อนที่จะตกลงซื้อขาย

   "เมื่อรวมการระบายข้าวไปแล้ว 2 ครั้ง และการขายตรงอีก 5 หมื่นตัน ทำให้รัฐสามารถระบายข้าวได้แล้ว 2-3 แสนตัน ก็จะเร่งทยอยระบายต่อไป โดยไม่ให้กระทบกับราคาตลาด"

    ส่วนผลการประมูลข้าวในสต็อกรัฐบาล ครั้งที่ 2 /2557 มีผู้มีการอนุมัติขายข้าวให้แก่เอกชนรวม 13 ราย ในปริมาณ 72,085 ตัน จากกว่า 139,000 ตัน มูลค่ารวม 909 ล้านบาท.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!