- Details
- Category: คลัง
- Published: Thursday, 18 September 2014 22:54
- Hits: 2933
รัฐเล็งกู้เงินใหม่ 7 แสนล. เน้นใช้พัฒนาระบบรางคาดส่งออกปี 58 โต' 1%'
ไทยโพสต์ : พระราม 6 * คลังเปิดแผนกู้เงินรัฐบาลปีงบ 58 ที่ 7.05 แสนล้านบาท แจง พ.ย.-ธ.ค.นี้เตรียมคลอดบอนด์ออมทรัพย์ 3.8 หมื่นล้านบาท นักวิชาการระบุส่งออกไทยปีนี้อาจโตแค่ 1%
นายสุวิชญ โรจนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน.ได้ประ ชุมหารือกับหน่วยงาน เช่น ธนา คารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คณะ กรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) และสถาบันการเงินต่างๆ ถึงแผน การระดมทุนของรัฐบาลในปีงบ ประมาณ 2558 ที่ต้องการกู้เงินจากตลาดการเงิน จำนวน 7.05 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินกู้ใหม่ 3.15 แสนล้านบาท และเป็นการกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เดิม 3.9 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนของการกู้ใหม่ จะมีการออกเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ขายให้กับประชาชนรายย่อย วงเงินประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ทั่วไป อายุ 3 ปี จำนวน 2 ครั้ง วงเงินครั้งละ 4 พันล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษ อายุ 5 ปี จำ นวน 1 ครั้ง มีระยะเวลาจำหน่าย 2 ปี วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท คาดว่า จะขายภายในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.2257 นี้ โดยผลตอบแทนจะสูงกว่าการออมช่องทางอื่น
"ขณะนี้ สบน.อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมในการออกพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อระดมทุนกับประชาชนทั่วไปเป็นไตรมาสละ 1 ครั้ง จากปกติ 4 เดือนครั้ง โดยคงต้องดูความเหมาะสมและความต้องการของตลาดเป็นแนวทางการพิจารณาที่สำคัญ"นายสุวิชญกล่าว
นอกจากนี้ แผนการกู้เงินใหม่ของรัฐบาลจะมีการกู้เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 5.9 หมื่นล้านบาท จากแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในปี 2558 ทั้งหมดที่ 9.5 หมื่นล้านบาท โดยการกู้เงินของ สบน.ครั้งนี้จะใช้ในโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟรางคู่เป็นหลัก ซึ่งจะเป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงิน เพราะสามารถทยอยเบิกเงินได้ตามความต้องการใช้เงินจริง ดีกว่าการออกพันธบัตรรัฐบาล
ด้านนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ยืนยันว่ากระทรวงการคลังไม่มีนโยบายออกพันธบัตรรัฐบาลอายุ 100 ปี เพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากอายุยาวเกินไป และไม่มีอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง และไม่เป็นที่สนใจลงทุนของนักลงทุนด้วย
นายสมชาย ภคภาสวิวัฒน์ นักวิชาการอิสระ กล่าวในงานสัมมนา'ประเมินเศรษฐกิจ พิชิต ปัจจัยเสี่ยง รับมือทั้งตลาดเงินและตลาดหุ้น'ที่จัดโดยธนาคารกสิกรไทย ว่า ภาคการส่งออกของไทยปีนี้คาดโตได้ที่ 1% เนื่อง จาก 7-8 เดือนที่ผ่านมาโตติดลบ ซึ่งหากต้องการให้โตได้ที่ 3% การ ส่งออกครึ่งปีหลังต้องทำได้ถึง 8% ทั้งนี้ มองว่าเศรษฐกิจโลกในประเทศหลักยังมีปัญหา จึงมี ส่วนทำให้การส่งออกขยายตัวได้น้อย เพราะเศรษฐกิจไทยปรับ ตัวไม่ทัน ส่งผลให้การส่งออกที่คาด ว่าจะเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อน การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไม่ได้ช่วยมากนัก จึงคาดว่าจีดีพีปีนี้จะโตได้ที่ 2% ส่วนในปีหน้าโต 4%
อย่างไรก็ตาม มองว่าการเบิกจ่ายของภาครัฐจะเป็นตัวช่วยในเรื่องเศรษฐกิจได้ แต่จะเห็นผลได้ชัดเจนในปีหน้า โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่ค้างอยู่ 700,000 ล้านบาท ซึ่งหากเร่งดำเนินการก็จะส่งผลดี และถ้าทั้งปีมีตัวช่วยจากงบลงทุนจากภาครัฐ รวมถึงการลงทุนจากภาคเอกชน ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง ส่วนนโย บายของรัฐบาลชุดใหม่มองว่าเหมาะสม ซึ่งในระยะสั้น การท่องเที่ยวอาจจะฟื้นตัวช้า แต่ยังมีช่องให้พัฒนาได้ ทั้งนี้ ยอมรับว่ายังมีปัญหาเรื่องของกฎอัยการศึกอยู่.