WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaaVATผมรายไดนอย

คืน VAT ผู้มีรายได้น้อย 6 เดือน ผ่านบัตรสวัสดิการฯ เพิ่มกำลังซื้อ หนุนการออม

      มาตรการต่างๆ ของภาครัฐที่ออกมาภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 60 นั้น ได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ผู้มีรายได้น้อยได้รับอานิสงส์จากมาตรการของภาครัฐคิดเป็นมูลค่าถึง 38,000 ล้านบาท

       หนึ่งในมาตรการที่ว่านี้ คือ การสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

      แต่เมื่อผู้มีรายได้น้อยนำบัตรไปรูดซื้อของกับร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ก็ยังต้องเสียภาษี VAT ซึ่งรวมอยู่ในราคาสินค้าแต่ละชนิดให้กับรัฐอยู่ดี

    ดังนั้น...รัฐบาลจึงได้นำข้อจำกัดนี้ไปพัฒนาต่อยอดเพื่อผู้มีรายได้น้อย เพราะแม้แต่การเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ยังเรียกเก็บตามฐานรายได้ของแต่ละคน แล้วทำไมภาษี VAT จึงยังเก็บที่ 7% เท่ากัน

      ล่าสุด ครม.ได้เห็นชอบมาตรการชดเชยเงินภาษี VAT สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับการจับจ่ายซื้อสินค้าในระยะเวลา 6 เดือน หรือ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 – 30 เม.ย.62 โดยมีขั้นตอน ดังนี้

               1. กรมบัญชีกลางและธนาคารกรุงไทย จะเร่งติดตั้งเครื่องบันทึกการเก็บเงิน ที่เรียกว่า POS ในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและมีเครื่อง EDC อยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 3,000 ร้าน

               2. เครื่อง POS นี้จะช่วยบันทึกข้อมูลการขาย รายละเอียดสินค้า ยอดการขาย พิมพ์ใบกำกับภาษี และยังสามารถแยกข้อมูลภาษี VAT ออกจากราคาสินค้า เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่กรมบัญชีกลาง

               3. ไม่ว่าเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมาจากส่วนไหน เช่น จากวงเงินที่รัฐจัดให้สำหรับซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน หรือจากเงินในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ทั้งเบี้ยผู้สูงอายุ เงินจากการฝึกอาชีพ เงินที่ผู้ถือบัตรเติมเข้าไปเอง รวมถึงเงินจากการคืน VAT ก็จะถูกเครื่อง POS บันทึกไว้ทุกครั้งที่มีการรูดซื้อสินค้า

               4. ข้อมูลที่ได้จากเครื่อง POS จะถูกส่งต่อไปยังกรมบัญชีกลาง โดยจะแบ่งภาษี VAT ที่ต้องจ่าย 7% ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

               ส่วนที่ 1 จำนวน 1% เก็บเป็นภาษี VAT เข้ารัฐตามปกติ

               ส่วนที่ 2 จำนวน 5% โอนกลับคืนไปใน e-Money ของผู้ถือบัตร ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ซึ่งผู้ถือบัตร สามารถนำไปรูดซื้อสินค้า หรือกดออกมาเป็นเงินสดไว้ใช้จ่ายได้

               ส่วนที่ 3 จำนวน 1% โอนเข้าไปในบัญชีกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ของผู้ถือบัตร เพื่อเติมเงินในกองทุนเป็นหลักประกันในชีวิตหลังวัยเกษียณ

     ดังนั้น ผู้ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก กอช. โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุไม่เกิน 60 ปี จึงต้องรีบไปสมัครให้เรียบร้อยโดยเร็ว เพื่อให้มีบัญชีรองรับเงินโอนส่วนนี้ ซึ่งถือเป็นมาตรการจูงใจให้ผู้มีรายได้น้อยสมัครเข้าเป็นสมาชิก กอช. อีกทางหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของผู้มีรายได้น้อยเองในระยะยาว

       ส่วนผู้ถือบัตรที่ไม่สามารถสมัครเป็นสมาชิก หรือเปิดบัญชี กอช. ได้ เนื่องจากคุณสมบัติไม่ตรงตามเกณฑ์ที่ กอช. กำหนด ให้กระทรวงการคลังหรือกับธนาคารต่าง ๆ เพื่อเปิดบัญชีเงินฝากระยะยาว รองรับการโอนเงินเข้าบัญชี โดยให้ธนาคารพิจารณาผลตอบแทนที่เหมาะสม และยกเว้นค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชีด้วย

       แต่! เงินในส่วนที่ 2 และ 3 รวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 500 บาท/คน/เดือน

       สำหรับร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่ต้องการติดตั้งเครื่อง POS ให้แจ้งความประสงค์ได้ที่เว็บไซต์ของกรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th และสำนักงานคลังจังหวัด ภายในวันที่ 1 ต.ค. 61 นี้

      เห็นไหมครับว่า วิธีการนี้จะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของครัวเรือน ส่งเสริมให้เกิดการออมในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และยังช่วยกระตุ้นให้ร้านค้าหันไปจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ช่วยสร้างฐานภาษีที่ยั่งยืนให้กับประเทศ และที่สำคัญยังช่วยลดการใช้เงินสดตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการบริหารจัดการเงินลดลง และสร้างความโปร่งใสในการประกอบธุรกิจอีกด้วย

       แบบนี้เรียกว่า ยิงปืนนัดเดียว ได้นก 2 – 3 ตัว เลยทีเดียว!!

คลังเสนอครม.พิจารณาโครงการคืน VAT ให้ผู้มีรายได้น้อย/ก.เกษตรฯเสนอมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยาง

    รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีวาระที่น่าสนใจ ได้แก่ กระทรวงการคลัง เสนอโครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เข้าสู่ที่ประชุม โดยโครงการนี้เป็นโครงการชั่วคราว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้มีรายได้น้อยราว 11 ล้านคน มีช่วงดำเนินการ 5-6 เดือน เริ่มต้นโครงการเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับวงเงินคืนภาษีจากการใช้จ่ายได้ไม่เกิน 500 บาทต่อเดือน

         กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอขายยางสต็อกเก่า 104,000 ตัน ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทำเป็นพลังงานชีวมวล พร้อมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางทั่วประเทศที่ประสบความเดือดร้อนจากราคายางตกต่ำมาต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นจะดูแลค่าครองชีพ 3 เดือน

   นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเสนอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงเพิ่มเติมอีก อาทิ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เลขาธิการสำนักงานปฎิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์

        กระทรวงคมนาคม เสนอรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) คนใหม่ ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกและคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) มีมติเห็นชอบ

       กระทรวงการต่างประเทศ เสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่น

        กระทรวงคมนาคม เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดเชียงใหม่ พังงา และภูเก็ต, เสนอขอเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2562 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

       ทั้งนี้ ก่อนการประชุม นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดแสดงนิทรรศการประชาสัมพันธ์การจัดงาน "Digital Thailand Big Bang 2018" จากนั้นนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม นำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์แปรรูปทุเรียน

               อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!