- Details
- Category: คลัง
- Published: Monday, 15 September 2014 21:47
- Hits: 2772
‘สมหมาย’บินชี้แจงต่างชาติบนเวที‘อาเซม’ จีนหนุนไทยปฏิรูปประเทศ
แนวหน้า : รมว.คลัง ย้ำนโยบายของไทยยึดมั่นในระบบเศรษฐกิจที่เปิดกว้าง และเสรี ยัน คสช.มีเป้าหมายในการวางรากฐานทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่แข็งแกร่ง และสร้างความปรองดองในชาติ ก่อนเลือกตั้งปีหน้า ขณะที่จีน ระบุธนาคาร AIIB พร้อมสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชียปี’58
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซม (Asia-Europe Finance Ministers’ Meeting: ASEM FinMM) ครั้งที่ 11 ณ นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ว่า ไทยได้ชี้แจงถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและนโยบายของรัฐบาลไทยแก่รมว.คลังจากประเทศสมาชิกอาเซม ทั้งจากฝ่ายยุโรปและเอเชีย รวม 49 ประเทศ ให้เชื่อมั่นในแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ 3 ระยะของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีเป้าหมายในการวางรากฐานทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่แข็งแกร่งและสร้างความปรองดองในชาติ และจะจัดให้มีการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมในปี 2558
ทั้งนี้ หลังจาก คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้สถานการณ์ในประเทศได้มีความสงบสุขและมีเสถียรภาพมากขึ้น และความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันได้มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) เข้ามาบริหารประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.2557 ซึ่งถือเป็นการดำเนินการในระยะที่ 2 ของยุทธศาสตร์การบริหารประเทศดังกล่าว โดยได้มีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และเตรียมจัดตั้ง สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)และคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะดำเนินการปฏิรูปประเทศควบคู่ไปกับการสร้างความปรองดองในระยะยาว โดยได้เน้นย้ำถึงนโยบายของประเทศที่ยึดมั่นในระบบเศรษฐกิจที่เปิดกว้างและเสรี และมุ่งเน้นการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนอย่างมั่นคงในระยะยาว
ขณะเดียวกันนายสมหมาย ได้ใช้โอกาสที่เข้าร่วมการประชุมนี้ ซึ่งมีการพิจารณาความร่วมมือระหว่างยุโรปและเอเชียในการเสริมสร้างการเจริญเติบโต เชิญให้รมว.คลังของประเทศสมาชิกอาเซม ตลอดจนสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศให้พิจารณาร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยและของภูมิภาคเอเชีย เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงทางการค้าและการลงทุน และพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในภูมิภาค โดยได้ย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน (Public-Private Partnerships: PPPs) ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการคลังและเสริมสร้างประสิทธิภาพให้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้หารือกับ Mr. Shi Yaobin รมช.คลังของจีน เพื่อชี้แจงให้เข้าใจถึงสถานการณ์และนโยบายของรัฐบาลใหม่ รวมทั้งได้หารือถึงการที่ไทยร่วมเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง (Founding Member) ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank: AIIB) โดยได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ปัจจุบันในประเทศไทยว่า ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งครม.เข้ามาบริหารประเทศ โดยรัฐบาลจะเน้นการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจสังคม และการเมือง ซึ่งกำหนดให้การป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน สมดุล และพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งธนาคาร AIIB ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงกันในภูมิภาคเอเชีย โดยไทยได้ตอบรับเข้าร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้ง และได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานในอนาคต เพื่อให้ธนาคาร AIIB เป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองความต้องการสมาชิกได้อย่างแท้จริง โดยคาดว่าการจัดตั้งธนาคาร AIIB จะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในปลายปี 2558
มีรายงานแจ้งว่า สำหรับกองทุนดังกล่าวเป็นการร่วมกันของสมาชิกอาเซียน โดยจีนเป็นผู้เสนอแนวคิดในการจัดตั้งเพื่อการลงทุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ
นอกจากนี้ รมว.คลังของไทย ได้เชิญชวนสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวจีน เดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น โดยทางรมช.คลังจากจีน ให้ความมั่นใจว่า เมื่อสถานการณ์ในไทยมีความสงบมากขึ้น ประเทศไทยไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม นักท่องเที่ยวจีนก็จะมาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
“จีนได้แสดงความมั่นใจ และยินดีสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลไทยในการปฏิรูปประเทศ และรับที่จะชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยให้แก่รัฐบาลและประชาชนจีนต่อไป” นายสมหมาย กล่าว