WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

PDMOธรชย อตนวานช copyคลัง รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นธ.ค.60 อยู่ที่ 6.37 ล้านลบ. คิดเป็น 41.76% ของจีดีพี เทียบเดือนก่อนหน้า

    คลัง รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นธ.ค.60 อยู่ที่ 6.37 ล้านลบ. คิดเป็น 41.76% ของจีดีพี เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า ชี้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 45,947.43 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 5.02 ล้านลบ. เพิ่มขึ้น 6.81 หมื่นลบ. ส่วนหนี้รัฐวิสาหกิจอยู่ที่ 9.40 แสนลบ. ลดลง 1.63 หมื่นลบ. 

      นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ ได้รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 มีจำนวน 6,371,416.12 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41.76 ของ GDP โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 5,027,438.43 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 940,263.45 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน* (รัฐบาลค้ำประกัน) 393,062.98 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 10,651.26 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 45,947.43 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

     * หนี้รัฐบาล จำนวน 5,027,438.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 68,112.31 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของหนี้รัฐบาล ดังนี้

     • การกู้เงินตามแผนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 และเพื่อการบริหารหนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นสุทธิ 66,940.50 ล้านบาท เนื่องจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพื่อนำไปลงทุนในการพัฒนาประเทศ สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ จำนวน 48,440.50 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นของตั๋วเงินคลัง 22,500 ล้านบาท และการไถ่ถอนพันธบัตร 4,000 ล้านบาท

     • การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศเพิ่มขึ้น 2,751.79 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการกู้ให้กู้ต่อแก่ (1) การรถไฟแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 1,562.08 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า - แก่งคอย จำนวน 620.97 ล้านบาท  โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น จำนวน 620.10 ล้านบาท โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงฯ จำนวน 256.01 ล้านบาท และโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต จำนวน 65 ล้านบาท และ (2) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 1,189.71 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจำนวน 650.17 ล้านบาท สายสีน้ำเงินจำนวน 303.19 ล้านบาท สายสีส้มจำนวน 226.96 ล้านบาท และสายสีม่วงจำนวน 9.39 ล้านบาท

     • การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF 1) จำนวน 1,220 ล้านบาท และกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3)  จำนวน 16.31 ล้านบาท

     • หนี้ต่างประเทศลดลงสุทธิ 343.67 ล้านบาท เนื่องจากการเบิกจ่ายเงินกู้สกุลเงินเยน การชำระคืนหนี้สกุลเงินเหรียญสหรัฐ และการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

     หนี้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 940,263.45 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 16,385.65 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก

    • หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เพิ่มขึ้น 561.52 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่เพิ่มขึ้นขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และการรถไฟแห่งประเทศไทย

    • หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ลดลง 16,947.17 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่ลดลงของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

    * หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 393,062.98 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 4,735.38 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

    * หนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 10,651.26 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 1,043.85 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย

    หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 จำนวน 6,371,416.12 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ในประเทศ 6,076,002.26 ล้านบาท หรือร้อยละ 95.36 และหนี้ต่างประเทศ 295,413.86 ล้านบาท (ประมาณ 8,960.62 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือร้อยละ 4.64 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และหนี้สาธารณะ คงค้างแบ่งตามอายุคงเหลือ สามารถแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาว 5,811,242.81 ล้านบาท หรือร้อยละ 91.21 และหนี้ระยะสั้น 560,173.31 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.79 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด

 สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!