- Details
- Category: กรมสรรพสามิต
- Published: Thursday, 17 December 2015 09:07
- Hits: 2998
สรรพสามิตมึนตึ๊บค่ายรถตุนสินค้า! หวังได้ประโยชน์จากภาษีรถยนต์ที่สูงขึ้น
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจเช็กสต๊อกรถยนต์จากไลน์การผลิตรถยนต์ เนื่องจากรถยนต์ไม่ใช่สินค้าควบคุมตามกฎหมายกระทรวงพาณิชย์ แต่จะใช้วิธีขอร้องไปยังผู้ประกอบการรถยนต์ทุกรายไม่ให้สต๊อกรถยนต์เอาไว้มากเกินความจำเป็น เพื่อรับประโยชน์ทางภาษีหลังจากวันที่ 1 ม.ค.59 ที่กรมสรรพสามิตจะต้องปรับภาษีรถยนต์เพิ่ม จากการปล่อยคาร์บอนไดออกไซค์ หรือ CO2 ซึ่งจะทำให้รถยนต์ใหม่ที่ผลิตจากโรงงานหรือนำเข้าจากต่างประเทศตั้งแต่ 1 ม.ค.59 เป็นต้นไป ต้องเสียภาษีแพงขึ้นคันละ 20,000 บาท จนถึง 200,000 บาท “กรมสรรพสามิตไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบสต๊อกรถยนต์ เพราะรถยนต์ไม่ใช่สินค้าควบคุม แต่ได้แจ้งไปยังผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายว่า ไม่ควรสต๊อกรถยนต์ไว้จำนวนมากๆ เพราะอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นเป็นภาระของผู้ประกอบการในอนาคต หากในปีหน้ายอดขายรถยนต์ไม่ดีเท่ากับปีนี้”
นายสมชาย กล่าวว่า ปัจจุบันกรมสรรพสามิตเก็บภาษี ณ ราคาหน้าโรงงาน หมายความว่า รถยนต์ที่ผลิตเสร็จแล้วและพร้อมที่จะออกจากโรงงานถึงจะเสียภาษีให้กรมสรรพสามิต ส่วนกรณีรถยนต์นำเข้าจะเก็บจากฐานราคาซีไอเอฟ คือราคาสินค้า บวกอากรขาเข้าและค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมาย ดังนั้น รถยนต์ที่ผลิตสำเร็จและพร้อมขายจริงๆ ถึงจะเข้าข่ายเสียภาษีให้กรมสรรพสามิต “ยอดขายรถยนต์เดือนธ.ค.นี้ ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ แม้เดือนนี้จะมีงานมหกรรมยานยนต์ โดยรถยนต์ที่จองในงานผู้ผลิตต้องส่งมอบรถยนต์ให้ทัน ธ.ค.นี้ ก่อน 1 ม.ค.59 เนื่องจากอัตราภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันที”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่าบรรดาเอเย่นต์และโชว์รูมรถยนต์ได้เริ่มทยอยสะสมรถยนต์ใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะรุ่นที่ขายดีจะสต๊อกไว้เป็นจำนวนมากเพื่อกักตุนสินค้าหวังประโยชน์ทางภาษีที่ปรับขึ้น.
ที่มา : www.thairath.co.th
