- Details
- Category: กรมสรรพสามิต
- Published: Thursday, 19 March 2015 11:28
- Hits: 2656
สรรพสามิต สอบรีดภาษีเอสเอ็มอี ย้ำไม่มีคำสั่งเก็บเพิ่ม/รายได้ยังเกินเป้า แนะรัฐทำตลาดแทนปล่อยกู้อย่างเดียว
มติชนออนไลน์ : อธิบดีกรมสรรพสามิตสั่งตรวจสอบเก็บภาษีเอสเอ็มอีสมุนไพรสูง ยันเครื่องดื่มที่ได้รับการยกเว้นภาษีต้องมีส่วนผสม คุณภาพ ตามกฎหมายกำหนด ย้ำไม่มีคำสั่งให้รีดภาษีสรรพสามิตเพิ่ม ยังจัดเก็บได้เกินเป้า ด้านเอทีเอสเอ็มอีแนะรัฐหาช่องทางตลาดแทนให้กู้เงินผลิตสินค้าอย่างเดียว
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวถึงกรณีที่นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอทีเอสเอ็มอี) ระบุว่าได้รับร้องเรียนจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้านกิจการผลิตน้ำสมุนไพร ชนิดน้ำตะไคร้ น้ำใบเตย น้ำอัญชัน ในจังหวัดชลบุรีรายหนึ่ง ที่ใช้วัตถุดิบโดยรับซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่และได้รับเครื่องหมาย อย. จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว ตั้งราคาขายน้ำสมุนไพรขวดละ 11-12 บาท และมียอดขายต่อวันประมาณ 14,000 บาท แต่เมื่อเข้าระบบภาษีกลับถูกเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตอัตรา 20% ภาษีจากกระทรวงมหาดไทย 2% และถูกคิดเบี้ยปรับคิดเป็นวงเงินประมาณ 9,000 บาท เพราะมีค่าสมุนไพรที่อยู่ในเครื่องดื่มต่ำกว่ามาตรฐานว่า ได้สั่งให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้แล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สำหรับเครื่องดื่มสมุนไพรที่จะได้รับการยกเว้นภาษีนั้น ยืนยันว่าจะต้องมีส่วนผสมตามที่กรมกำหนดไว้และต้องได้คุณภาพตามที่ อย.และกฎหมายกำหนดไว้ รวมถึงต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยกรมยืนยันว่าจะดูแลกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตามนโยบาย แต่ต้องดำเนินการตามกฎและระเบียบ รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันยืนว่าไม่ได้มีคำสั่งจากส่วนกลางให้ไปเก็บภาษีสรรพสามิตจากกลุ่มเอสเอ็มอี เพราะการจัดเก็บภาษีของกรมยังเกินเป้าหมาย
"ผมรับทราบจากข่าวแล้วและกำลังสอบถามไปยังสรรพสามิตพื้นที่ เพื่อดูว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร" นายสมชายกล่าว และว่า ไม่อยากให้เอสเอ็มอีกังวลเรื่องภาษี หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามมายังสรรพสามิตพื้นที่และส่วนกลางได้ กรมพร้อมที่จะให้คำปรึกษาและแนะนำ โดยน้ำสมุนไพรที่จะได้รับการยกเว้นภาษีต้องมีสารสกัดได้ด้วยน้ำร้อนไม่น้อยกว่า 15% ของน้ำหนัก โดยอัตราส่วนผสมต่อปริมาตรสุทธิต้องไม่น้อยกว่า 1% ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ จะต้องมีส่วนผสมจากธรรมชาติเฉลี่ย 10% บางชนิดอาจมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ให้ดูตามประกาศของกรม
ด้านนางเพ็ญทิพย์ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการประสานงานของเจ้าของธุรกิจดังกล่าวว่าทางจังหวัดชลบุรีได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตของจังหวัดลงพื้นที่ผลิตเครื่องดื่มดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการผลิตของผู้ประกอบการเทียบกับเกณฑ์การผลิตที่ภาครัฐกำหนด
นางเพ็ญทิพย์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบวงเงิน 6.5 หมื่นล้านบาท ให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เป็นมาตรการที่ดี แต่เงินอย่างเดียวคงไม่สามารถช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้ตรงจุดได้ เพราะภาครัฐควรดูช่องทางการตลาดให้เอสเอ็มอีด้วย หากกู้เงินผลิตสินค้าได้แต่ไม่มีตลาดก็ไม่มีรายได้นำมาใช้หนี้อยู่ดี