- Details
- Category: กรมสรรพากร
- Published: Thursday, 25 December 2014 07:39
- Hits: 2739
สรรพากร แจงใบเสร็จทัวร์-ค่าที่พักโรงแรม เริ่มนำมาลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวได้ ลงวันที่ 16 ธ.ค.57-31 ธ.ค.58
สรรพากรแจ้ง ใบกำกับภาษีท่องเที่ยวที่ลงวันที่ระหว่าง16-31 ธันวาคม 2557 จะสามารถใช้ลดหย่อนในการคำนวณภาษีของปีภาษี 2557 ที่จะยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558 แต่ลงวันที่ระหว่าง 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2558 จะต้องนำไปใช้ลดหย่อนของปีภาษี 2558 ที่เป็นการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศ สิ่งสำคัญที่นำมาใช้เป็นหลักฐาน คือ ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีสำหรับค่าบริการนำเที่ยวภายในประเทศ หรือค่าที่พักโรงแรมภายในประเทศ ที่ผู้เสียภาษีต้องเรียกขอจากผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หรือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม โดยเอกสารดังกล่าวต้องระบุชื่อ - นามสกุล ของผู้มีเงินได้ที่จะใช้สิทธิหักลดหย่อน จำนวนเงิน และวัน เดือน ปี ในใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีให้ชัดเจน
ทั้งนี้ จะให้นำมาใช้ลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี โดยใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีที่ลงวันที่ระหว่างวันที่ 16-31 ธันวาคม 2557 จะสามารถใช้ลดหย่อนในการคำนวณภาษีของปีภาษี 2557 ที่จะยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558 แต่หากเป็นใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีที่ลงวันที่ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2558 จะต้องนำไปใช้ลดหย่อนของปีภาษี 2558 ที่เป็นการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า สิทธิลดหย่อนครั้งนี้เป็นการให้สิทธิแก่ผู้เสียภาษีที่เป็นบุคคลธรรมดา โดยไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ทั้งนี้ หากสามีหรือภริยามีเงินได้เพียงฝ่ายเดียวให้ใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเฉพาะแก่สามีหรือภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ แต่หากสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ และในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีระบุผู้จ่ายเงินเป็นทั้งสามีและภริยา ให้ใช้หลักเกณฑ์ ดังนี้
(ก) ถ้าสามีภริยาต่างฝ่ายต่างแยกยื่นแบบ ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกินคนละ 15,000 บาท
(ข) ถ้าสามีภริยาแยกยื่นแบบเฉพาะเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นเงินได้ประเภทเงินเดือน ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนภาษีของตนเองได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกินคนละ 15,000 บาท
(ค) ถ้าสามีภริยาตกลงยื่นแบบและเสียภาษีรวมกัน ให้หักลดหย่อนภาษีได้ทั้งสองฝ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกินคนละ 15,000 บาท
มาตรการภาษีนี้จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โรงแรม รวมทั้งธุรกิจต่อเนื่องกับการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วนของประเทศ นอกจากนี้จะยังเป็นการช่วยสังคมให้เกิดความรักความอบอุ่นภายในครอบครัวที่ได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวและมีกิจกรรมร่วมกันด้วย
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
สรรพากรย้ำใบเสร็จทัวร์-ที่พักใช้ลดหย่อนภาษีตั้งแต่ 16 ธ.ค.57-31 ธ.ค.58
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศ สิ่งสำคัญที่นำมาใช้เป็นหลักฐาน คือ ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีสำหรับค่าบริการนำเที่ยวภายในประเทศ หรือค่าที่พักโรงแรมภายในประเทศ ที่ผู้เสียภาษีต้องเรียกขอจากผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หรือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม โดยเอกสารดังกล่าวต้องระบุชื่อ – นามสกุล ของผู้มีเงินได้ที่จะใช้สิทธิหักลดหย่อน จำนวนเงิน และวัน เดือน ปี ในใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีให้ชัดเจน
ทั้งนี้ จะให้นำมาใช้ลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี โดยใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีที่ลงวันที่ระหว่างวันที่ 16-31 ธันวาคม 2557 จะสามารถใช้ลดหย่อนในการคำนวณภาษีของปีภาษี 2557 ที่จะยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558 แต่หากเป็นใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีที่ลงวันที่ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2558 จะต้องนำไปใช้ลดหย่อนของปีภาษี 2558 ที่เป็นการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในวันที่ 31 มีนาคม 2559
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า สิทธิลดหย่อนครั้งนี้เป็นการให้สิทธิแก่ผู้เสียภาษีที่เป็นบุคคลธรรมดา โดยไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ทั้งนี้ หากสามีหรือภริยามีเงินได้เพียงฝ่ายเดียวให้ใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเฉพาะแก่สามีหรือภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ แต่หากสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ และในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีระบุผู้จ่ายเงินเป็นทั้งสามีและภริยา ให้ใช้หลักเกณฑ์ ดังนี้
(ก) ถ้าสามีภริยาต่างฝ่ายต่างแยกยื่นแบบ ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกินคนละ 15,000 บาท
(ข) ถ้าสามีภริยาแยกยื่นแบบเฉพาะเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นเงินได้ประเภทเงินเดือน ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนภาษีของตนเองได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกินคนละ 15,000 บาท
(ค) ถ้าสามีภริยาตกลงยื่นแบบและเสียภาษีรวมกัน ให้หักลดหย่อนภาษีได้ทั้งสองฝ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่เกินคนละ 15,000 บาท
มาตรการภาษีนี้จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โรงแรม รวมทั้งธุรกิจต่อเนื่องกับการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วนของประเทศ นอกจากนี้จะยังเป็นการช่วยสังคมให้เกิดความรักความอบอุ่นภายในครอบครัวที่ได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวและมีกิจกรรมร่วมกันด้วย
อินโฟเควสท์