- Details
- Hits: 2017
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกัน ‘บ.ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย)’ ที่ ‘AAA’แนวโน้ม’Stable’
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันซึ่งออกโดย บริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (HLTC หรือ ‘ผู้ออกตราสาร’) ที่ระดับ ‘AAA’ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต’Stable’ หรือ ‘คงที่’ ทั้งนี้ หุ้นกู้ของบริษัทได้รับการค้ำประกันจากบริษัทแม่คือ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด (HATC หรือ ‘ผู้ค้ำประกัน’) ที่เป็นบริษัทลูกในเครือของ Honda Motor Co., Ltd. (HMC) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ ‘A-‘ พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ จาก S&P Global Ratings (S&P Global)
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
เป็นการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้
อันดับเครดิตหุ้นกู้ของ HLTC สะท้อนถึงการได้รับการค้ำประกันอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้จากบริษัทแม่คือ HATC ซึ่งได้รับการปรับเพิ่มคุณภาพเครดิตจากการมี Keep Well Agreement กับบริษัทแม่สูงสุดคือ HMC ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขของสัญญาค้ำประกันนี้ HATC รับผิดชอบเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ทั้งจำนวนที่จะต้องชำระภายใต้เงื่อนไขในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 110% ของมูลค่าหุ้นกู้ซึ่งรวมถึงเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยค้างชำระต่างๆ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยสัญญาค้ำประกันดังกล่าวอยู่ภายใต้กฎหมายของราชอาณาจักรไทย
สำหรับ Keep Well Agreement ระหว่าง HATC และ HMC ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศญี่ปุ่นนั้น บริษัทแม่สูงสุดของ HATC คือ HMC จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังนี้
(1) เป็นเจ้าของและถือหุ้นที่ออกและชำระแล้วของ HATC ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมไม่น้อยกว่า 80%
(2) ดูแลให้ HATC คงสัดส่วนของผู้ถือหุ้นให้อยู่ในระดับที่ไม่ติดลบ และ
(3) ดูแลสภาพคล่องและเงินทุนของ HATC ให้มีเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ตามที่ระบุไว้ใน Keep Well Agreement ภายในเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ หนี้สินใดๆ ของ HMC ที่เกิดจากการที่ HMC ให้กู้ยืมแก่ HATC นั้นจะถือว่ามีความด้อยสิทธิกว่าหุ้นกู้นี้ และตราบใดที่หนี้ที่ระบุไว้ใน Keep Well Agreement ยังคงอยู่ Agreement ดังกล่าวจะไม่สามารถได้รับการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกด้วยประการใด ๆ ที่อาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ถือหุ้นกู้นี้ได้ เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ถือหุ้นกู้และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
แม้ว่า Keep Well Agreement จะไม่ใช่การค้ำประกัน แต่ทริสเรทติ้งก็มีความเห็นว่าอันดับเครดิตของ HMC ที่อยู่ในระดับสูงและความสำคัญของ HATC ในฐานะที่เป็นบริษัทลูกหลักของ HMC นั้นจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ HMC ให้การสนับสนุนทางการเงินที่เพียงพอแก่ HATC เพื่อที่จะให้ HATC สามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมดภายในเวลาที่กำหนด
HATC เป็นบริษัทลูกหลักของ HMC
ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าคุณภาพเครดิตของ HATC สะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกหลักของ HMC ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ HATC ในสัดส่วน 64% โดย HATC ได้รับการสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและด้านการเงินจาก HMC ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าการสนับสนุนดังกล่าวจะยังคงดำรงต่อไปในอนาคตอันใกล้
ในแง่ของความร่วมมือทางธุรกิจนั้น ทั้งแผนการผลิต กลยุทธ์ทางการตลาด และนโยบายด้านการควบคุมความเสี่ยงของ HATC มีการบูรณาการเป็นหนึ่งเดียวกับกลยุทธ์กลุ่มโดยรวมของ HMC ยกตัวอย่างเช่น HMC มีการให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้านยานยนต์ใหม่ๆ แก่ HATC เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของกลุ่มฮอนด้าทั่วโลก
นอกจากนี้ HATC ยังทำหน้าที่เป็นฐานการผลิตรถยนต์เชิงกลยุทธ์เพื่อตอบสนองแผนการขยายสู่ตลาดต่างประเทศของ HMC โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตรถยนต์ไฮบริดรวมทั้งชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์อีกด้วย ส่วนในด้านความร่วมมือทางด้านการเงินนั้น บริษัทยังได้รับการสนับสนุนทางการเงินภายใต้ Keep Well Agreement ที่มีระหว่าง HATC และ HMC อีกเช่นกัน สำหรับ สถานะเฉพาะของบริษัทนั้น HATC ก็มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งโดยมีกระแสเงินสดที่แน่นอนและมีภาระหนี้สินที่ต่ำ
สถานะทางการตลาดของ HATC ที่แข็งแกร่งนั้นยังเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนสถานะกลุ่มของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกหลักของ HMC อีกด้วย โดย HATC ยังคงรักษาสถานะผู้นำทางการตลาดของยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทยเอาไว้ได้
ทริสเรทติ้ง คาดว่า สถานะทางธุรกิจของ HATC จะยังคงแข็งแกร่งต่อไปในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่ HATC มีการเปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฮบริดหรือรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สองระบบทำงานร่วมกันระหว่างน้ำมันเชื้อเพลิงและระบบไฟฟ้า (Hybrid Car) ได้แก่ รุ่น ‘New CIVIC e:HEV’ และรุ่น’All New BR-V’
ซึ่งเปิดตัวในปี 2565 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 31% ในปี 2564 จากระดับ 28% ในปี 2563 จากผลของยอดขายรถยนต์ที่เริ่มฟื้นตัวภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งทางการตลาดของ HATC ก็ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 23% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 จากอุปสรรคในการผลิตรถยนต์อันเป็นผลมาจากการขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งทำให้การผลิตและส่งมอบรถยนต์มีความล่าช้า
HLTC ยังคงมีฐานะเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (Captive Finance) ของ HATC
ทริสเรทติ้ง เชื่อว่า HLTC จะยังคงได้รับการสนับสนุนทางด้านธุรกิจและด้านการเงินจาก HATC อย่างเต็มที่ต่อไปในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าของ HATC
ในขณะที่ HLTC นั้นก็ให้การสนับสนุน HATC ในการขยายธุรกิจและร่วมดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อส่งเสริมยอดขายรถยนต์ ‘ฮอนด้า’ ผ่านการแนะนำจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าของ HATC ปัจจุบัน HLTC มีพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ระดับ 8.03 หมื่นล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2565 ซึ่งเป็นระดับคงที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ อัตราส่วนโดยเฉลี่ยของจำนวนลูกค้ารถยนต์ฮอนด้าที่บริษัทให้บริการสินเชื่อยังคงอยู่ในสัดส่วนประมาณ 40% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
สถานะความเสี่ยงของ HLTC ยังคงแข็งแกร่ง
ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าสถานะความเสี่ยงของ HLTC น่าจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปอันเนื่องมาจากคุณภาพเครดิตที่ดีของลูกค้าและเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่ค่อนข้างเข้มงวดของบริษัท โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 บริษัทมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ลูกหนี้ที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต หรือลูกหนี้ชั้นที่ 3) ต่อสินเชื่อรวมคงอยู่ที่ระดับ 0.2% ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ถึงแม้ว่าคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจ แต่ทริสเรทติ้งก็เชื่อว่าน่าจะอยู่ในวิสัยที่บริษัทจะสามารถบริหารจัดการได้
บริษัทยังคงดำรงสถานะสภาพคล่องและการเงินให้อยู่ในระดับที่เพียงพอได้
บริษัทมีส่วนต่างของระยะเวลาระหว่างสินทรัพย์และหนี้สินที่ยังคงเป็นบวก อีกทั้งยังมีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายซึ่งเป็นเงินกู้ยืมทั้งจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่งในประเทศไทยและจากกลุ่มฮอนด้าซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่บริษัทได้อีกด้วย โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 บริษัทได้รับวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1.2 แสนล้านบาท โดยที่ 57% ของวงเงินดังกล่าวนั้นยังไม่ได้มีการเบิกใช้
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก HATC ดังจะเห็นได้จากหนังสือค้ำประกันหุ้นกู้ที่ออกให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทอีกด้วยเช่นกัน
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
- อันดับเครดิตของ HMC ที่จัดโดย S&P Global จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาประมาณการ
- การได้รับการค้ำประกันอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้จากบริษัทแม่คือ HATC ซึ่งได้รับการปรับเพิ่มสถานะเครดิตจาก Keep Well Agreement ที่ได้รับจาก HMC นั้นจะยังคงเป็นเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ ของหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ HLTC สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าความสามารถในการทำกำไรของ HMC ซึ่งเป็นผู้ให้ Keep Well Agreement แก่บริษัทจะฟื้นตัวกลับมาจากการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการออกรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งจากสถานะทางการเงินที่ดีในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีการค้ำประกันที่ออกโดย HLTC อาจได้รับการปรับลดลงในกรณีที่อันดับเครดิตของ HMC ได้รับการปรับลดลง
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565 - อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565 |
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564 |
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563 |
- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562 |
บริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (HLTC)
อันดับเครดิตตราสารหนี้: |
|
HLTC233A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 |
AAA |
HLTC242A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 |
AAA |
HLTC252A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 |
AAA |
แนวโน้มอันดับเครดิต: |
Stable |
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ [email protected] โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
© บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้
ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html