WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

43ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับฐานระยะสั้นหลังเริ่มเห็นต่างชาติ-สถาบันขาย,เกาะติดงบแบงก์

     นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐานระยะสั้น เนื่องจากเริ่มเห็นแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติและสถาบันออกมา แต่ไม่ถือว่าน่ากลัวมากนัก ภาพรวมยังคงติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งช่วงนี้เป็นของกลุ่มแบงก์ ซึ่งฝ่ายวิจัยได้คาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ (10 แห่ง) จะเติบโต 8% QoQ และลดลง 5% YoY

         ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มากราว 0.1-0.2% โดยให้ติดตามสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีอย่างใกล้ชิด และสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากที่กองกำลังทหารรัฐบาลอิรักสามารถยึดครองเมืองเคอร์คุก ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้อาจจะกดดันตลาดฯได้

พร้อมให้แนวรับ 1,710 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ต.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,997.44 จุด เพิ่มขึ้น 40.48 จุด (+0.18%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,623.66 จุด ลดลง 0.35 จุด (-0.01%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,559.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.72 จุด (+0.07%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 38.54 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงลดลง 61.29 จุดดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 50.70 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.84 จุด,

ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลทีปวาลี

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ต.ค.60) 1,724.47 จุด ลดลง 2.20 จุด (-0.13%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 764.34 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ต.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ต.ค.60) ปิดที่ระดับ 51.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 51.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ต.ค.60) ที่ 7.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 33.09 แข็งค่าจากแรงเทขายดอลล์ มองกรอบวันนี้ 33.05-33.15

- "ทีวีดิจิทัล" เสนอรัฐปรับ โครงสร้างอุตสาหกรรมโทรทัศน์ หลังเทคโนโลยี ส่งผลกระทบธุรกิจสื่อ หนุน "รีฟาร์มมิ่ง" ใหม่ เวนคืนคลื่นฯย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ ฝั่งบรอดแคสต์ ดันประมูลโทรคม ชี้ได้ประโยชน์ ใช้คลื่นสูงสุด พร้อมเสนอลดค่าโครงข่าย หวังทีวีดิจิทัลอยู่รอด

- คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) คาดคำขอส่งเสริมการลงทุนในปี 2561 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากปีนี้ โดยต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศอีกครั้ง เพราะต้องการให้มีการขยายอัตรากำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจึงจะสะท้อนภาคการผลิตที่เติบโตมากขึ้น และจะส่งผลไปยังยอดคำขอรับการส่งเสริม ที่จะเพิ่มขึ้นตาม ส่วนยอดคำขอลงทุนในปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 6 แสนล้านบาท

- ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเดินทางคึกคัก สร้างรายได้รวม 1.93 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 1.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จำนวนนัก ท่องเที่ยวต่างชาติ 26.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.4% ขณะที่รายได้ตลาดในประเทศช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค. สร้างรายได้ 6.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% คนไทย เดินทาง 96 ล้านคน/ครั้ง

- สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เผยผลสำรวจพบยังให้น้ำหนักตลาดทุนเติบโตสูง มองดัชนีเป้าหมายปีหน้าแตะ 1,810 จุดปัจจัยในประเทศ-ทุนต่างชาติช่วยหนุน แนะติดตามความขัดแย้งระหว่างประเทศ พร้อมเดินหน้าปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดทุนไทย

- กกพ.ดีเดย์เปิดรับซื้อไฟฟ้าเอสพีพี ไฮบริด ยอดยื่นขายไฟทะลุเป้ากว่า 500 เมกะวัตต์ ย้ำตรวจคุณสมบัติอย่างโปร่งใส ก่อนประกาศรายชื่อ 24 พ.ย.นี้

*หุ้นเด่นวันนี้

- TFMAMA (ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์) จำนวนหุ้นสามัญ 329,704,014 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จะเข้ามาเทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จัดอยู่ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยวันนี้ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของ TFMAMA จะไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุด ทั้งนี้ TFMAMA เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างบมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ (TF) และบมจ.เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ (PR)

- ILINK (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 17 บาท การแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจงานระบบ และการล่าช้าของงานวิศวกรรมใต้น้ำ ส่งผลให้ปรับประมาณการกำไรลง 19-38% ปี 2017-18 อย่างไรก็ดีด้วย recurring income จากธุรกิจ trading สายเคเบิ้ล และกำไรจาก ITEL มองกำไรยังขยายตัวได้ 14-26% ในปี 2560-2561

- PTTEP (กสิกรไทย) หุ้น Laggard ในกลุ่มพลังงาน มีประเด็นบวกจากราคาน้ำมันที่กำลังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง รวมไปถึงเงินบาทที่แข็งค่าจะทำให้ PTTEP มีกำไรทางบัญชีเพิ่มมากขึ้นจาก Deferred Tax นอกจากนั้นยังมีประเด็นการเก็งผลประกอบการในงวด 3Q60 เบื้องต้นคาดว่าจะมีผลประกอบการทรงตัว QoQ แต่จะดีขึ้น YoY

- KTC (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 146 บาท กำไร 3Q60 ดีเกินคาด +7.6% Q-Q, +32% Y-Y จากทั้งรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมและหนี้สูญรับคืนที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มกำไร 4Q60 อาจชะลอ จากผลกระทบการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบัครเครดิตลง 2% ที่จะมีผลเต็มไตรมาสและค่าใช้จ่ายทางการตลาดตามฤดูกาล แต่เนื่องจากกำไร 3Q60 ที่ดีเกินคาด ทำให้ปรับประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าขึ้นประมาณ 10% เป็น +22% Y-Y และ +3% Y-Y ตามลำดับ

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช้านี้ นักลงทุนจับตาการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน

      ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 ที่เปิดฉากขึ้นแล้วในวันนี้

        ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 21,374.66 จุด เพิ่มขึ้น 38.54 จุด, +0.18% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,373.53 จุด เพิ่มขึ้น 1.49 จุด, +0.04% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,636.20 จุด ลดลง 61.29 จุด, -0.21% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,773.85 จุด เพิ่มขึ้น 50.70 จุด, +0.47% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,481.53 จุด ลดลง 2.84 จุด, -0.11% ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์และตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลทีปวาลี

     ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 ในวันนี้ โดยเขาได้เรียกร้องให้สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ทุกคนมุ่งมั่นสร้างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองในทุกมิติ และมุ่งสู่ความสำเร็จของระบบสังคมนิยมตามแบบฉบับของจีนในยุคสมัยใหม่

       ทั้งนี้ การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งจัดขึ้นเพียง 1 ครั้งในทุกๆ 5 ปี ถือเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของจีน เนื่องจากจะมีการแต่งตั้งผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์สำหรับช่วงเวลา 5 ปีข้างหน้า โดยการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 24 ต.ค.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 10.80 จุด หลังอังกฤษเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่ง

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) จากแรงกดดันของข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหราชอาณาจักร ซึ่งช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจปรับตัวสูงขึ้น

      ดัชนี FTSE 100 ลดลง 10.80 จุด หรือ -0.14% ปิดที่ 7,516.17 จุด

       ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง ภายหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหราชอาณาจักรพุ่งขึ้น 3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2555

      รายงานดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า BoE จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในประวัติการณ์

       อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นขานรับกระแสคาดการณ์ดังกล่าว เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ BoE นั้น จะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์มีรายได้จากการเก็บดอกเบี้ยได้มากขึ้น โดยหุ้นบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 1.1% ขณะที่หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป พุ่ง 1.1%

      หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นเมอร์ลิน เอนเตอร์เทนเมนท์ ดิ่งลง 16% หลังบริษัทผู้ดำเนินงานสวนสนุกรายนี้รายงานว่า รายได้ของบริษัทตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ในระดับทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยปัจจัยที่ทำให้รายได้ไม่เติบโตมาจากปัญหาสภาพอากาศที่ย่ำแย่และภัยก่อการร้ายในกรุงลอนดอน

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ นักลงทุนผิดหวังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบางแห่งในยุโรป ซึ่งรวมถึงบริษัทซาโทเรียส เอจี ผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์รายใหญ่ของเยอรมนี อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษดีดตัวขึ้น ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น

      ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิดที่ 390.44 จุด

       ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,995.06 จุด ลดลง 8.64 จุด หรือ -0.07% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,361.37 จุด ลดลง 1.51 จุด หรือ -0.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,516.17 จุด ลดลง 10.80 จุด หรือ -0.14%

      หุ้นซาโทเรียส ร่วงลง 7.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ และได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2560

     หุ้นเมอร์ลิน เอนเตอร์เทนเมนท์ ดิ่งลง 16% หลังบริษัทผู้ดำเนินงานสวนสนุกรายนี้รายงานว่า รายได้ของบริษัทตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ในระดับทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยปัจจัยที่ทำให้รายได้ไม่เติบโตมาจากปัญหาสภาพอากาศที่ย่ำแย่และภัยก่อการร้ายในกรุงลอนดอน

      อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษดีดตัวขึ้น ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า BoE อาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหราชอาณาจักรพุ่งขึ้น 3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2555

      ทั้งนี้ หุ้นบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 1.1% ขณะที่หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป พุ่ง 1.1%

      หุ้นแอร์บัส ทะยานขึ้น 4.8% หลังจากแอร์บัสได้บรรลุข้อตกลงทางธุรกิจกับบริษัทบอมบาเดียร์ โดยแอร์บัสจะถือหุ้นในสัดส่วน 50.01% ในธุรกิจผลิตเครื่องบิน CSeries ของบอมบาเดียร์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 40.48 จุด รับผลประกอบการ-ข้อมูลศก.แข็งแกร่ง

            ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ยังคงเดินหน้าปิดทำนิวไฮ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ ต่างก็ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนก.ย.

       ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,997.44 จุด เพิ่มขึ้น 40.48 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,559.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.72 จุด หรือ +0.07% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,623.66 จุด ลดลง 0.35 จุด หรือ -0.01%

      ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 23,000.00 จุดเป็นครั้งแรกในระหว่างวัน ก่อนที่จะขยับลงมาปิดตลาดที่ระดับ 22,997.44 จุด ซึ่งก็ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

       นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 68 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. โดยได้แรงหนุนจากการผลิตรถยนต์ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคสหรัฐ

     หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.90 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.80 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 1.965 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.928 หมื่นล้านดอลลาร์

        หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป ทะยานขึ้น 5.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรในปีนี้

        ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของยูไนเต็ดเฮลธ์ และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพดีดตัวขึ้น 1.3%

       หุ้นฮาร์เลย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 2 % หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 40 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 39 เซนต์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 962.1 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 953.3 ล้านดอลลาร์

        หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับตัวขึ้น 0.4% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 93 เซนต์ มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 81 เซนต์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 9.197 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 9.015 พันล้านดอลลาร์

         อย่างไรก็ตาม หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.6% แม้ว่าธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 5.02 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.17 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 8.33 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.54 พันล้านดอลลาร์

       หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 1.6% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/2560 หลังจากจำนวนสมาชิกที่ใช้บริการของเน็ตฟลิกซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 ล้านราย

       นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.โดย Conference Board และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.

         นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการแต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยขณะนี้มีตัวเก็ง 5 คนที่อาจได้รับการพิจารณา ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า, นายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!