WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ SET แกว่งตัวในกรอบจำกัด รอผลประชุมธนาคารโลก โฉมหน้านายกฯ แนะเล่นหุ้นปันผลดี- Domestic Play

   โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ SET แกว่งตัวในกรอบจำกัด รอปัจจัยใหม่ ทั้งผลประชุมธ.โลก ที่แจ็คสันโฮล 21-23 ส.ค.นี้ พร้อมจับตาท่าทีเฟดต่อนโยบายดบ.  ส่วนในปท.รอดูโฉมหน้านายกฯ และแผนเดินหน้าศก.ของรัฐบาลชุดใหม่ แนะเลือกซื้อหุ้นที่มีปันผลดี-หุ้นกลุ่ม Domestic Play ให้แนวรับ 1540 จุด แนวต้าน 1,555 จุด

   นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบจำกัด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบการลงทุน ซึ่งในช่วงปลายสัปดาห์นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางโลกที่แจ็คสันโฮล คาดว่าจะไม่มีอะไรที่ออกมาเหนือความคาดหมายมากนัด เพียงแค่จับตาดูถึงท่าทีของผลการประชุมถึงข้อเสนอแนะ (Hint) ต่อภาวะเศรษฐกิจโลกว่าจะเป็นอย่างไร

    ส่วนในประเทศ ก็เห็นถึงแรงขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ หลังมีการผ่านร่างงบประมาณปี 2558 และงบด้านโครงสร้างพื้นฐานในโครงการต่างๆ ตลอดจนการประชุมรอบถัดไปเพื่อการพิจารณาคัดเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงเห็นการลงทุนที่เลือกเล่นหุ้นเป็นรายกลุ่ม-รายตัวมากขึ้น ทำให้มูลค่าการซื้อชะลอตัวลงไปบ้างเล็กน้อย

   สำหรับพรุ่งนี้ หากไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เหนือความคาดหมาย คาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวในกรอบจำกัด เพื่อรอปัจจัยใหม่ ๆ จึงทำให้นักลงทุนโยกไปลงทุนในหุ้นเป็นรายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะตัวที่มีประเด็นข่าว อาทิ กลุ่มพลังงานทดแทน ที่มีข่าว กพช. สนับสนุนการลงทุนด้านพลังงานทดแทนอีก 576 MW. ตลอดจนหุ้นที่มีปันผลดี ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ช่วยดันให้ดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

   ด้านกลยุทธ์ แนะเลือกซื้อหุ้นที่มีปันผลดี รอจังหวะซื้อเมื่ออ่อนตัว และหุ้นที่ได้รับอานิสงค์จากการผลักดันเศรษฐกิจในประเทศ อาทิ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง โดยประเมินแนวรับ 1,540 จุด แนวต้าน 1,560 จุด

   ส่วนนายวิวัฒน์ เตชะพูลผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้แกว่งตัวในกรอบจำกัดไม่สามารถผ่านแนวต้านระดับ 1,555 จุดได้ เนื่องจากขาดปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯปรับตัวขึ้นแรง อีกทั้งนักลงทุนตอบรับกับปัจจัยภายในประเทศ เรื่องการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว และค่อนข้างคาดหวังกับแผนพัฒนาประเทศและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆหลังการปฏิบัติหน้าที่ของทีมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่มากกว่า

   สำหรับแนวโน้มของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะแกว่งตัวเช่นเดียวกับวันนี้ เพราะยังไม่มีปัจจัยสนับสนุนใหม่เข้ามากระตุ้น ทำให้นักลงทุนรอปัจจัยภายในประเทศเพื่อหาจังหวะซื้อลงทุนมากขึ้น

   ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือการประชุมธนาคารกลางทั่วโลกที่แจ็คสันโฮล ในวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ ว่าทางประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะกล่าวถึงการส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบนี้เมื่อไหร่ โดยอ้างอิงจาก Bloomberg Consensus ส่วนใหญ่ประมาณ 60% คาดว่าที่ประชุมจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 3 ปี 2558 ประกอบกับจากสถิติในช่วงที่ผ่านมาสหรัฐฯมีวิกฤติการณ์ทางการเงิน การลดดอกเบี้ยลงต่ำจะทำให้

    ดัชนีฯปรับตัวเพิ่มขึ้นตรงกันข้ามหากขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก ดัชนีฯจะปรับตัวลดลงแรง 7 % แบบ Learning Curve เพราะนักลงทุนเร่งขายก่อนการประกาศขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 5 เดือน ซึ่งเป็นปัจจัยนำมาประกอบการวิเคราะห์และส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกได้ นอกจากนี้ให้ดูปริมาณเงินไหลเข้าจากนักลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) หากเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดัชนีฯก็มีโอกาสยืนในแดนบวกได้เช่นกัน

   ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ซื้อ-ขายในกรอบจำกัด ทั้งนี้ประเมินแนวรับที่ 1,542 จุด และแนวต้านที่ 1,555 จุด

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!