WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

53ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบหวั่นเจอปรับพอร์ตระยะสั้นหลังผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับขึ้น

      นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบอยู่ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ (Bond Yield) อายุ 10 ปี ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้สร้างความกดดันต่อความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้น

      แม้ว่า ยังมีความกังวลสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี แต่ผลตอบแทนจากพันธบัตรของสหรัฐฯก็ปรับตัวขึ้นมาได้ แต่เช้านี้ดีดตัวขึ้นมาได้บ้างแล้ว ขณะที่ปัจจุบันหุ้นอยู่ในระดับที่สูงแล้ว และระยะสั้นคงจะไม่ได้เห็นการปรับประมาณการเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้น นักลงทุนจึงอาจปรับพอร์ตการลงทุนในระยะสั้นได้ นอกจากนี้มอง 1 เดือนข้างหน้าตลาดฯอาจมีความผันผวนได้แถว 1,530-1,550 จุด

       อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวได้ตามผลประกอบการที่ออกมาดี และมี Valuation ไม่แพง พร้อมให้ถือเงินสดไว้ 30-40% ของพอร์ต เพื่อรอจังหวะในการซื้อหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามาก

       ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ นอกประเทศเวลานี้ก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แต่ก็ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และทิศทางผลตอบแทนพันธบัตร

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,568-1,577 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (9 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,048.70 จุด ลดลง 36.64 จุด (-0.17%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,352.33 จุด ลดลง 18.13 จุด (-0.28%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,474.02 จุด ลดลง 0.90 จุด (-0.04%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 53.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.84 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 34.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.35 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 7.44 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.99 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.00 จุด

       - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ส.ค.60) 1,571.51 จุด ลดลง 5.93 จุด (-0.38%)

        - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 851.85 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ส.ค.60

       - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (9 ส.ค.60) ปิดที่ 49.56 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.8%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 ส.ค.60) ที่ 7.72 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

       - เงินบาทเปิด 33.23 แข็งค่ากว่าภูมิภาค มองกรอบวันนี้ 33.20-33.30 นลท.วิตกสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี

       - บอร์ดอีอีซีกางแผนคมนาคมเตรียมเปิด PPP ลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ 2.8 แสนล้านบาท คาดเชิญชวนเอกชนลงทุนได้ปลายปีนี้ กำหนดค่าโดยสาร 300 บาทต่อเที่ยวสำหรับด่วนพิเศษสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และ 500 บาทต่อเที่ยวเส้นทางด่วนพิเศษดอนเมือง-อู่ตะเภา

       - ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะของประเทศล่าสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2560 อยู่ที่ 6.18 ล้านล้านบาท หรือ 41.54% ของจีดีพี เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะลดลง 1.62 แสนล้านบาท

       - รมว. คลัง เผยยังไม่เห็นรายละเอียดมาตรการภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยว ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมเข้าหารือกับกระทรวงการคลัง ว่าหน่วยงานสามารถศึกษาและเสนอแนะได้ แต่กระทรวงการคลังจะพิจารณาหรือไม่ ต้องขอเวลาศึกษาผลกระทบจากรายได้ภาษีประเภทต่างๆ และการใช้เงินของประเทศ และค่าลดหย่อนจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง เพราะใช้มาตรการไปแล้วในปีที่ผ่านมา

       - ผู้จัดการสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย เปิดเผยว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่บราซิลรับสินบนจากผู้ประกอบการและปล่อยผ่านให้เนื้อหมดอายุสามารถส่งออกได้ ซึ่งตรวจพบตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายประเทศออกประกาศห้ามนำเข้าเนื้อไก่จากบราซิล ซึ่งล่าสุด จีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป หรืออียู และซาอุดีอาระเบีย ยกเลิกประกาศดังกล่าวแล้ว และเปลี่ยนเป็นห้ามนำเข้าเฉพาะ 21 บริษัทที่มีปัญหาแทน อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่บราซิลจะทำให้ไทยส่งออกไก่ได้มากขึ้น คาดว่าทั้งปีจะได้เกินเป้าหมายที่กำหนดคือ 770,000 ตัน เพิ่มขึ้น 8-9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

       - ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีชี้ความเชื่อมั่นธุรกิจ SME ครึ่งปีแรกทรงตัว เหตุราคาสินค้าเกษตรตกต่ำกดกำลังซื้อและภาวะเศรษฐกิจซึมยาว แนะผู้ประกอบการพลิกธุรกิจเป็นมืออาชีพเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

*หุ้นเด่นวันนี้

       - THANI (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 6.8 บาท ความต้องการรถบรรทุกเพิ่มหนุนสินเชื่อเติบโตดี 18% ปีนี้ ขณะที่ต้นทุนการเงินต่ำต่อเนื่องจาก credit rating ที่ดีขึ้น หนุนผลการดำเนินงานเติบโต 18% ปีนี้ และ 22% ปีหน้า มองราคาหุ้นปรับสูงขึ้นแกร่ง แต่ยังมีแนวโน้ม outperform ตลาดต่อไป แนวต้านระยะสั้นที่ 6.15 บาท และถัดไปตามกรอบ uptrend channel ที่ 6.8-6.85 บาท ใกล้เคียงเป้าหมายพื้นฐาน

       - ADVANC (เคทีบี) เป้า 190 บาท เป็นหนึ่งในหุ้นปลอดภัยในช่วงเวลานี้ ประกาศผลงานช่วง Q2/60 ที่ 7,215 ล้านบาท (-24.8% YoY, -6.2% QoQ) สูงกว่าที่คาดเล็กน้อย พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 60 ที่ 30,062 ล้านบาท (-2.0% YoY) สำหรับภาพรวมทั้งปี จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยมองแนวโน้มเติบโตได้ดีในระยะยาว เริ่มตั้งแต่ช่วงปี 61 เป็นต้นไป จากการคาดการณ์การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่เบาบางลง

       - MINT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 43 บาท กำไรสุทธิ 2Q60 อยู่ที่ 737 ลบ. -62% Q-Q, +1% Y-Y หากตัดรายการปรับลดมูลค่าเงินลงทุน กำไรปกติยังโต 24% Y-Y แม้รายได้ชะลอตามฤดูกาล และค่าใช้จ่าย SG&A จะเร่งตัวขึ้น แต่ถูกชดเชยได้ทั้งหมดจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัวในทุกธุรกิจ คาดกำไรจะโตทั้ง Q-Q และ Y-Y ตลอด 3 ไตรมาสข้างหน้า จาก High Season ของโรงแรมในโปรตุเกสและต่อเนื่องด้วย High Season ของในประเทศ

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ลดลงเช้านี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์ก

      ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงเช้านี้ โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ ส่วนดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดดีดตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้

         ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,792.45 จุด เพิ่มขึ้น 53.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,269.73 จุด ลดลง 5.84 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,791.36 จุด เพิ่มขึ้น 34.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,470.03 จุด ลดลง 0.35 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,360.95 จุด ลดลง 7.44 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,322.07 จุด เพิ่มขึ้น 3.99 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,776.94 จุด ลดลง 1.00 จุด

        ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า มีโอกาสที่การใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 พร้อมกล่าวถึงแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐว่า คลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และมีอำนาจมากกว่าในอดีต

       ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้จุดปะทุขึ้นเมื่อวอชิงตัน โพสต์รายงานว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขนาดย่อส่วน ซึ่งออกแบบมาให้สามารถบรรจุเป็นหัวรบในขีปนาวุธได้ โดยหลังจากข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไปไม่นาน ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาแสดงความเห็นอย่างเผ็ดร้อนว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ "ไฟและความเดือดดาล" จากสหรัฐอย่างแน่นอน หากยังคงดึงดันทำสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากกว่านี้

       นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังใช้พื้นที่ข่าวในการยั่วยุสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ด้วยการประกาศว่า เกาหลีเหนือจะชิงโจมตีสหรัฐก่อน ด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มเกาะกวม ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากที่สหรัฐได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำจากฐานทัพดังกล่าวไปยังเกาหลีใต้ เพื่อร่วมซ้อมทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลงสู่เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือ

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : วิตกคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียด ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 44.67 จุด

       ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกาหลีเหนือประกาศว่าจะยิงขีปนาวุธถล่มเกาะกวม ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก

       ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,498.06 จุด ลดลง 44.67 จุด หรือ -0.59%

       นักลงทุนวิตกกังวลว่า ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือจะส่งผลให้สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีย่ำแย่ลง โดยล่าสุดเกาหลีเหนือประกาศว่าจะชิงโจมตีสหรัฐก่อน ด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มเกาะกวม ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากที่สหรัฐได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำจากฐานทัพดังกล่าวไปยังเกาหลีใต้ เพื่อร่วมซ้อมทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลงสู่เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือ

      ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกล่าวว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ "ไฟและความเดือดดาล" จากสหรัฐอย่างแน่นอน หากยังคงดึงดันทำสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากกว่านี้ พร้อมเปิดเผยว่า คลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และมีอำนาจมากกว่าในอดีต

       หุ้น G4S ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยรายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 7.5% หลังจากบริษัทได้คงคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2560 แม้ว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกดีดตัวขึ้นก็ตาม

       อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มผู้ผลิตเมืองทองคำดีดตัวขึ้น หลังจากราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นเฟรสนิลโล และหุ้นโพลีเมทัล อินเตอร์เนชันแนล ปรับตัวขึ้น 4.9% และ 3.3% ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดร่วง วิตกความขัดแย้งสหรัฐ-เกาหลีเหนือบานปลาย

       ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งความขัดแย้งที่ส่อเค้าว่าจะรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ

       ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.7% ปิดที่ 379.84 จุด

      ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,145.70 จุด ลดลง 73.19 จุด หรือ -1.40% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,154.00 จุด ร่วงลง 138.05 จุด หรือ -1.12% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,498.06 จุด ลดลง 44.67 จุด หรือ -0.59%

     ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ โดยวอชิงตัน โพสต์รายงานว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขนาดย่อส่วน ซึ่งออกแบบมาให้สามารถบรรจุเป็นหัวรบในขีปนาวุธได้ ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ออกมาตอบโต้อย่างรุนแรงว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ "ไฟและความเดือดดาล" จากสหรัฐอย่างแน่นอน หากยังคงดึงดันทำสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากกว่านี้ และล่าสุดปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า คลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และมีอำนาจมากกว่าในอดีต

       นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังประกาศว่าจะชิงโจมตีสหรัฐก่อน ด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มเกาะกวม ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากที่สหรัฐได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำจากฐานทัพดังกล่าวไปยังเกาหลีใต้ เพื่อร่วมซ้อมทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลงสู่เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือ

       หุ้น G4S ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยรายใหญ่ของยุโรป ดิ่งลง 7.5% หลังจากบริษัทได้คงคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2560 แม้ว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกดีดตัวขึ้นก็ตาม

          อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มผู้ผลิตเมืองทองคำดีดตัวขึ้น หลังจากราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นเฟรสนิลโล และหุ้นโพลีเมทัล อินเตอร์เนชันแนล ปรับตัวขึ้น 4.9% และ 3.3% ตามลำดับ

         ส่วนหุ้นนอร์ดิสก์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ ทะยานขึ้น 7.9% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มผลประกอบการในปี 2560

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 36.64 จุด วิตกคาบสมุทรเกาหลี,หุ้นดิสนีย์ฉุดตลาด

       ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงวอลท์ ดิสนีย์

       ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,048.70 จุด ลดลง 36.64 จุด หรือ -0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,474.02 จุด ลดลง 0.90 จุด หรือ -0.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,352.33 จุด ลดลง 18.13 จุด หรือ -0.28%

       ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า มีโอกาสที่การใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 พร้อมกล่าวถึงแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐว่า คลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และมีอำนาจมากกว่าในอดีต

       ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้จุดปะทุขึ้นเมื่อวอชิงตัน โพสต์รายงานว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขนาดย่อส่วน ซึ่งออกแบบมาให้สามารถบรรจุเป็นหัวรบในขีปนาวุธได้ โดยหลังจากข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไปไม่นาน ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาแสดงความเห็นอย่างเผ็ดร้อนว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ "ไฟและความเดือดดาล" จากสหรัฐอย่างแน่นอน หากยังคงดึงดันทำสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากกว่านี้

       นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังใช้พื้นที่ข่าวในการยั่วยุสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ด้วยการประกาศว่า เกาหลีเหนือจะชิงโจมตีสหรัฐก่อน ด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มเกาะกวม ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากที่สหรัฐได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำจากฐานทัพดังกล่าวไปยังเกาหลีใต้ เพื่อร่วมซ้อมทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลงสู่เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือ

       หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ร่วงลงเกือบ 4% และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบ หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในไตรมาส 2 แม้กำไรปรับตัวดีขึ้นก็ตาม

       หุ้นเน็ตฟลิกซ์ร่วงลง 1.5% หลังจากดิสนีย์ประกาศถอนรายการภาพยนตร์ของบริษัทออกจากแพล็ตฟอร์มสตรีมมิ่งของเน็ตฟลิกซ์ เพื่อให้บริการสตรีมมิ่งของตนเอง โดยดิสนีย์จะเปิดตัวบริการ ESPN สำหรับสตรีมรายการกีฬามากกว่า 10,000 รายการต่อปี เริ่มตั้งแต่ปี 2561 และจะเปิดตัวบริการสตรีมมิงภาพยนตร์ออนไลน์ในปี 2562

      หุ้นออฟฟิศ ดีโปท์ ทรุดฮวบลงเกือบ 26% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด

       หุ้นไพร์ซไลน์ กรุ๊ป ดิ่งลง 6.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่น้อยกว่าคาดการณ์ ขณะที่หุ้นทริปแอดไวเซอร์ ดีดตัวขึ้น 2.5% เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาหุ้นร่วงลงในช่วงแรก อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

       อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตยุทธปัจจัยทางทหารที่ต่างก็พากันปรับตัวขึ้น เนื่องจากความหวังที่ว่าบริษัทเหล่านี้จะมียอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น หลังจากเกิดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี โดยหุ้นล็อคฮีด มาร์ติน พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นนอร์ทธรอป กรัมแมน ปรับตัวขึ้น 1.2% หุ้นร็อคเวลล์ คอลลินส์ ขยับขึ้น 0.6% หุ้นแอลทรี เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 2% และหุ้นเจเนอรัล ไดนามิกส์ ปรับขึ้น 1.1%

        นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 เดือน และมากกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 0.6% โดยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย.ได้แรงหนุนจากสต็อกรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 1.4%

       นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!