- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 07 August 2017 11:35
- Hits: 4338
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวในกรอบจำกัด จับตาการทยอยประกาศงบฯ-ไร้ปัจจัยดันดัชนีฯ
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบจำกัด เนื่องจากในสัปดาห์นี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้าคงจะโฟกัสไปที่การทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ ซึ่งก็คงจะออกมา Drop ลง ทำให้ตลาดฯไม่มีปัจจัยที่จะขับเคลื่อนดัชนีฯให้ปรับตัวขึ้นไปได้
พร้อมให้แนวรับ 1,575 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,092.81 จุด เพิ่มขึ้น 66.71 จุด (+0.30%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,351.56 จุด เพิ่มขึ้น 11.22 จุด (+0.18%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,476.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด (+0.19%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 106.96 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.41 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 103.03 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.13 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 7.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.99 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ส.ค.60) 1,578.26 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด (+0.00%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 951.14 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ส.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 ส.ค.60) ปิดที่ 49.58 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ส.ค.60) ที่ 7.60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.27 อ่อนค่าหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯดีกว่าคาด หนุนเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย
- รัฐเร่งเบิกจ่ายงบฯฟื้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง พบวงเงินรายจ่ายรัฐ รอเบิกจ่ายกว่า 1 ล้านล้าน เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่าครึ่งปีแรก ด้าน "ทีดีอาร์ไอ" ระบุโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อฯวงเงิน 2.2 หมื่นล้าน เห็นผลเร็วสุด ขณะนักเศรษฐศาสตร์แนะรัฐหามาตรการอัดสภาพคล่อง หนุนเศรษฐกิจระยะสั้น
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สนพ.อยู่ระหว่างทบทวนและปรับปรุงแผน พัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) โดยจะเพิ่มเติมการศึกษาข้อมูลสัดส่วนการ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนจากเอกชนที่ผลิตไฟฟ้าใช้เองไม่ขายไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้า (ไอพีเอส) เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ไฟฟ้าในอนาคต
- สศค.ยืนยันหนี้เสีย 'นาโนไฟแนนซ์' ทั้งระบบต่ำเพียง 2.45% ส่วนสินเชื่อทรงตัว 2 พันล้าน ขณะ "พิโก" ไฟแนนซ์ ยังไร้เอ็นพีแอล แต่ยอมรับยอดสินเชื่อยังต่ำเพียง 16 ล้านบาท จำนวนผู้ได้รับสินเชื่อ 521 ราย เหตุเพิ่งเริ่มดำเนินการ
- ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก (GSI) ประจำไตรมาส 2 ปี 2560 โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่มี รายได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ทั่วประเทศ 1,903 ตัวอย่าง พบว่า ดัชนี GSI ไตรมาส 2 ปี 2560 อยู่ที่ระดับ 46.3 ปรับลดลงจากไตรมาสแรกที่อยู่ระดับ 47.2 แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ปี 2559 ที่อยู่ระดับ 44.1 เนื่องจากประชาชนระดับฐานรากรู้สึกว่าภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมในปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัว ราคาสินค้าและค่าครองชีพสูง ทำให้ระมัดระวังการใช้จ่าย
*หุ้นเด่นวันนี้
- BRRGIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ เข้าซื้อขายวันแรกใน SET ในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค กลุ่มทรัพยากร มีจำนวน 350,000,000 หน่วย ราคาพาร์ 10.30 บาทต่อหน่วย ราคาเสนอขาย 10.30 บาทต่อหน่วย
- STANLY (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 280 บาท กำไร 1QFY61 กำไร 296 ล้านบาท +20% y-y ขณะที่ -10% q-q สนับสนุนจากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เติบโตแข็งแรง รวมไปถึงรถจักรยานยนต์ ขณะที่ SG&A ต่อยอดขายลดลงเหลือ 6.8% จาก 7.2% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี ยังชอบ STANLY จากการเติบโตกำไรที่ดี 21-23% ปี 2561-2562 ขณะที่ PE ต่ำเพียง 10x
- BIG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 5 บาท กำไร 2Q60 อยู่ที่ 155 ล้านบาท -35% Q-Q, -16% Y-Y จาก Low Season และการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ รวมถึงการถูกบันทึกขาดทุนจากการตีมูลค่าสินค้าคงเหลือ 14.21 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้กำไรจะต่ำกว่าคาด 9% แต่คาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี และน่าจะได้เห็นการฟื้นกลับเร็วใน 2H60 จากการออกรุ่นใหม่ และการกระตุ้นตลาดของผู้ผลิตกล้อง โดยคาดกำไรปีนี้ 888 ล้านบาท +5% Y-Y ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PE2560 เพียง 15 เท่าต่ำกว่ากลุ่มซื้อขายสินค้าไอทีที่ 25 เท่า
- CBG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 85 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q60 ประมาณ 405 ล้านบาท โต 83%qoq และ 3%yoy โดยมีแรงหนุนของยอดขายในจีนที่เพิ่มขึ้นทำ Newhigh ทุกเดือน และธุรกิจที่อังกฤษพลิกกำไร
ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐแข็งแกร่ง
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,059.29 จุด เพิ่มขึ้น 106.96 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,257.67 จุด ลดลง 4.41 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,665.71 จุด เพิ่มขึ้น 103.03 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,521.69 จุด เพิ่มขึ้น 15.13 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,402.57 จุด เพิ่มขึ้น 7.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,329.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,775.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% จาก 4.4% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 183,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.3%
นอกจากนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยปรับตัวขึ้น 9 เซนต์ สู่ระดับ 26.36 ดอลลาร์ ขณะที่เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 36.94 จุด ขานรับหุ้น RBS พุ่ง, ปอนด์อ่อน
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (RBS) และการอ่อนค่าของเงินปอนด์
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,511.71 จุด เพิ่มขึ้น 36.94 จุด หรือ +0.49%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ขานรับหุ้น RBS พุ่งขึ้น 2% หลังจากธนาคารพลิกกลับมาทำกำไรในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดย RBS มีกำไรในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 939 ล้านปอนด์ (1.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินปอนด์ ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัทอังกฤษที่ทำรายได้ในต่างแดน
อย่างไรก็ตาม หุ้นอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง โดยหุ้นเพอร์ซิมมอน ลดลง 4% และหุ้นเทย์เลอร์ วิมพีย์ ลดลง 3.7% หลังจากมีข่าวว่า รัฐบาลอังกฤษเริ่มทบทวนมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดความช่วยเหลือ หรือการแทนที่ด้วยมาตรการใหม่ก่อนมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในเดือนเม.ย. 2564
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่แข็งแกร่ง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.95% ปิดที่ 382.53 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,203.44 จุด เพิ่มขึ้น 72.95 จุด หรือ +1.42% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,297.72 จุด เพิ่มขึ้น 143.00 จุด หรือ +1.18% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,511.71 จุด เพิ่มขึ้น 36.94 จุด หรือ +0.49%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% จาก 4.4% ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 183,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.3%
นอกจากนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยปรับตัวขึ้น 9 เซนต์ สู่ระดับ 26.36 ดอลลาร์ ขณะที่เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งได้ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อธนาคารยุโรปหลายแห่งที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในสหรัฐ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในสหรัฐอาจเป็นปัจจัยส่งเสริมให้รายได้ของธนาคารยุโรปกลุ่มนี้สูงขึ้น
หุ้นธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นดอยซ์แบงก์ เพิ่มขึ้น 2.4% หุ้นบังโก ซานตานเดร์ เพิ่มขึ้น 1% และหุ้นเครดิต อะกริโกล เพิ่มขึ้น 1.1%
ส่วนหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ พุ่งขึ้น 2% หลังจากธนาคารพลิกกลับมาทำกำไรในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
หุ้นสวิสรี ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยจากสวิตเซอร์แลนด์ ร่วงลง 3.1% หลังจากเปิดเผยกำไรสุทธิลดลงในช่วงครึ่งปีแรก
หุ้นอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง โดยหุ้นบริติช โฮม บิลเดอร์ เพอรซิมมอน ลดลง 4% หุ้นบาร์รัต ดีเวลลอปเม้นท์ ลดลง 4.7% และหุ้นเทย์เลอร์ วิมพีย์ ลดลง 3.7% หลังจากมีข่าวว่า รัฐบาลอังกฤษเริ่มทบทวนมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดความช่วยเหลือ หรือการแทนที่ด้วยมาตรการใหม่ก่อนมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในเดือนเม.ย. 2564
สำหรับ สัปดาห์นี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.11%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 66.71 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่ง
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (4 ส.ค.) ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐแข็งแกร่ง
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,092.81 จุด เพิ่มขึ้น 66.71 จุด หรือ +0.30% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,476.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด หรือ +0.19% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,351.56 จุด เพิ่มขึ้น 11.22 จุด หรือ +0.18%
ดัชนี ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 8 หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% จาก 4.4% ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 183,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.3%
นอกจากนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยปรับตัวขึ้น 9 เซนต์ สู่ระดับ 26.36 ดอลลาร์ ขณะที่เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 152,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนมิ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 231,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 222,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนก.ค. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 4,000 ตำแหน่ง
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 62.9% จาก 62.8%
หุ้นโกโปร ผู้ผลิตกล้องขนาดเล็ก พุ่งขึ้น 19.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นซิกนาปรับตัวลง 2% ถึงแม้ผลประกอบการจะออกมาสอดคล้องคาดการณ์
หุ้นเยล์ป ทะยานขึ้น 28% หลังจากบริษัทตกลงที่จะขายธุรกิจส่งอาหารให้แก่ GrubHub Inc.
สำหรับในสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.2% ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.2% และดัชนี NASDAQ ลดลง 0.4%
อินโฟเควสท์