- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 20 August 2014 10:30
- Hits: 3322
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัวดีขึ้นตามภูมิภาค เล็งกลุ่มสื่อสาร-รับเหมาฯหนุน
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุน บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกเล็กน้อย ภายหลังจากปัจจัยจากต่างประเทศผ่อนคลายขึ้น ทั้งสถานการณ์ในยูเครนที่ไม่ได้มีอะไรรุนแรง และตัวเลขยอดขายบ้านและสร้างบ้านของสหรัฐฯก็ดีขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราคาดว่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มสื่อสาร และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ภายหลังจากที่ไม่ได้มีการชี้มูลความผิดในกรณีประมูลคลื่น 3G ทำให้อาจจะมีการเกิดประมูลคลื่น 1800 และ 900 ได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งส่งผลดีต่อกลุ่มสื่อสาร ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างก็ได้รับแรงหนุนจากที่จะมีการประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้อาจจะทำให้ตลาดฯมี Sentiment ที่ดีขึ้นได้
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,533-1,557 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(19 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,919.59 จุด เพิ่มขึ้น 80.85 จุด (+0.48%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,981.60 จุด เพิ่มขึ้น 9.86 จุด (+0.50%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,527.51 จุด เพิ่มขึ้น 19.20 จุด(+0.43%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 36.14 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 3.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 34.00 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 34.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.87 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.19 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(19 ส.ค.)1,542.85 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด (+0.03%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 898.06 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ส.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(19 ส.ค.)ที่ 94.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.93 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(19 ส.ค.)ที่ 4.15 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.86/88 อ่อนค่าเล็กน้อย นลท.จับตาประชุมธนาคารกลางโลก
- บอร์ดบีโอไอไฟเขียวยุทธศาสตร์ใหม่ 7 ปี เน้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูงขึ้นเลิกสนับสนุนกิจการ 10 ประเภท รวม "ขนมขบเคี้ยว-ขนมปัง-ชาเขียว" พร้อมใช้รูปแบบ "คลัสเตอร์" แทนแบ่งเขต ขณะอนุมัติอีก 15 โครงการกว่า 4 หมื่นล้านคาดในเดือนก.ย.นี้อนุมัติคำขอค้างท่อได้หมด ด้านคสช. เห็นโครงการลงทุนระบบ "ผลิต-ส่ง" ไฟฟ้ากว่า 1.7 แสนล้าน
- ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 ส.ค. เร่งรัดแผนการลงทุนของหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอนุมัติโครงการการลงทุนระบบไฟฟ้า 6 โครงการวงเงิน 1.72 แสนล้านบาท เช่นโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ ลงทุนระบบสายส่งไฟฟ้าในภาคตะวันตกและภาคใต้ และขยายสถานีไฟฟ้าแรงสูง เป็นต้น
- พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้ใช้เงื่อนไขการประกวดราคา(ทีโออาร์) ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิตสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.4 กม. ในส่วนงานโยธา 2.65 หมื่นล้านบาทโดยจะเปิดให้บริษัทที่ซื้อซองประกวดราคาไปแล้วจำนวน 31 ราย เข้ายื่นซองประกวดราคาได้ในเดือน ก.ย.นี้
- นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่า ได้ขอความร่วมมือเร่งให้ผู้ผลิตกล่องวางจำหน่ายกล่องในวันที่15ต.ค. และจะเร่งสรุปรายละเอียดคุณสมบัติบริษัทกล่องเข้าร่วมโครงการภายในวันที่ 10 ก.ย. เริ่มต้นแจกคูปองผ่านไปรษณีย์วันที่ 15 ก.ย.
- "สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ" เตรียมชง ภาครัฐหนุนตั้ง "กองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ" ดึงแรงงาน 37 ล้านคน เข้าระบบการออมเพื่อเกษียณ ชี้เป็นจังหวะดีที่จะทำส่วนการตัดสินใจขึ้นกับภาครัฐเป็นสำคัญ มั่นใจช่วยเพิ่มเงินออมในระบบไว้ใช้ลงทุนพัฒนาประเทศได้อีกมาก "บลจ.ซีไอเอ็มบี" ปลื้มได้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามอายุให้ "การเคหะแห่งชาติ" ชูนวัตกรรมใหม่แห่งแรกของอุตสาหกรรมกองทุน พร้อมประเมินหุ้นไทยยังไปต่อได้อีก 12 เดือนข้างหน้า อัพไซด์ยังมี 10-15%
- ธปท.ระบุยอมรับสัดส่วนการค้างชำระหนี้ 1-3 เดือนและหนี้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ยังไม่น่าตกใจ มั่นใจการฟื้นตัวเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปีนี้ ธนาคารพาณิชย์ดูแลลูกหนี้ได้ดี รวมถึงในระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกันสำรองถึง 4 แสนล้านบาท ซึ่งเฉพาะเงินสำรองส่วนเกิน 1.6 แสนล้านบาท ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- MINT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 42 บาท ในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา MINT เดินหน้าขยายการลงทุนทั้งในธุรกิจอาหารและโรงแรม 3 โครงการได้แก่ การถือหุ้น 50% ในบจก.บีทีเอ็ม(ไทยแลนด์)ทำธุรกิจเบเกอรี่แบรนด์ BreadTalk's ในไทย การถือหุ้น 49% ใน Rani Minor Holding II Ltd ซึ่งทำธุรกิจโรงแรมและอสังหาฯในโมซัมบิค และลงทุนในบจก. Sun International ซึ่งทำธุรกิจโรงแรมในแอฟริกา ใช้เงินทั้งหมด 5.3 พันล้านบาท เรามองเป็นบวกเพราะแอฟริกามีศักยภาพในการการเติบโตทางเศรษฐกิจและเป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงเป็นจุดดึงดูดทั้งนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ การลงทุนดังกล่าวจะยังไม่เห็นผลในปีนี้ จึงคงกำไรปีนี้แต่ปรับเพิ่มปี 2015-18 ขึ้น 1-6% ยังคงเป็นหุ้น Top pick ของกลุ่ม
- CK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 31 บาท กลุ่มรับเหมาก่อสร้างมี Sentiment บวก หลังวานนี้บอร์ด รฟม.อนุมัติเดินหน้าการประกวดราคาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวโซนเหนือ มีมูลค่างานสูงถึง 2.6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะยื่นซองประมูลได้ในวันที่ 19 ก.ย. และหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนประกวดราคา คาดว่าจะเริ่มสร้างได้ช่วงต้นปี 2558 พร้อมคาดกำไรสุทธิ 3Q57 จะเติบโตเด่น yoy และ qoq เนื่องจากจะมีการบันทึกำไรพิเศษ(หลังภาษี)จากการขายหุ้น BMCL ราว 800 ล้านบาท และยังให้ CK เป็น Top pick ของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
- CPF,THCOM(เคทีบี)"เก็งกำไร"โดยราคาหุ้น CPF ตอบสนองทางบวกอย่างชัดเจน ผลประกอบการของ CPF อยู่ในช่วงพลิกฟื้นทางบวกในปี 2557 โดยความต่อเนื่องยังคงเกิดขึ้นในช่วง 2H57 ส่วน THCOM ยังมีแนวโน้มผลประกอบการทางบวกต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา โดยมีแรงหนุนจากดาวเทียมไทยคม 6 ที่เข้ามาอย่างเต็มที่ในปี 2557 และกำลังจะยิงดาวเทียมไทยคม 7 ในช่วงปลายเดือน ส.ค.57 อีกด้วย พร้อมให้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 33.80 และ 47.53 บาท ตามลำดับ
- BJC(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 62 บาท ประกาศเพิ่มทุน RO อัตรา 9:2 ราคาหุ้นละ 45 บาท เพื่อนำไปซื้อ METRO Vietnam
ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี รับข้อมูลศก.สหรัฐสดใส
ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขการสร้างบ้านของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่เงินเฟ้อของสหรัฐยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ซื้อขายที่ระดับ 148.76 จุด เมื่อเวลา 9.34 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,485.93 จุด เพิ่มขึ้น 36.14 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,241.66 จุด ลดลง 3.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,156.95 จุด เพิ่มขึ้น 34.00 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,278.15 จุด เพิ่มขึ้น 34.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,080.77 จุด เพิ่มขึ้น 9.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,325.30 จุด เพิ่มขึ้น 8.87 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,874.35 จุด เพิ่มขึ้น 2.19 จุด
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดแผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 15.7% มาอยู่ที่ 1.09 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 945,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. บ่งชี้ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองบวกมากขึ้น หลังจากตลาดที่อยู่อาศัยซบเซาเมื่อช่วงต้นปี
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งนักลงทุนมองว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงนั้นอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 38.06 จุด หลังเงินเฟ้ออังกฤษต่ำกว่าคาด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) หลังจากที่มีรายงานว่าอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษขยายตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 38.06 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 6,779.31 จุด
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของอังกฤษปรับตัวลงแตะที่ 1.6% จากระดับ 1.9% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 1.8%
ตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวชะลอลงทำให้มีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางอังฤษจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์
หุ้นอิมพีเรียล โทแบ็คโค กรุ๊ป พุ่ง 2.3% หลังยอดขายลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วง 4.9% เนื่องจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรตลอดปีที่ต่ำกว่าคาด
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ผลประกอบการเอกชนสดใส หุ้นตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัท Moeller-Maersk ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.6% ปิดที่ 335.49 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,254.45 จุด เพิ่มขึ้น 23.80 จุด หรือ +0.56% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,334.28 จุด เพิ่มขึ้น 88.95 จุด หรือ +0.96% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,779.31 จุด เพิ่มขึ้น 38.06 จุด หรือ +0.56%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน และข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 15.7% มาอยู่ที่ 1.09 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 945,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. บ่งชี้ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองบวกมากขึ้น หลังจากตลาดที่อยู่อาศัยซบเซาเมื่อช่วงต้นปี
หุ้น Moeller-Maersk พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรปี 2557 เป็น 4.5 พันล้านดอลลาร์ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 4 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประกาศการจ่ายเงินปันผลราว 1 พันล้านดอลลาร์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า
หุ้นอิมพีเรียล โทแบคโค พุ่งขึ้น 2.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในช่วงเวลา 9 เดือนจนถึงเดือนมิ.ย. ลดลง 1% อันเนื่องมาจากยอดขายที่ลดลงในรัสเซียและตะวันออกกลาง
หุ้น ThyssenKrupp ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2% หลังจากมีรายงานว่าทางบริษัทยังคงเดินหน้าธุรกิจเรือดำน้ำในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 4.9% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2557 ลงเหลือ 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์ จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.36 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูการประชุมประจำปีซึ่งธนาคารกลางสหรัฐสาขาแคนซัส ซิตี้ จะจัดขึ้นที่เมืองแจ็คสัน โฮล มลรัฐไวโอมิง ในระหว่างวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ ซึ่งบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลาง นักเศรษฐศาสตร์ รัฐมนตรีคลัง และเจ้าหน้าที่ด้านอื่นๆจากทั่วโลก จะเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในการประชุมดังกล่าว ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 80.85 จุด ขานรับข้อมูลศก.สหรัฐสดใส
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี เพราะได้แรงหนุนจากรายงานตัวเลขการสร้างบ้านของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทโฮม ดีโปต์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,919.59 จุด เพิ่มขึ้น 80.85 จุด หรือ +0.48% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,527.51 จุด เพิ่มขึ้น 19.20 จุด, +0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,981.60 จุด เพิ่มขึ้น 9.86 จุด หรือ +0.50%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์ที่ระบุว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 15.7% มาอยู่ที่ 1.09 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 945,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. บ่งชี้ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองบวกมากขึ้น หลังจากตลาดที่อยู่อาศัยซบเซาเมื่อช่วงต้นปี
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นที่มีผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งนักลงทุนมองว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงนั้นอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก
นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ดีเกินคาดก็เป็นปัจจัยหนุนบรรยากาศการซื้อขายให้คึกคักเช่นกัน โดยโฮม ดีโปต์ รายงานยอดขายและกำไรสุทธิไตรมาสสองที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทเผยว่า ยอดขายในสหรัฐปรับตัวขึ้น 6.4% ในไตรมาสดังกล่าว ส่งผลให้หุ้นโฮม ดีโปต์ พุ่งขึ้น 5.55%
หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านพุ่งขึ้นขานรับตัวเลขการสร้างบ้านที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยหุ้นเคบี โฮม พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน ทะยานขึ้น 3.3%
หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 1.4% จากการคาดการณ์ที่ว่าผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทจะมียอดขายที่สูงขึ้น
หุ้นอลิซาเบธ อาร์เดน ร่วงลง 23% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายลดลง 28% ในไตรมาสล่าสุด อันเนื่องมาจากยอดขายน้ำหอมที่ปรับตัวลดลง
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมครั้งล่าสุดจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ ซึ่งอาจจะมีสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับแนวทางการกำหนดนโยบายการเงินในอนาคต หรือแผนการของเฟดในการเพิ่มการควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น
ขณะเดียวกัน เฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ จะจัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล มลรัฐไวโอมิง ในระหว่างวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ ซึ่งบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลาง นักเศรษฐศาสตร์ รัฐมนตรีคลัง และเจ้าหน้าที่ด้านอื่นๆจากทั่วโลก จะเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในการประชุมดังกล่าว ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป
อินโฟเควสท์