WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

47ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ เล็งแรงหนุนจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันฟื้น,จับตาประชุม ECB-BOJ

     นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,570-1,579 จุด เนื่องจากอาจได้รับแรงกดดันจากการที่แบงก์ใหญ่ อย่าง KTB , KBANK ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/60 ออกมาแล้วต่ำกว่าตลาดคาด ทำให้ราคาหุ้นอาจปรับตัวลงก่อนที่จะเด้งขึ้นไป เนื่องจากหุ้นแบงก์ใหญ่ได้ปรับตัวลงรับข่าวล่วงหน้าไปแล้ว

     อย่างไรก็ดี คาดว่า จะได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานที่ยังดีต่อเนื่อง โดยหุ้น TOP ก็ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง, PTTEP ก็น่าจะได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันเด้งขึ้นวานนี้หลังจากที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง สำหรับการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดว่าน่าจะคงมาตรการตามเดิมอยู่ เพียงแต่ในส่วนของ ECB อาจมีการส่งสัญญาณลดนโยบายผ่อนคลาย และอาจเปิดแผนนโยบายเข้มงวดขึ้นในเดือนก.ย. ส่วน BOJ ให้จับตามุมมองการปรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

      นอกจากนี้ เงินเยน, เงินยูโร และเงินบาท ยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง ทำให้เชื่อว่าเงินทุนยังคงไม่ไหลออกไปไหน

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 ก.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,640.75 จุด เพิ่มขึ้น 66.02 จุด (+0.31%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,385.04 จุด เพิ่มขึ้น 40.74 จุด (+0.64%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,473.83 จุด เพิ่มขึ้น 13.22 จุด (+0.54%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 26.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 98.32 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 7.02 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.75 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.58 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 15.24 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ก.ค.60) 1,575.85 จุด เพิ่มขึ้น 4.33 จุด (+0.28%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 114.71 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ก.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 ก.ค.60) ปิดที่ 47.12 ดอลลาร์/บาร์เรล  เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.6%    

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ก.ค.60) ที่ 7.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 33.61 รอลุ้นผลประชุมนโยบายการเงินของ ECB-BOJ วันนี้

- ส.อ.ท.เล็งปรับลดเป้าผลิตรถยนต์ จาก 2 ล้านคัน เหลือ 1.9 ล้านคัน ต่ำกว่าปีก่อนที่มี จำนวน 1.95 ล้านคัน หลังตลาดส่งออกร่วงหนัก คาดยอดส่งออกเหลือ 1.1 ล้านคัน ตลาดตะวันออกกลางร่วงมากสุด 47% เหตุเศรษฐกิจชะลอ ส่วนยอดขายในประเทศคงเป้าเดิม 8 แสนคัน ขณะค่ายรถมั่นใจภาพรวมตลาดรถปีนี้ขยายตัว

- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.2560 อยู่ที่ระดับ 84.7 ลดลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 3 เดือน เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อกำลังซื้อภายในประเทศ จากการระมัดระวังการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ประกอบกับอยู่ในช่วงฤดูฝน ทำให้การดำเนินกิจกรรมของภาคธุรกิจชะลอตัวลง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ทำให้ภาคเอกชนกังวลจะประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเอสเอ็มอี

- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากขยายตัวและมีความเข้มแข็งขึ้น จากการอัดฉีดเงินผ่านสินเชื่อของสถาบันการเงินของรัฐและเงินจากงบประมาณ ถือเป็นมาตรการดำเนินการมาถูกทางแล้ว เพราะทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็งขึ้น สะท้อนได้จากการขยายตัวการบริโภคภาคเอกชนที่ดีขั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคสินค้าคงทน ได้แก่ รถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ที่ขยายตัวได้ดีทุกภูมิภาค

- บอร์ด ขสมก.อนุมัติราคากลางที่เบสท์รินเสนอต่ำสุด 3.38 พันล้าน เปิดประมูลรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันรอบใหม่ ยันขายซอง ส.ค. รับมอบรถปีนี้ หากไม่มีใครสนต้องเริ่มใหม่ พร้อมเดินหน้าติดตั้งป้ายอัจฉริยะ 20 จุด เสร็จในเดือนเดียว เสนอคมนาคมชง ครม.ซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน

*หุ้นเด่นวันนี้

- TCAP (เอเชีย เวลท์) "ซื้อ"เป้า 55 บาท เป็นหุ้นเด่นวันนี้จากผลงานออกมาดี สินเชื่อกลับมาฟื้นตัว และแนวโน้มสดใส โดยรายงานกำไร Q2/60 ที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.2% YoY โดย NIM ดีขึ้นจากต้นทุนทางการเงินลดลงและสินเชื่อโต รวมถึงการตั้งสำรองลดลง ซึ่งสินเชื่อฟื้นตัว 0.6% YTD หลังหดตัว 3 ปีติดต่อกัน หนุนโดยสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มเช่าซื้อ มองอุปสงค์สินเชื่อนับจากนี้จะเร่งขึ้นไปอีกตามยานยนต์กำลังฟื้นตัว การบริโภคในครัวเรือนที่กำลังขยายตัว และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ คาดการณ์สินเชื่อของ TCAP ปีนี้จะเติบโต 5%

- AOT (เอเอสแอล) "ซื้อ"เป้า 58 บาท แม้กำไรปกติ H2/60 (เม.ย.-ก.ย.60) รับผลกระทบ Low season แต่มองยังมีกำไรปกติเติบโตในระยะยาว นอกจากการเติบโตจากรายได้หลักที่เป็นไปตามแนวโน้มธุรกิจ ยังโตจากการขยายการลงทุนต่อเนื่อง ประเมินกำไรปกติระว่างปี 60-64 โตเฉลี่ย 16.2% ต่อปี (CAGRs) ยังมีปัจจัยบวกสนับสนุนจาก (1) ความกังวลลดลงกรณีค่าเช่าที่ดินราชพัสดุ และ (2) การเปิดประมูลสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีรอบใหม่ Q4/60-Q1/61

- BANPU (โกลเบล็ก) เป้า 22.40 บาท Bloomberg Consensus คาดกำไร Q2/60 ที่ 2.19 พันล้านบาท +52%QoQ แม้ราคาถ่านหินในตลาดโลกจะปรับตัว 4%QoQ สู่ระดับ 78.9 ดอลลาร์2ตัน แต่คาดผลกระทบด้านลบจากค่าเงินบาทจะไม่มากเท่า Q1/60 โดยทั้งปีคาดกำไรราว 8.8 พันล้านบาท +429 YoY ราคาถ่านหินสูงขึ้น 8%MTD แตะสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ 86 $/Ton จากน้ำท่วมใหญ่ทางจีนขยายวงกว้างljงผลให้โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำผลิตไฟฟ้าไม่ได้ ต้องหันมาใช้ถ่านหิน ฝ่ายวิจัยมองราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบคดีความหงสาไปแล้ว อีกทั้งราคาถ่านหินสูงขึ้นเป็นบวก เพราะทำสัญญาขาย 50% และอีก 50% อ้างอิงราคา spot

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่ง

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ขานรับดัชนีดาวโจนส์ S&P500 และ Nasdaq ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทำนิวไฮเมื่อคืน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ รวมทั้งรายงานตัวเลขการสร้างบ้านในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย.

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,046.90 จุด เพิ่มขึ้น 26.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,227.51 จุด ลดลง 3.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,770.48 จุด เพิ่มขึ้น 98.32 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,513.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.02 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,436.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,326.82 จุด เพิ่มขึ้น 1.75 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,759.85 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,988.14 จุด เพิ่มขึ้น 15.24 จุด

      ขณะเดียวกัน ตลาดต่างจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารกลางทั้งสองแห่งมีแนวโน้มที่จะปรับนโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่

      นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ECB จะยังคงนโยบายการเงินไว้ และไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2562 เช่นเดียวกับ BOJ ที่คาดว่าจะคงนโยบายการเงินไว้เช่นกัน ภายหลังจากที่เงินเฟ้อและความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงซบเซา

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหุ้นเรคคิทท์ เบนคีเซอร์ หนุนฟุตซี่ปิดบวก 40.69 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นเรคคิทท์ เบนคีเซอร์ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ หลังมีรายงานว่าทางบริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการตัดขายธุรกิจผลิตอาหารของบริษัทให้กับแมคคอร์มิค แอนด์ โค

    ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 40.69 จุด หรือ +0.55% ปิดที่ 7,430.91 จุด

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ หุ้นเรคคิทท์ เบนคีเซอร์ หลังผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ดังกล่าวได้บรรลุข้อตกลงในการขายธุรกิจอาหารให้กับบริษัทแมคคอร์มิค แอนด์ โค ด้วยวงเงิน 4.2 พันล้านดอลลาร์ โดยข่าวดังกล่าวได้หนุนหุ้นยูนิลีเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งของเรคคิทท์ เบนคีเซอร์ เพิ่มขึ้น 0.6%

    หุ้นกลุ่มสร้างบ้านปรับตัวขึ้น หลังนักวิเคราะห์จากลิเบอรัมประเมินมูลค่าในภาคอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษว่ามีความน่าดึงดูด โดยหุ้นบาร์ราตต์ เดเวลลอปเมนต์ส และหุ้นเพอร์ซิมมอน ต่างพุ่งขึ้น 2.4%

    หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงตามทิศทางของราคาแร่โลหะมีค่าอย่างทองคำเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ลดลง 0.4% ขณะที่หุ้นเฟรสนิลโล ผู้ผลิตแร่ทองแดงรายใหญ่ ขยับลง 0.8% และหุ้นริโอทินโต ลดลงประมาณ 0.1%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับผลประกอบการสดใส ขณะนลท.จับตาประชุม ECB

      ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทอีเลคโทรลักซ์ เอบี ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ระดับโลก ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ซึ่งจะมีขึ้นภายหลังการประชุม

    ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.8% ปิดที่ 385.54 จุด

     ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,452.05 จุด เพิ่มขึ้น 21.66 จุด หรือ +0.17% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,216.07 จุด เพิ่มขึ้น 42.80 จุด หรือ +0.83% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,430.91 จุด เพิ่มขึ้น 40.69 จุด หรือ +0.55%

     ตลาดหุ้นยุโรปได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นอีเลคโทรลักซ์ พุ่งขึ้น 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิพุ่งขึ้น 21% ในไตรมาส 2 เนื่องจากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ และจากการที่บริษัทดำเนินการตามแผนลดต้นทุน

     หุ้นเอเอสเอ็มแอล โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ของเนเธอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 5.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 3% พร้อมประกาศแผนซื้อคืนหุ้น

   หุ้น Tele2 AB ซึ่งเป็นบริษัทเทเลคอมของสวีเดน ทะยานขึ้น 6.5% หลังจากบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ในปีนี้     นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่า บริษัทเรคคิท เบนคีเซอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภค ได้บรรลุข้อตกลงขายธุรกิจอาหาร มูลค่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ ให้กับบริษัทแมคคอร์มิค แอนด์ โค ผู้ผลิตเครื่องเทศรายใหญ่ของสหรัฐ

    นักลงทุนจับตาการประชุม ECB ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะคงนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้ รวมทั้งคาดว่า ECB จะทำการประกาศในเดือนก.ย.เกี่ยวกับแผนการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

    ทั้งนี้ ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ย.นี้ ECB จะเปิดเผยตัวเลขประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อชุดใหม่ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่านายดรากีจะใช้การประชุมในเดือนดังกล่าวทำการประกาศแผนการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนม.ค.ปีหน้า โดยคาดว่า ECB จะขยายเวลาการใช้มาตรการ QE ออกไปอีก 6 เดือน จากที่มีกำหนดสิ้นสุดในปลายปีนี้ แต่จะลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรลง

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 66.02 จุด รับหุ้นเทคโนฯพุ่ง,ผลประกอบการ มอร์แกน สแตนลีย์ สดใส

ดัชนี ดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ รวมทั้งรายงานตัวเลขการสร้างบ้านในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับร่างกฎหมายประกันสุขภาพของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง IBM ได้สกัดแรงบวกของตลาดในระหว่างวัน

ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,640.75 จุด เพิ่มขึ้น 66.02 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,473.83 จุด เพิ่มขึ้น 13.22 จุด หรือ +0.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,385.04 จุด เพิ่มขึ้น 40.74 จุด, +0.64%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.6% หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 1.1% และหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ปรับตัวขึ้น 1.2%

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 3.3% หลังจากทางธนาคารเปิดเผยกำไรไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 87 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 76 เซนต์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 9.50 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.09 พันล้านดอลลาร์ โดยมอร์แกน สแตนลีย์ระบว่า ธนาคารมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการซื้อขายหุ้น และมีกำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง

หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพปรับตัวขึ้น หลังจากยูไนเต็ดเฮลท์ กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 อยู่ที่ 2.46 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.38 ดอลลาร์/หุ้น ทั้งนี้ หุ้นยูไนเต็ดเฮลท์ พุ่งขึ้น 1.3% และหุ้นซิกนา ปรับตัวขึ้น 1.3% เช่นกัน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.22 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. จากระดับ 1.12 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.16 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย.

อย่างไรก็ตาม หุ้นบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (IBM) ร่วงลง 4.2% ซึ่งส่งผลให้แรงบวกในตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกสกัดลงเมื่อคืนนี้ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรลดลง 7% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยอยู่ที่ระดับ 2.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.48 ดอลลาร์/หุ้น จากยอดขาย 1.93 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 21 ไตรมาส

นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในความพยายามของปธน.ทรัมป์ในการผลักดันร่างกฎหมายประกันสุขภาพให้ผ่านวุฒิสภา โดยล่าสุดปธน.ทรัมป์ได้เชิญวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันทั้ง 52 คนเข้าพบที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ หลังจากที่ความพยายามในการผลักดันให้มีการยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับโอบามาแคร์ได้ประสบความล้มเหลวอีกครั้ง ขณะที่นายมิทช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ ประกาศว่า วุฒิสภาจะทำการลงมติต่อร่างกฎหมายที่จะยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับโอบามาแคร์ ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ ความพยายามของวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันในการลงมติเพื่อยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพ "โอบามาแคร์" ของรัฐบาลชุดก่อน โดยที่ยังไม่มีร่างกฎหมายฉบับใหม่เข้ามาบังคับใช้แทนที่นั้น ประสบกับความล้มเหลว หลังจากที่นางลิซา เมอร์คอว์สกี นางเชลลีย์ มัวร์ และนางซูซาน คอลลินส์ ซึ่งเป็นวุฒิสภาชิกจากพรรครีพับลิกันได้ประกาศที่จะคัดค้านแผนการดังกล่าว นอกจากนี้ นายไมค์ ลี วุฒิสมาชิกรัฐยูทาห์ นายเจอร์รี มอร์แรน วุฒิสมาชิกรัฐแคนซัส พร้อมด้วยนายแรนด์ พอล วุฒิสมาชิกจากรัฐเคนทักกี ก็ได้ออกมาแสดงจุดยืนที่จะโหวตคัดค้านร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับปรับปรุงใหม่ในวุฒิสภาเช่นกัน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงอเมริกัน เอ็กซ์เพรส และควอลคอมม์ พร้อมกับจับตาตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!