WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นตามตลาดตปท.หลังไร้ปัจจัยลบ-รอเลือกนายกฯคนใหม่

     นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสที่ดัชนีจะขยับขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ทิศทางเดียวกับดาวโจนส์ที่เมื่อคืนที่ผ่านมาขยับขึ้นเช่นกัน ประกอบกับปัจจัยในประเทศในขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยที่ส่งผลในเชิงลบ

     "วันนี้มีแนวโน้มขยับขึ้น Sentiment ก็ไม่ลบ ดาวน์โจนส์ปิดเมื่อคืนก็เป็นบวก ตลาดภูมิภาคช่วงเช้าเปิดมาก็บวกตาม ปัจจัยในประเทศยังไม่มีประเด็นอะไร งบประมาณก็ผ่านการพิจารณาแล้ว และเร็ว ๆ นี้ก็จะได้นายกฯคนใหม่"นายเทิดศักดิ์ กล่าว

พร้อมให้แนวต้าน 1,550 จุด แนวรับ 1,530 จุด

     ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(18 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,838.74 จุด เพิ่มขึ้น 175.83 จุด (+1.06%)ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,971.74 จุด เพิ่มขึ้น 16.68 จุด(+0.85%)ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,508.31 จุด เพิ่มขึ้น 43.38 จุด (+0.97%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 90.09 จุดดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 129.34 จุดดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 47.32 จุดดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.87 จุดดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 12.06 จุดดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.90 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.22 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(18 ส.ค.)1,542.36 จุด ลดลง 4.26 จุด (-0.28%)

    - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 971.82 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ส.ค.57

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(18 ส.ค.)ที่ 96.41 ดอลลาร์/บาร์เรลลดลง 94 เซนต์

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(18 ส.ค.)ที่ 3.46 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 31.85/86 รอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ

     - สศช.หั่นเป้าเศรษฐกิจจาก 1.5-2.0% เหลือ 1.5-2.5% ระบุเศรษฐกิจโตต่ำกว่าศักยภาพ จากผลกระทบการเมืองครึ่งปีแรกตลาดโลก ฟื้นตัวช้าฉุดส่งออก คาดโตแค่ 2% ส่วนไตรมาส 2 ขยายตัว 0.4% ดีกว่าคาดการณ์ ส่งผลครึ่งปีแรกติดลบ 0.1% ขณะเอกชนประเมินอียูนำเข้าเพิ่ม คาดตัวเลขเศรษฐกิจดีกว่าสศช.ประเมิน

     - ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 58 ผ่าน สนช.วาระแรกฉลุย ตั้ง กมธ.50 คนเร่งเครื่องพิจารณาทุกวันจันทร์-เสาร์ ก่อนสรุปรายงานเสนอ สนช. 11 ก.ย. ตั้ง "ฉัตรชัย สาริกัลยะ" นั่งประธานกมธ.พิจารณาแปรญัตติ "ประยุทธ์" เข้มค่าก่อสร้างต้องลดลง 20% ยุคนี้ไม่มีเรียกหัวคิว ใครเรียกรับผลประโยชน์ให้แจ้ง คสช.

    - เมื่อวันที่ 18 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยระหว่างชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ. 2558 ว่า เมื่องบประมาณผ่านแล้วจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นแต่ต้องไม่ขาดดุลงบประมาณเพิ่มสูงขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจประมาณ 3.5-4.5% ที่คาดหวังไว้ โดยในปี 2558 จะพัฒนาระบบรางเพื่อลดต้นทุนการขนส่ง โดยเฉพาะรถไฟทางคู่ 11 สาย

     - "ก้องเกียรติ"มองตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเร็ว เหตุสภาพคล่องในประเทศสูง คนไทยเล่นกันเอง ด้านต่างชาติทยอยขายตราสารหนี้ เหตุกังวลสหรัฐ-อังกฤษขึ้นดอกเบี้ย แนะขายหุ้นขึ้นแรง เก็บหุ้นสภาพคล่องสูง ด้าน เอเซียพลัสมองกำไรและรายได้สูงกว่าปี 2555 ชี้จะไม่ใช่ผู้นำแข่งลดค่าคอมมิชชั่น

    - ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. มีมติคัดเลือก พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์เป็นผู้อำนวยการสลากฯ คนใหม่ โดยจะเสนอชื่อเข้าสู่ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 19 ส.ค. หากคสช.อนุมัติจะเร่งเซ็นสัญญาจ้าง และเปิดประชุมคณะกรรมการสลากฯ นัดแรกทันทีภายในสัปดาห์นี้

*หุ้นเด่นวันนี้

    - M(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 78 บาท แนวโน้มกำไรฟื้นต่อเนื่องใน 3Q14 คาดยอดขายสาขาเดิมติดลบน้อยลงหรืออาจทรงตัว Y-Y จาก 2Q14 ติดลบ 5.7% Y-Y ตามการบริโภคดีขึ้น การปรับขึ้นราคาอาหารราว 4% Y-Y ในเดือน ส.ค.สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบที่ปรับขึ้น และการขยายสาขาต่อเนื่อง ยังคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 12% Y-Y และโตเพิ่มขึ้นเป็น 19% Y-Y ในปี 2015 ตั้งเป้าขยายสาขาปีละ 60 แห่งตามเดิม และมี Upside จากการเข้าซื้อกิจการ

    - RML(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 2.60 บาท กำไรปกติใน 2Q14 ดีกว่าคาด (+19% Q-Q, +90% Y-Y)มาจากรายได้ที่สูงและค่าใช้จ่ายต่ำ ปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2014 ลงเล็กน้อย 4% จากแนวโน้มการโอนโครงการ 185 ราชดำริในช่วง 2H14 ชะลอลง และปรับกำไรปกติปี 2015 ขึ้นเล็กน้อย 2% ทำให้กำไรในปี 2014-15 ขยายตัว 68% และ 13% ตามลำดับชอบ RML เพราะการเติบโตดี PE ต่ำเพียง 5.3 เท่าในปี 2015

     - SAMART(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 28.50 บาท แรงกระตุ้นราคาหุ้นปีนี้มาจากแนวโน้มการเติบโตของการใช้ smart phone แข็งแกร่ง และขาย set top box คาดว่าอัตราการเติบโตกำไร CAGR 3 ปี ระหว่างปี 56-59 เฉลี่ยเป็น 21% สะท้อนไปถึงการได้งานบริการสำหรับโครงการสื่อสารใหม่ ๆ รวมถึงโอกาสในการเข้าไปเจาะตลาดใหม่ๆ เช่นที่ประเทศพม่า

     - AAV(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 5.20 บาท ได้อานิสงส์เชิงบวกจากราคาน้ำมันลงหลังยูเครนเริ่มคลายตัวคาด 3Q57 พลิกกลับเป็นกำไรสุทธิจากแรงหนุนท่องเที่ยวฟื้นตามเศรษฐกิจโตและนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะจีนมามากขึ้นหลังยกเว้นค่าวีซ่า 3 เดือน โดย Loading Factor ก.ค.เริ่มส่งสัญญาณฟื้นสู่ 81% และคาดดีต่อเนื่องในส.ค.-ก.ย. และ 4Q57 เข้า High Season ท่องเที่ยว พร้อมคาดกำไรปี 58 โต +231% yoy เป็น 1,671 ล้านบาท สูงสุดในกลุ่ม

ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้นเช้านี้ ขานรับข้อมูลศก.สหรัฐคลายวิตกยูเครน

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

    ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 148.51 จุด เมื่อเวลา 9.16 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,451.94 จุด เพิ่มขึ้น 129.34 จุดดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,188.63 จุด เพิ่มขึ้น 47.32 จุดดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,065.19 จุด เพิ่มขึ้น 12.06 จุดดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,318.68 จุด เพิ่มขึ้น 5.90 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,862.97 จุด เพิ่มขึ้น 1.22 จุด

    ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนหลังจากมีรายงานว่า นายพาฟโล คลิมคิน รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน และนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้เข้าร่วมการประชุมนานหลายชั่วโมงที่เยอรมนี เพื่อหาหนทางคลี่คลายวิกฤตในยูเครน

    ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ยูเครนได้เปิดทางให้ขบวนรถบรรทุกที่รัสเซียระบุว่าเป็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เดินทางเข้ามายังดินแดนทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซีย โดยมีคณะกรรมการกาชาดสากลเป็นผู้กำกับดูแล

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 55 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จาก 53 ในเดือนก.ค. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และแตะระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินไว้ว่าดัชนีจะอยู่ที่ 53

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดพุ่ง ขานรับวิกฤตยูเครนส่งสัญญาณคลี่คลาย

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียและยุเครนได้ร่วมหารือกันเพื่อหาทางแก้ไขวิกฤตการณ์ในยูเครน

    ดัชนี Euro Stoxx 600 พุ่งขึ้น 1.2% ปิดที่ 333.6 จุด

    ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,245.33 จุด เพิ่มขึ้น 152.73 จุด หรือ +1.68% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,230.65 จุด เพิ่มขึ้น 56.29 จุด หรือ +1.35% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,741.25 จุด เพิ่มขึ้น 52.17 จุด หรือ +0.78%

    ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครนหลังจากมีรายงานว่านายพาฟโล คลิมคิน รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน และนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้เข้าร่วมการประชุมนานหลายชั่วโมงที่เยอรมนี เพื่อหาหนทางคลี่คลายวิกฤตในยูเครน

    ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ยูเครนได้เปิดทางให้ขบวนรถบรรทุกที่รัสเซียระบุว่าเป็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เดินทางเข้ามายังดินแดนทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซีย โดยมีคณะกรรมการกาชาดสากลเป็นผู้กำกับดูแล

     หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ พุ่งขึ้น นำโดยหุ้นเรโนลท์ ปรับตัวขึ้น 2.5% ขณะที่หุ้นโนเคียน เรนคาร์ท ผู้ผลิตยางของฟินแลนด์ ปรับตัวขึ้น 3.1% และหุ้นคอนติเนนตัล เอจี พุ่งขึ้น 3.3%

    นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังขานรับข้อมูลของสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 55 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จาก 53 ในเดือนก.ค. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และแตะระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินไว้ว่าดัชนีจะอยู่ที่ 53

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : คลายวิตกยูเครน หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 175.83 จุด

     ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในยูเครนเริ่มคลี่คลายลง หลังจากมีรายงานว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียและยุเครนได้ร่วมหารือกันเพื่อหาทางแก้ไขวิกฤตการณ์ในยูเครน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ

     ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,838.74 จุด พุ่งขึ้น 175.83 จุด หรือ +1.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,508.31 จุด เพิ่มขึ้น 43.38 จุด หรือ +0.97% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,971.74 จุด เพิ่มขึ้น 16.68 จุด หรือ +0.85%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครนเริ่มลดน้อยลง หลังจากมีรายงานว่านายพาฟโล คลิมคิน รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน และนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้เข้าร่วมการประชุมนานหลายชั่วโมงที่เยอรมนี เพื่อหาหนทางคลี่คลายวิกฤตในยูเครน

     ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ยูเครนได้เปิดทางให้ขบวนรถบรรทุกที่รัสเซียระบุว่าเป็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เดินทางเข้ามายังดินแดนทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซีย โดยมีคณะกรรมการกาชาดสากลเป็นผู้กำกับดูแล

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 55 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จาก 53 ในเดือนก.ค. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และแตะระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินไว้ว่าดัชนีจะอยู่ที่ 53

     นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่า บริษัทดอลลาร์ เจนเนอรัลได้เสนอซื้อกิจการแฟมิลี ดอลลาร์เป็นมูลค่าราว 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 78.50 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าข้อเสนอของบริษัทดอลลาร์ ทรี

    ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นดอลลาร์ เจนเนอรัล พุ่งขึ้น 11.63% และหุ้นแฟมิลี ดอลลาร์ ปรับขึ้น 4.93%

     หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลง โดยหุ้นเดลต้า แอร์ พุ่งขึ้น 2.5% และหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลนส์ ทะยานขึ้น 3.6%

    หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านปรับฐานขึ้นขานรับรายงานของ NAHB ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้านในสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยหุ้นเลนนาร์ คอร์ป ปรับตัวขึ้น 1.7% และหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน พุ่งขึ้น 21.13 ดอลลาร์

    นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ และการประชุมเศรษฐกิจในหัวข้อ "Re-Evaluating Labor Market Dynamics "ที่เมืองแจ็คสัน โฮล มลรัฐไวโอมิง ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจต่อการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตลาดแรงงานของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด นอกจากนี้ นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารรกลางยุโรป (อีซีบี) ก็จะเข้าร่วมปาฐกถาในการประชุมครั้งนี้ด้วย

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!