- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 12 July 2017 11:06
- Hits: 3925
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ รอดูประธานเฟดแถลงนโยบายรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,565-1,575 จุด เคลื่อนไหวคล้ายกับเมื่อวานนี้ เนื่องจากตลาดโดยรวมต่างรอดูประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงนโยบายรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในวันพุธนี้ โดยดูว่าจะมีการส่งสัญญาณอะไรกับนโยบายของสหรัฐฯ
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ในลักษณะทรงตัวราว 0.1-0.2% โดยตลาดต่างประเทศมีโอกาสที่จะผันผวนได้ ภายหลังจากที่ลูกชายคนโตของ"ทรัมป์"ได้ออกมาเผยแพร่อีเมลที่ชี้ให้เห็นถึงการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งสหรัฐฯที่ผ่านมา ซึ่งตรงนี้ทำให้นโยบายของ"ทรัมป์"เริ่มมีความไม่แน่นอนมากขึ้น
สำหรับ การประกาศผลประกอบการของ TISCO งวดไตรมาส 2/60 ออกมาแล้วก็ปรากฏว่าดีกว่าตลาดคาดราว 5% ซึ่งก็น่าจะช่วยหนุนให้เกิดการเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัวได้
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 ก.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,409.07 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด (+0.00%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,193.30 จุด เพิ่มขึ้น 16.91 จุด (+0.27%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,425.53 จุด ลดลง 1.90 จุด (-0.08%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 58.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 113.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 18.60 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.87 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.91 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ก.ค.60) 1,569.24 จุด ลดลง 0.20 จุด (-0.01%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 73.36 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ก.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 ก.ค.60) ปิดที่ 45.04 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 1.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ก.ค.60) ที่ 7.08 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.02 กลับมาแข็งค่าหลังมีแรงขายดอลล์ ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้
- ครม.ไฟเขียวโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน มูลค่า 1.79 แสนล้าน สั่งคลัง-สำนักงบฯ จัดหาแหล่ง เงินกู้ เปิดทางออกพันธบัตรระดมทุน คาดปี64 เปิดบริการค่าโดยสาร 535 บาท ถึงนครราชสีมา พ่วงแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้ รฟท.จัดตั้ง "เอสพีวี"ดำเนินการ ยก 3 เหตุผลผ่านโครงการ ระบุสร้างประโยชน์เชื่อมโยงภูมิเศรษฐศาสตร์ โยงเส้นทางสายไหมกว่า 5 หมื่นกิโลเมตร
- นายกฯรับรายงานแบงก์ชาติ ออกเกณฑ์คุมสินเชื่อบุคคล-บัตรเครดิต วางเพดานคนมีเงินเดือนไม่เกิน 3 หมื่นบาทขอสินเชื่อ ไม่เกิน 1.5 เท่า เงินเดือน 5 หมื่นบาทขึ้นไปได้วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 5 เท่าหวังสกัดหนี้ครัวเรือนพุ่ง หลังพบกลุ่มคนอายุ 30 ปี เป็นเอ็นพีแอลสูงมาก คาดเกณฑ์ใหม่มีผลบังคับไตรมาส 3 นี้
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยต่างประเทศส่งผลกระทบต่อตลาดเงิน เช่น นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก เป็นต้น
- นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำบัญชีรวบรวมความต้องการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสรุปเสนอขออนุมัติงบประมาณนำไปสนับสนุนการผลิตใช้ในประเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางให้มากขึ้น ซึ่งต้องแก้ปัญหายางตกต่ำภายในประเทศก่อน
- จับตามติ กกพ. 12 ก.ค. เคาะค่าไฟงวดใหม่ ส.อ.ท.ชี้ตกหนักกับประชาชน เอกชนแนะคลังประสานแบงก์ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำลงทุนโซลาร์บนหลังคา
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPALL (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 72 บาท เราทำ NDR กับ CPALL ให้กับนักลงทุนที่ญี่ปุ่น แม้การบริโภคอ่อนแอใน 1H60 แต่กลยทธ์การขยายสาขา, เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น หนุนการเติบโตกำไร 20% ต่อปีช่วง 2 ปีข้างหน้า
- UNIQ (ไอร่า) เป้า 25.70 บาท ครม. มีมติอนุมัติให้ รฟท. พัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วง ที่ 1 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. มูลค่า 179,413 ล้านบาท คาดว่าลงนามสัญญาการออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธากับจีนในเดือนส.ค. นี้ พร้อมคาด UNIQ สามารถโตต่อเนื่องในปี 60 ภายใต้ Backlog ล่าสุด คาดอยู่ที่ระดับ 30,000 (หลังหักรายได้ 1Q/60) ซึ่งคาดเพียงพอต่อการรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 2 ปีข้างหน้า ขณะที่ UNIQ เป็น 1 ใน 4 ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ที่คาดได้รับประโยชน์จากงานก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่ทยอยเปิดประมูลต่อเนื่องหลังจากนี้ และคาด UNIQ มีโอกาสที่จะได้รับงานเพิ่ม ซึ่งคาดสามารถชดเชย Backlog เดิมที่ลดลงตามความคืบหน้างานก่อสร้าง
- MINT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 43 บาท คาดกำไรปกติ 2Q60 +15% Y-Y จาก RevPar โรงแรมที่โตทุกภูมิภาค และธุรกิจอาหารทั้งไทยและจีนที่ทรงตัวได้ดี ส่วน 2H17 ยังสดใสเพราะเป็น High Season และโรงแรมในโปรตุเกสปรับปรุงเสร็จ คาดหนุนกำไรทั้งปี +23% Y-Y นอกจากนี้ NVDR ซื้อต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 รวม 1.7 พันลบ. ล่าสุดที่ซื้อหนักคือ ก.ย. 15 ถึง มี.ค. 16 (รวม 7 เดือนซื้อไป 2.7 พันลบ.) ราคาหุ้นขึ้น 64% รอบนี้ขึ้นเพียง 18% และ MINT ยัง laggard กลุ่มท่องเที่ยว โดย 2 สัปดาห์นี้ +2% แต่กลุ่ม +7%
- BIG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.90 บาท จัดงาน BIG PRO DAYS ระหว่าง 10-16 ก.ค. ครั้งนี้จัดเร็วกว่าทุกปี เพื่อกระตุ้นตลาดและตัดหน้าคู่แข่ง ซึ่งแม้จะไม่มีเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ แต่โปรโมชั่นที่แรงสุดในรอบปีน่าจะช่วยกระตุ้นยอดได้ โดยคาดกำไร 2Q60 +15-20% Y-Y และจะเร่งขึ้นใน 3Q60 ที่เป็น High Season
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเช้านี้ เหตุวิตกการเมืองสหรัฐ, จับตาประธานเฟดแถลง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟด
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,137.22 จุด ลดลง 58.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,201.93 จุด ลดลง 1.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,991.35 จุด เพิ่มขึ้น 113.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,396.97 จุด ลดลง 18.60 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,395.41 จุด ลดลง 0.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,219.67 จุด เพิ่มขึ้น 0.87 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,755.94 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด
นักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งเป็นบุตรชายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เผยแพร่อีเมลที่ชี้ให้เห็นว่า ตนเองได้รับข้อเสนอเป็นข้อมูลที่อ่อนไหวของนางฮิลลารี คลินตัน จากทางรัสเซียเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ในขณะที่ทางการสหรัฐอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียได้เข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปีที่แล้วหรือไม่
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธที่ 12 ก.ค. และจากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐในวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.ค.นี้
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 40.27 จุด จากแรงเทขายหุ้นเพียร์สัน,มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) จากแรงฉุดของหุ้นจดทะเบียนรายใหญ่อย่างเพียร์สันที่ดิ่งลงอย่างหนัก หลังบริษัทเผยว่าเตรียมจะขายหุ้นในธุรกิจสำนักพิมพ์รวมมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลงจากรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 40.27 จุด หรือ -0.55% ปิดที่ 7,329.76 จุด
นักลงทุนเทขายหุ้นเพียร์สัน หลังบริษัทสื่อการเรียนการสอนรายใหญ่แห่งนี้ เปิดเผยแผนการที่จะขายหุ้นในธุรกิจสำนักพิมพ์ "เพนกวิน เรนดอม เฮาส์" จำนวน 22% รวมมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ให้กับเบอร์เทลส์แมนน์ บริษัทสื่อของเยอรมนี ซึ่งเป็นเจ้าของร่วม โดยรายงานข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเพียร์สันร่วงลง 5.1%
หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่อื่นๆที่น่าจับตา หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 4.7% หลังบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายนี้เปิดเผยว่า ยอดขายไตรมาสแรกประจำปีงบการเงิน 2018 ปรับตัวลง 0.5% โดยยอดขายอาหารปรับตัวลง 0.1% ขณะที่ยอดขายเสื้อผ้าปรับตัวลง 1.2%
นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของนายเบน บรอดเบนท์ รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เพื่อจับสัญญาณว่า กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BoE มีแนวโน้มที่จจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้หรือไม่
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุนลท.ชะลอซื้อขายก่อนปธ.เฟดแถลงนโยบายรอบครึ่งปี
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีในวันพุธและพฤหัสบดีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.7% ปิดที่ 379.15 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,140.60 จุด ลดลง 25.04 จุด หรือ -0.48% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,437.02 จุด ลดลง 8.90 จุด หรือ -0.07% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,329.76 จุด ลดลง 40.27 จุด หรือ -0.55%
นักลงทุนชะลอการซื้อขาย พร้อมกับจับตานางเยลเลนซึ่งมีกำหนดจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้ และจากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ตามเวลาสหรัฐ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นางเยเลนจะแสดงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมมองเกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนมิ.ย.
หุ้นเพียร์สัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตสื่อการศึกษารายใหญ่ ร่วงลง 5.1% หลังจากมีรายงานว่า เพียร์สันเตรียมตัดขายหุ้น 22% ในบริษัท Penguin Random House คิดเป็นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ให้กับบริษัท Bertelsmann SE ซึ่งเป็นผู้ผลิตสื่อสัญชาติเยอรมนี
หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ร่วงลง 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ายอดขายในอังกฤษปรับตัวลดลง
หุ้นซาโนฟี ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของฝรั่งเศส ปรับตัวลง 0.6% หลังจากซาโนฟีประกาศซื้อกิจการบริษัท Protein Sciences ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพด้านวัคซีน
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดขยับขึ้น 0.55 จุด รับความหวังรัฐบาลสหรัฐผลักดันกม.ประกันสุขภาพ
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) ขานรับความหวังที่ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ จะสามารถผลักดันร่างกฎหมายต่างๆให้เริ่มมีผลบังคับใช้ ซึ่งรวมถึงร่างกฎหมายประกันสุขภาพ หลังจากมีรายงานว่า วุฒิสภาสหรัฐได้ตัดสินใจเลื่อนช่วงเวลาการหยุดพักผ่อนของวุฒิสมาชิกในเดือนส.ค.ออกไป เพื่อให้วุฒิสภามีเวลามากขึ้นในการพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,409.07 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด หรือ +0.00% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,425.53 จุด ลดลง 1.90 จุด หรือ -0.08% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,193.30 จุด เพิ่มขึ้น 16.91 จุด หรือ +0.27%
ในช่วงแรกนั้น บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งเป็นบุตรชายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เผยแพร่อีเมลที่ชี้ให้เห็นว่า ตนเองได้รับข้อเสนอเป็นข้อมูลที่อ่อนไหวของนางฮิลลารี คลินตัน จากทางรัสเซียเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ในขณะที่ทางการสหรัฐอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียได้เข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปีที่แล้วหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ตลาดดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากนายมิช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำวุฒิสมาชิกเสียงข้างมากของสหรัฐได้ประกาศเลื่อนช่วงเวลาการหยุดพักผ่อนของวุฒิสภาออกไปจนถึงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนส.ค. เพื่อให้วุฒิสภามีเวลามากขึ้นในการพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ ซึ่งรวมถึงร่างกฎหมายประกันสุขภาพ
ทั้งนี้ การผ่านร่างกฎหมายประกันสุขภาพถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะปูทางไปสู่การผ่านร่างกฎหมายฉบับอื่นๆที่นำเสนอโดยคณะทำงานของปธน.ทรัมป์ ซึ่งรวมถึงร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. โดยการปรับตัวขึ้นของสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งในเดือนพ.ค. ถือเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
หุ้นเป๊ปซี่โค ปิดตลาดปรับตัวลง 0.5% แม้บริษัทเปิดเผยว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/2560 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.11 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.46 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.01 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.38 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2/2560 ของเป๊ปซี่โค จะอยู่ที่ 1.40 ดอลลาร์
นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และซิตี้กรุ๊ป ในสัปดาห์นี้ พร้อมกับจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธที่ 12 ก.ค. และจากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐในวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.ค.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งได้แก่ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
อินโฟเควสท์