- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 11 July 2017 11:58
- Hits: 3897
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดสัปดาห์นี้
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ ทั้งในแดนบวก-ลบ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน โดยตลาดขนาดใหญ่จะปรับตัวขึ้น ส่วนตลาดขนาดเล็กที่ปรับตัวขึ้นก็จะขึ้นแค่เล็กน้อย ทั้งนี้เป็นผลจากเงินดอลลาร์ศหรัฐฯแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานออกมาดี ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นก็จะกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ชั่วคราว แต่ก็มองว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯคงจะแข็งค่าได้ไม่นาน เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯถือว่ายังไม่ดีมากเท่าไร
นอกจากนี้ บ้านเราก็จะมีประเด็นผลประกอบการงวดไตรมาส 2/60 ที่ไม่น่าจะออกมาดีเท่าไร โดยกลุ่มพลังงานอาจเผชิญกับ Stock loss มาก อันเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลง อย่างไรก็ดีเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง เพราะจะมีการเจรจาให้ลิเบีย และไนจีเรีย ช่วยลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ซึ่งจะพูดคุยกันในวันที่ 24 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ วันนี้ให้ติดตาม TISCO ที่จะประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/60 พร้อมมองนักลงทุนคงจะเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวไปก่อน เพื่อรอดูประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายต่อสภาฯในวันพุธ-พฤหัสบดีนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575-1,580 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (10 ก.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,408.52 จุด ลดลง 5.82 จุด (-0.03%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,176.39 จุด เพิ่มขึ้น 23.31 จุด (+0.38%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,427.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.25 จุด (+0.09%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 7.12 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 11.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 105.13 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 23.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.20 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.51 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 9.37 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ก.ค.60) 1,569.44 จุด ลดลง 0.20 จุด (-0.01%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 226.51 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ก.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (10 ก.ค.60) ปิดที่ 44.40 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ก.ค.60) ที่ 7.47 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.08/12 แนวโน้มอ่อนค่าหลังดอลล์แข็งจากตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ หนุนคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย
- อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ ประเมินเศรษฐกิจโลกทั้งสหรัฐ ยุโรป-จีน เริ่มปรับตัวดีขึ้น ปัจจัยหนุนการส่งออกไทย ส่งผลดีต่อการบริโภคปรับตัวขึ้น ดันเศรษฐกิจประเทศ ในเชิงบวก ชี้โจทย์ใหญ่ของรัฐต้องเร่งแก้ปัญหา "ความเหลื่อมล้ำ" เห็นชัดบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ เติบโตดี มีกำไร แต่เอสเอ็มอียังเผชิญ กับปัญหา
- "คมนาคม" ชงรถไฟไทย-จีน เข้าครม.วันนี้ เล็งสอบวิศวกร-สถาปนิกจีนตั้งแต่เดือน ส.ค. คาดเริ่มก่อสร้างเดือน ก.ย.นี้ ขณะ รฟท.ลุยเปิดประมูลรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง 2 แสนล้านบาท พ.ย.นี้ ควัก 100 ล้านบาท ศึกษาความเหมาะสม รถไฟทางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือ
- ผลการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน วงเงิน 215,100 ล้านบาท ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว คาดว่าจะสามารถร่างเอกสารประกวดราคา หรือทีโออาร์ พร้อมประกาศเชิญชวนและเปิดขายซองในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ ส่วนกำหนดการเปิดประมูลจะอยู่ช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. เพื่อคัดเลือกเอกชนเข้ามาดำเนินโครงการได้ภายในปีนี้
- แบงก์เตรียมปรับแผนรับเกณฑ์ คุมสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตของธปท. ชี้ส่งผลดีทำให้เกิดวินัย แต่อาจกระทบรายได้บ้าง "กสิกรไทย" ทบทวนกลยุทธ์เข้าถึงลูกค้ากลุ่มต่างๆ ครึ่งปีหลัง แจงไม่ได้ปรับใหญ่แค่พยายามผลักดันเร็วขึ้น ยืนยัน สินเชื่อยังโตตามเป้า 4-6%
- เอกชนชะลอแผนระดมทุนเข้าตลาดหุ้นไทย ช่วง 6 เดือนแรกปี 60 ยอดจดทะเบียน 10 ราย มูลค่าขายหุ้นไอพีโอรวม 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้สัญญาณเริ่มดีขึ้น บริษัทขนาดใหญ่ 2 แห่งเตรียมเข้าจดทะเบียน มั่นใจมาร์เก็ตแคปเข้าเป้า 2.8 แสนล้านบาท
- "กอบกาญจน์" และ ททท.เชียร์แนวคิดกระตุ้นท่องเที่ยวไทยในเวทีโลกผ่านศิลปวัฒนธรรมเหมือนเกาหลี เตรียมทำแผนรณรงค์เสนอรองนายกรัฐมนตรีให้เดินหน้า แบงก์ชาติเผยปราบทัวร์ศูนย์เหรียญจบแล้วดันจีนเที่ยวไทยเพิ่ม 4 แสน ปรับเป้ารวมปีนี้ได้แน่ 34.9 ล้านคน
- คมนาคมพร้อมให้ ICAO ตรวจสอบปลอดภัย วันที่ 11-12 ก.ค.นี้ มั่นใจผ่านฉลุยปลดธงแดงได้ ภายในปี 60
*หุ้นเด่นวันนี้
- RICHY-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) ครั้งที่ 1) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 157,079,996 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.80 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 3 กรกฎาคม 2560) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 ก.ค. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 2 ก.ค. 2562
- RICHY-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.ริชี่ เพลซ 2002(RICHY) ครั้งที่ 2) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 157,079,996 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.75 บาทต่อหุ้น
อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 3 กรกฎาคม 2560) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 ก.ค. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 2 ก.ค. 2563
- TU (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 24 บาท คาดกำไรค่อยๆ ฟื้นตัวใน Q2/60-Q3/60 จากธุรกิจกุ้ง, ปลาซาดีน ขณะที่ธุรกิจปลาทูน่ายังอ่อนแอเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบสูงที่ US$ 1700-1900/ตัน YTD จากปีก่อนที่ US$ 1500/ตัน
- WORK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 69 บาท คาดกำไรปกติ Q2/60 จะสดใส +33.6% Q-Q, +66.5% Y-Y และเป็นไตรมาสสูงสุดของปีตาม high season ในไตรมาสนี้ WORK ยังปรับค่าโฆษณาเฉลี่ยขึ้นได้อีก +16% Q-Q, +44% Y-Y ตามเรทติ้งที่ดีขึ้น แต่แนวโน้ม 2H60 จะชะลอเพราะมีค่าโบนัสพนักงานและมีงานพระราชพิธี
ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ จับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน, ถ้อยแถลงปธ.เฟด
ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 รวมถึงการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสโดยนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,073.86 จุด ลดลง 7.12 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,201.52 จุด ลดลง 11.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,605.19 จุด เพิ่มขึ้น 105.13 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,313.08 จุด เพิ่มขึ้น 23.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,386.42 จุด เพิ่มขึ้น 4.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,248.55 จุด เพิ่มขึ้น 2.20 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,754.62 จุด ลดลง 2.51 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,846.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.37 จุด
นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐหลายแห่งจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธ และจากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 19.11 จุด รับแรงซื้อหุ้นบีเออี ซิสเต็มส์-ชโรเดอร์ส
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นจดทะเบียนรายใหญ่อย่างชโรเดอร์ส และบีเออี ซิสเต็มส์ ซึ่งต่างปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 19.11 จุด หรือ +0.26% ปิดที่ 7,370.03 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นชโรเดอร์ส ภายหลังจากนักวิเคราะห์ของธนาคารอาร์บีซี ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นชโรเดอร์สขึ้นสู่ระดับ outperform จากระดับ underperform ก่อนหน้าการเปิดเผยรายงานผลประกอบการของบริษัทในวันที่ 27 ก.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานข่าวที่ว่า ศาลอังกฤษได้วินิจฉัยว่า ข้อตกลงของรัฐบาลอังกฤษในการขายอาวุธให้กับซาอุดิอาระเบียนั้นไม่ผิดต่อกฎหมาย หลังมีกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านการค้าอาวุธได้ยื่นฟ้องต่อศาลว่า การขายเครื่องบินขับไล่แบบยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน และยุทโธปกรณ์อื่นๆ ให้กับซาอุดิอาระเบียนั้นเป็นการละเมิดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชน เนื่องจากซาอุดิอาระเบียอาจใช้อาวุธเหล่านี้ไปโจมตีกลุ่มหัวรุนแรงในเยเมน ซึ่งจะทำให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมาก โดยข่าวดังกล่าวได้หนุนหุ้นบีเออี ซิสเต็มส์ บริษัทอุตสาหกรรมการบินและอาวุธรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 2% เมื่อคืนนี้
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ภายหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 1.5% ในเดือนมิ.ย. เทียบเป็นรายปี โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน เพิ่มขึ้น 1.6% ขณะที่หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส เพิ่มขึ้น 1.5% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน เพิ่มขึ้น 1.7%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับยอดส่งออกเยอรมนีขยายตัวแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) หลังจากเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป เปิดเผยยอดส่งออกเดือนพ.ค.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 381.64 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,445.92 จุด เพิ่มขึ้น 57.24 จุด หรือ +0.46% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,370.03 จุด เพิ่มขึ้น 19.11 จุด หรือ +0.26% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันนี้ที่ 5,165.64 จุด เพิ่มขึ้น 20.48 จุด หรือ +0.40%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (FSO) เปิดเผยเมื่อวานนี้ ยอดส่งออกเดือนพ.ค.ของเยอรมนีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 1.2% ส่งผลให้เยอรมนีเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นแตะ 2.03 หมื่นล้านยูโรในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 1.97 หมื่นล้านยูโรในเดือนก่อนหน้านั้น
ยอดส่งออกและนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ดุลการค้านั้นยังอยู่ในกรอบที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ หุ้นบวกนำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี สาธารณูปโภค และสินค้าอุปโภคบริโภค
หุ้นลินด์ เอจี ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์รายใหญ่ พุ่งขึ้น 2% หุ้นคอนติเนนตัล ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ปรับตัวขึ้น 1.4% และหุ้นบีเอ็มดับเบิลยู ขยับขึ้น 0.3%
หุ้น E.ON ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภค ทะยานขึ้น 2.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของเอชเอสบีซีได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้น E.ON
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 5.82 จุด ขณะนลท.รอดูผลประกอบการ,ถ้อยแถลงปธ.เฟดสัปดาห์นี้
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 รวมถึงการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสโดยนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเดินหน้าขึ้นต่อเนื่อง และช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,408.52 จุด ลดลง 5.82 จุด หรือ -0.03% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,176.39 จุด เพิ่มขึ้น 23.31 จุด หรือ +0.38% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,427.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.25 จุด หรือ +0.09%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากที่พุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ภายหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 222,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 174,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ จากระดับของเดือนพ.ค.ที่ 4.3%
นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, เวลส์ ฟาร์โ และซิตี้กรุ๊ป
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดจะแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธ และจากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้
หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง นำโดยหุ้นเมซี ดิ่งลง 7.1% หุ้นแก๊ป อิงค์ ร่วงลง 6.3% และหุ้นโคล์ทส์ ปรับตัวลง 4.2%
อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก เพราะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดตลาดปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังจากหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI
หุ้นเทสลา อิงค์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ ปรับตัวขึ้น 0.9% หลังจากบริษัทเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model 3 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นโมซาอิค และหุ้นซีเอฟ อินดัสทรีส์ โฮลดิ้งส์ สองผู้ผลิตปุ๋ยรายใหญ่ของสหรัฐ ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวกด้วย
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้บริโภค (PPI) เดือนมิ.ย.
อินโฟเควสท์