- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 03 July 2017 12:07
- Hits: 4808
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์หลังเศรษฐกิจไทยยังฟื้นช้า-กังวลกม.แรงงานต่างด้าวกระทบธุรกิจ
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าดัชนีฯจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมายังเป็นลักษณะของฟื้นตัวช้า ๆ และเกิดความกังวลกฏหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ที่อาจกระทบต่อภาคธุรกิจ ดังนั้นจึงต้องติดตามการใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาที่เกิดความปั่นป่วนในขณะนี้
นอกจากนี้ ตลาดฯจะเริ่มให้ความสำคัญกับการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/60 ซึ่งโดยรวมคาดว่าจะปรับตัวลงทั้ง qoq และ yoy เนื่องจากเป็นช่วง Low Season และฐานค่อนข้างสูง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยวันนี้ให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคอุตสาหกรรมของหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในสหรัฐฯ, ยุโรป, ญี่ปุ่น เป็นต้น ส่วนไทยก็ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อที่จะออกมาในวันนี้ และในวันพรุ่งนี้ตลาดสหรัฐฯปิดทำการเนื่องให้วันชาติ
พร้อมให้แนวรับ 1,565-1,570 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,580 ถัดไป 1,584-1,585 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 มิ.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,349.63 จุด เพิ่มขึ้น 62.60 จุด (+0.29%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,140.42 จุด ลดลง 3.93 จุด (-0.06%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,423.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.71 จุด (+0.15%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 22.89 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.43 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 109.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 26.08 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.87 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.43 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.94 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 2.93 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 มิ.ย.60) 1,574.74 จุด ลดลง 3.38 จุด (-0.21%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 160.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 มิ.ย.60) ปิดที่ 46.04 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ หรือ 2.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 มิ.ย.60) ที่ 6.86 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.96 มองกรอบวันนี้ 33.90-34.00 ตลาดรอดู กนง.-ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในสัปดาห์นี้
- สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยเผยรัฐบังคับใช้ พ.ร.ก.ต่างด้าวฉบับใหม่ อาจเป็นชนวนขาดแคลนแรงงานหนัก โดยเฉพาะก่อสร้างตึกสูง หวั่นกระทบการลงทุนเมกะโปรเจค เหตุต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ขณะอสังหาฯผวาผู้รับเหมาชาร์จค่าแรงเพิ่ม
- สรรพากรเตรียมเสนอคลังพิจารณา ร่าง ก.ม.เก็บภาษี อี-บิสซิเนส เดือน ก.ค.นี้ ยืนแนวทางจัดเก็บภาษีทุกธุรกรรม ที่มีการซื้อขายสินค้าและโอนเงินที่เกิดขึ้นในไทย พร้อมกำหนดเพดานอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายสูงสุด 15% ของรายได้
- เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า วันที่ 3 ก.ค.60 สศช.จะจัดการประชุมประจำปี 2560 กำหนดประเด็นขับเคลื่อนการพัฒนาเร่งด่วน และมีความสำคัญสูงสุดในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) ทั้งหมด 6 เรื่อง
- กรมทางหลวงได้รับงบประมาณปี 2561 จำนวน 1.01 แสนล้านบาท เป็นการลงทุนเส้นทางใหม่ 59 โครงการ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 13 โครงการ มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งตั้งเป้าหมายเปิดประมูลหาผู้รับเหมาภายในเดือน ส.ค. และลงนามในสัญญาทั้งหมดภายในเดือน ธ.ค. 2560
- นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงพลังงานเตรียมปรับแผนบูรณาการพลังงานระยะยาวปี 2558-2579 ที่ประกอบด้วย 5 แผน ส่งผลให้มีความจำเป็นที่ สนพ.ต้องเตรียมทบทวนนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบฟีดอินทาริฟให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น คาดว่าการปรับปรุงจะแล้วเสร็จปีนี้เพื่อใช้ในปี 2561
*หุ้นเด่นวันนี้
- SUSCO (ธนชาต)"ซื้อ" เป้า 5.50 บาท แม้ยังชอบ outlook ระยะยาว แต่ราคาหุ้นจะถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายภาษีเพิ่ม 115 บาท กระทบกำไรปีนี้ 34% และ 5-6% ในปี 2561-2563
- S11 (ฟินันเซีย ไซรัส) "เก็งกำไรระยะสั้น"ตามกรอบแนวรับที่ 8.35-8.45 บาทและแนวต้านที่ 8.80-9.00 บาท โดยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซด์ เม.ย.-พ.ค.60 เพิ่มขึ้นถึง 16%Y-Y มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เพิ่มขึ้น 10%Y-Y เป็นบวกกับงบ Q2/60 เพราะรายได้เกือบทั้งหมดมาจากธุรกิจลิสซิ่งมอเตอร์ไซด์ใหม่ และได้ประโยชน์จาก EEC จากความเชี่ยวชาญในตลาดภาคกลางและตะวันออก อีกทั้ง ROE สูงถึง 22% มากกว่า TK ที่ทำได้เพียง 9% แต่ราคาปัจจุบันซื้อขายบน Trailing PE เท่ากันที่ 12 เท่า
- JCC กู้ไทย 4.5 พันลบ. เดินหน้าโครงการทวาย ระยะสั้นจะเร่งสร้างถนนเพื่อเชื่อมต่อโครงการทวาย-กาญจนบุรี 138 กม.คาดว่าจะใช้เวลาอนุมัติราว 3 เดือน เป็น Sentiment เชิงบวกต่อ ITD แต่เนื่องจากการพิจารณาโครงการเฟสแรกของเมียนมายังล่าช้า จึงยังต้องระมัดระวังในการเก็งกำไร (ฟินันเซีย ไซรัส)
- ECF (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 5.06 บาท คาดว่าปี 60 กำไรจะเติบโต 32%YoY จากแรงหนุนธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่อัตรากำไรมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ช่วงครึ่งปีหลังจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า PWGE อีกราว 13 ล้านบาทเข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ 10-15%YoY สู่ระดับ 1.5 พันล้านบาท นอกจากนี้ ลงทุน 33.33% ในโรงไฟฟ้า Biomass ขนาด 7.5 MW ซึ่ง COD ในวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา คาดจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรราว 20-30 ล้านบาทต่อปี และอยู่ระหว่างเจรจาลงทุนในโรงไฟฟ้า Biomass อีก 2-3 แห่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ นอกจากนี้ได้เข้าลงทุน 20% ในโรงไฟฟ้า Solar Farm ในพม่ากำลังการผลิต 220 MW ซึ่งปี 61 คาดจะรับรู้กำลังการผลิต 100 MW
ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ นักลงทุนจับตา PMI ภาคการผลิตจีน
ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ไฉซินจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมิ.ย. ในช่วงเช้าวันนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,056.32 จุด เพิ่มขึ้น 22.89 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,192.00 จุด ลดลง 0.43 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,654.77 จุด ลดลง 109.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,368.99 จุด ลดลง 26.08 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,397.66 จุด เพิ่มขึ้น 5.87 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,228.91 จุด เพิ่มขึ้น 2.43 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,761.73 จุด ลดลง 1.94 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,840.23 จุด ลดลง 2.93 จุด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 37.60 จุด จากแรงกดดันของข้อมูล GDP อังกฤษ
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) จากแรงกดดันของสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษประจำไตรมาส 1/2560 ที่ขยายตัวช้ากว่าไตรมาส 4/2559
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 37.60 จุด หรือ -0.51% ปิดที่ 7,312.72 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงภายหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขั้นสุดท้ายไตรมาส 1/2560 ขยายตัวเพียง 0.2% ซึ่งแม้จะไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 เมื่อเดือนพ.ค. แต่ถือว่าชะลอตัวลงจากระดับ 0.7% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้วเป็นอย่างมาก
ค่าเงินสกุลปอนด์พุ่งขึ้น 0.1230% สู่ระดับ 1.3031 ดอลลาร์ ก่อนที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษจะเปิดเผยรายงาน GDP แต่หลังจากที่มีการเปิดเผยรายงานแล้ว ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1.2947 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 1.2992 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา
หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นอินเตอร์เนชั่นแนล คอนโซลิเดเต็ด แอร์ไลน์ส กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ขยับขึ้น 0.4% ก่อนที่สหภาพลูกเรือของทางสายการบินจะเริ่มผละงานประท้วงครั้งใหญ่เป็นเวลา 16 วันในวันนี้
หุ้นรอยัล เมล บริษัทไปรษณีย์รายใหญ่ เพิ่มขึ้น 1.5% และหุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ ผู้ให้บริการลงทุนระดับชั้นนำ เพิ่มขึ้น 1%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบจากแรงฉุดของหุ้นไบเออร์
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) จากแรงฉุดรั้งของหุ้นไบเออร์ที่ร่วงลงอย่างหนัก ภายหลังจากบริษัทเภสัชภัณฑ์รายใหญ่ดังกล่าวได้ออกมาเตือนนักลงทุนว่า สต็อกสินค้าของบริษัทที่มีจำนวนมากเกินคาดอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัท นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยลบจากการที่สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มบริษัทข้ามชาติปรับตัวลง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง -0.34% ปิดที่ 379.37 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,120.68 จุด ลดลง 33.67 จุด หรือ -0.65% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,325.12 จุด ลดลง 91.07 จุด หรือ -0.73% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,312.72 จุด ลดลง 37.60 จุด หรือ -0.51%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ ได้รับแรงกดดันจากหุ้นไบเออร์ที่ร่วงลงถึง 4.2% ภายหลังจากบริษัทเภสัชภัณฑ์และเคมีภัณฑ์รายใหญ่ดังกล่าวเปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัทอาจได้รับผลกระทบจากจำนวนสินค้าคงคลังในบราซิลที่มีมากเกินความคาดหมาย
สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซน ร่วงลงสู่ระดับ 1.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในปีนี้ จากระดับ 1.4% ในเดือนพ.ค. โดยรายงานดังกล่าวได้ฉุดค่าเงินสกุลยูโรร่วงลงสู่ระดับ 1.1410 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1438 ดอลลาร์ ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
สำหรับ ภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องของทั้งสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์ตลาดจาก Oanda กล่าวว่า "การปรับตัวขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรอังกฤษและยุโรป เป็นปัจจัยที่หนุนเงินปอนด์และยูโรแข็งค่าขึ้นกว่า 2% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาส่งสัญญาณที่จะพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้มีความเข้มงวดขึ้น"
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 62.60 จุด ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารและไนกี้
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (30 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายในไตรมาส 2 ด้วยแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มธนาคาร รวมถึงรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างไนกี้ โดยดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ทำสถิติปรับตัวแข็งแกร่งที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกนับตั้งแต่ปี 2556
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,349.63 จุด เพิ่มขึ้น 62.60 จุด หรือ +0.29% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,140.42 จุด ลดลง 3.93 จุด หรือ -0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,423.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.71 จุด หรือ +0.15%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มธนาคารยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขานรับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้อนุมัติให้ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐทั้ง 34 แห่ง สามารถเดินหน้าแผนเพิ่มการจ่ายเงินปันผล และซื้อหุ้นคืนได้ หลังจากที่ธนาคารเหล่านี้ได้ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ประจำปีรอบที่ 2 ของเฟด
ดัชนี ดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนบางส่วนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นไนกี้ ซึ่งเป็นแบรนด์กีฬาชั้นนำของโลก ภายหลังจากบริษัทรายงานผลกำไรประจำไตรมาส 4 ที่ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ บริษัทไนกี้ยังยืนยันว่าได้บรรลุข้อตกลงในการจัดจำหน่ายรองเท้าผ่านทางอเมซอน โดยรายงานข่าวดังกล่าวได้หนุนหุ้นไนกี้ อิงค์ พุ่งขึ้น 11% เมื่อคืนนี้
หุ้นกลุ่มธนาคารที่น่าจับตา หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ขยับลง 0.3% แม้มีรายงานข่าวว่า บริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนและอภิมหาเศรษฐีชั้นนำของโลก ได้ทำการซื้อหุ้นจำนวน 700 ล้านหุ้นในธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ซึ่งส่งผลให้นายบัฟเฟตต์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในธนาคารดังกล่าวก็ตาม
สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 0.4% ทั้งในเดือนมี.ค.และเดือนเม.ย. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.
ส่วนอัตราการออมของผู้บริโภคสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 5.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.1%
ส่วนมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 95.1 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 97.1 ในเดือนพ.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 94.5
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ฐานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล
อินโฟเควสท์