WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

20ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซิกแซกขึ้นตัวเลขส่งออก-ท่องเที่ยว-โครงการลงทุนภาครัฐหนุน

         นักวิเคราะห์ฯ มองตลาดหุ้นเช้านี้ซิกแซกขึ้นจากปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้นทั้งส่งออก-ท่องเที่ยว รวมทั้งโครงการลงทุนภาครัฐคืบหน้าหนุน โดยสิ้นเดือนนี้คาด ธปท.ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้น รวมทั้งสัปดาห์นี้คาดมีการทำ window dressing สิ้นไตรมาส 2/60 ส่วนปัจจัยต่างประเทศจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด 27 มิ.ย. ให้แนวรับแรกที่ 1,575-1,580 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,574 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,585 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,590 จุด

        นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะเคลื่อนไหวในลักษณะซิกแซกขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่ดีขึ้น ทั้งการส่งออกที่เติบโตได้ดีและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนคาดว่าจะดีขึ้น รวมทั้งสัปดาห์นี้น่าจะเห็นความคืบหน้าโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของภาครัฐ

        ประกอบกับ คาดว่าจะมีการทำ window dressing ก่อนปิดงบสิ้นไตรมาส 2/60 ในสัปดาห์นี้ ประเมินโอกาสเกิดขึ้น 75% และจะทำให้ตลาดบวกเฉลี่ย 2.2% ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ผป่านมา (23 มิ.ย.) ตัวเลข PMI ชะลอตัวทำให้ตลาดหุ้นในต่างประเทศปรับตัวลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในกรุงลอนดอนในวันที่ 27 มิ.ย.นี้

        ทั้งนี้ ให้แนวรับแรกที่ 1,575-1,580 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,574 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,585 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,590 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 มิ.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,394.76 จุด ลดลง 2.53 จุด (-0.01%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,265.25 จุด เพิ่มขึ้น 28.56 จุด (+0.46%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,438.30 จุด เพิ่มขึ้น 3.80 จุด (+0.16%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 42.07 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 9.01 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 49.75 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 4.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.17 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.05 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.92 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 14.25 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 มิ.ย.60) 1,582.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.45 จุด (+0.09%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 975.14 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.60

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 มิ.ย.60) ปิดที่ 43.01 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.6%

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 มิ.ย.60) ที่ 7.07 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.92 ทิศทาง sideway ตลาดรอจับตาสุนทรพจน์ประธานเฟดพรุ่งนี้

                - รัฐคลอดกองทุนวงเงิน 3.8 หมื่นล้านช่วยเอสเอ็มอี "พลิกฟื้น ฟื้นฟู พัฒนาธุรกิจ" ต่อยอดรองรับการลงทุนรายใหญ่ในพื้นที่อีอีซี "อุตตม" ย้ำรัฐให้ความสำคัญเอสเอ็มอีเท่าเทียมนักลงทุนรายใหญ่มุ่งส่งเสริมนวัตกรรม-เทคโนโลยียุค 4.0

                - คมนาคมประชุมร่วมสบน.-รฟท.-จีน เจรจาต่อรองค่าจ้างฝ่ายจีนออกแบบโครงการรถไฟความเร็วสูงวันนี้ สบน.ยอมรับยังไม่สรุปทางการเงินเหตุตกลงไม่ได้ใช้สกุลเงินหยวนหรือดอลลาร์ ห่วงต้นทุนการเงินอาจปรับขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยตลาดโลก

                - นับถอยหลัง ใกล้ปิดฉาก 3 คดีดังศาลฎีกานักการเมือง "จำนำข้าว-จีทูจี-สลายชุมนุมพันธมิตรฯ" 3 อดีตนายกฯ "ยิ่งลักษณ์-สมชาย-บิ๊กจิ๋ว" 2 อดีต รมต.พาณิชย์ "บุญทรง-ภูมิ" และอดีต ผบ.ตร. "พัชรวาท น้องรักบิ๊กป้อม" ลุ้นหนัก จับตาศุกร์นี้ สามีเจ๊แดงแถลงปิดคดี 7 ต.ค.51 นัดสุดท้ายด้วยตัวเอง ส่วน"บิ๊กจิ๋ว-บิ๊กป๊อด"ยังเงียบ จีทูเจี๊ยะไต่สวนนัดสุดท้ายก่อนคดีปูแค่สองวัน คลังจ่อฟันอดีตอธิบดีสรรพากรละเว้นไม่เก็บภาษีหุ้นทักษิณ

                - รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงเริ่มพ่นพิษ"มาตรา 219 และ 276"สะดุดตอจากโรดแมปเลือกตั้งปลายปี เพราะกำหนดให้มีมาตรฐานจริยธรรมใน 1 ปีหรือไม่เกิน 6 เม.ย.61 มิเช่นนั้นองค์กรอิสระต้องหลุดยกพวง "นักการเมือง"รอดูแนวทางผ่าทางตัน พท.แนะใช้มาตรา 44 แก้ยกยวง "ชาติชาย" เชื่อให้ สนช.แทนที่โดยอนุโลมได้

*หุ้นเด่นวันนี้

                - AOT (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 50.80 บาท 1) นักท่องเที่ยว เม.ย.-พ.ค.60 รวมยังเติบโต 5.8% YoY และมีแนวโน้มต่อเนื่อง มิ.ย.ทำให้คาดผลดำเนินงาน AOT ในงวด Q3/60 (เม.ย.-มิ.ย.) ยังโตเด่น YoY ขณะที่แนวโน้มท่องเที่ยวไทยโตต่อเนื่องจนถึงปลายปีนี้ 2) ประเด็นข่าวธนารักษ์เตรียมสรุปผลเจรจาอัตราค่าเช่าที่ดินราชพัสดุฯภายในสัปดาห์นี้ i) พื้นที่ Non Arrow คิดที่อัตรา 3% (กรอบต่ำสุดจาก 3-5%) ii) อาจยกเว้นค่าเช่าย้อนหลัง 5 ปี 3) ประเมินรูปแบบราคา Sideway Up แนวรับ 45.5 บาท แนวต้าน 50 บาท (Stop loss 45 บาท)

                - ROBINS (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 87 บาท เชื่อราคาหุ้นยังไม่ค่อยขยับเพราะตลาดค้าปลีกยังไม่น่าสนใจ แต่คาดจะเห็นการฟื้นตัวใน H2/60 จากการบริโภคที่ทำให้แนวโน้มตลาดค้าปลีกดูสดใสขึ้น ซึ่งจะทำให้หุ้นน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ราคาปิดล่าสุดยังมี upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีก 52%

                - GPSC (เคทีบี)"ซื้อ"เป้า 43 บาท มองจุดเด่นเป็นโรงไฟฟ้า Cogeneration ซึ่งนอกจากจะผลิตไฟฟ้าได้แล้วยังสามารถผลิตไอน้ำขายให้โรงงานที่อยู่ใกล้เคียงกันอีกด้วย ถือว่ามีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น เนื่องจากมีบริษัทในเครือ PTT เป็นผู้สนับสนุนหลัก แม้ส่วนดังกล่าวจะมีสัดส่วนเมื่อเทียบกับ capacity โดยรวมไม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นโครงการที่สร้างกำไรและเป็นปัจจัยที่ผลักดันการเติบโตหลักในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ ขานรับราคาน้ำมัน WTI ดีดตัว

                ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมัน WTI ที่ดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,132.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.14 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,157.00 จุด ลดลง 0.87 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,727.93 จุด เพิ่มขึ้น 57.88 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,341.86 จุด ลดลง 35.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,381.09 จุด เพิ่มขึ้น 2.49 จุด ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์และมาเลเซียปิดทำการในวันนี้

                อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงลอนดอนในวันอังคารหน้า เพื่อจับตาการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 15.16 จุด หลังหุ้นกลุ่มพลังงานร่วง

            ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดน้ำมัน

                ดัชนี FTSE 100 ลดลง 15.16 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 7,424.13 จุด

                หุ้นกลุ่มพลังงานที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงถ้วนหน้า โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ และ บีพี พีแอลซี อ่อนตัวลง 0.1% สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ หุ้นเชลล์และบีพีร่วงลง 2.9% และ 2.2% ตามลำดับ

                บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด เนื่องจากการที่สหรัฐ ลิเบีย และไนจีเรียได้ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นนั้น เป็นปัจจัยที่ขัดขวางความพยายามของกลุ่มโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต

                มีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียเพิ่มขึ้นมากกว่า 50,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 885,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่การส่งออกน้ำมันของไนจีเรียจะเพิ่มขึ้น 62,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค.

                ทางด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 11 แท่น สู่ระดับ 758 แท่นในสัปดาห์นี้ และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 23 ติดต่อกัน

                นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของ Brexit หลังจากนายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษ เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ความไม่แน่นอนของผลการเจรจา Brexit ส่งผลให้การลงทุนมหาศาลในภาคธุรกิจถูกชะลอออกไป

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังดัชนี PMI ยูโรโซนปรับตัวลง-หุ้นพลังงานร่วง

            ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) หลังจากที่มีรายงานว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการเบื้องต้นยูโรโซน ปรับตัวลงในเดือนมิ.ย. ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานก็ร่วงลง

                ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.23% ปิดที่ 387.62 จุด

                ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,266.12 จุด ลดลง 15.81 จุด หรือ 0.30% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 12,733.41 จุด ลดลง 60.59 จุด หรือ 0.47% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,424.13 จุด ลดลง 15.16 จุด หรือ 0.20%

                หุ้นไซเพม เอสพีเอ บริษัทน้ำมันและก๊าซจากอิตาลี ร่วงลง 1.4% หุ้นเอนิ เอสพีเอ บริษัทผลิตน้ำมันจากอิตาลี ลดลง 0.6% หุ้นโททาล บริษัทน้ำมันสัญชาติฝรั่งเศส ลดลง 0.5% และหุ้นเรปซอล บริษัทน้ำมันจากสเปน ลดลง 0.4%

                หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด เนื่องจากการที่สหรัฐ ลิเบีย และไนจีเรียได้ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นนั้น เป็นปัจจัยที่ขัดขวางความพยายามของกลุ่มโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต

                มีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียเพิ่มขึ้นมากกว่า 50,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 885,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่การส่งออกน้ำมันของไนจีเรียจะเพิ่มขึ้น 62,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค.

                ทางด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 11 แท่น สู่ระดับ 758 แท่นในสัปดาห์นี้ และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 23 ติดต่อกัน

                ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันหลังจากที่ ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนมิ.ย. ปรับตัวลดลงแตะ 55.7 จากระดับ 56.8 ในเดือนพ.ค. และทำสถิติต่ำสุดในรอบ 5 เดือน

                อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 2.53 จุด หลังดัชนี PMI สหรัฐร่วงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (23 มิ.ย.) หลังจากที่มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-บริการของสหรัฐ ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัว ด้านดัชนี Nasdaq ก็ปรับตัวขึ้น โดยได้แรงบวกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

       ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 2.53 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 21,394.76 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.80 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 2,438.30 จุด ดัชนี Nasdaq บวก 28.56 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 6,265.25 จุด

      สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.05% ดัชนี S&P 500 บวก 0.2% ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.8%

        หุ้นซิงโครนอส เทคโนโลยีส์ พุ่ง 33% หลังจากที่บริษัทไพรเวทอิควิตี้ชื่อ ซีรีส แคปิตอล กรุ๊ป ยื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการในราคา 18 ดอลลาร์ต่อหุ้นด้วยเงินสด

                หุ้นแบล็คเบอร์รี่ร่วงลง 12.3% หลังทำยอดขายรายไตรมาสได้น้อยกว่าที่คาดการณ์

                หุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ ลดลง 12% หลังยอดขายและกำไรไตรมาสแรกต่ำกว่าคาดการณ์

                ทั้งนี้ ผลการสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากแตะระดับ 53.6 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ก่อนหน้านี้

                อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ

                นอกจากนี้ ตลาดให้ความสนใจต่อการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กรุงลอนดอนในวันอังคารหน้า ซึ่งนักลงทุนจะจับตาการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

                ขณะเดียวกัน นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์, นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ และนายเจอโรม โพเวลล์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด ได้กล่าวสุนทรพจน์เมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย ซึ่งนักลงทุนต่างจับตาเพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

                นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวในการประชุมที่แนชวิลล์ว่า เฟดสามารถระงับการขึ้นดอกเบี้ยในระยะสั้น และรอดูว่าเศรษฐกิจจะไปในทิศทางใด

                นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเงินเฟ้อที่ไม่สามารถควบคุมได้และอาจก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

                นายเจอโรม โพเวลล์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด กล่าวในการประชุมงานหนึ่งว่า เฟดอาจพิจารณายกเครื่องกฎการเคลียริ่ง เนื่องจากระบบที่ใช้ในปัจจุบันทำให้ธนาคารต่างๆเปราะบางต่อความเสี่ยง

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!