- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 15 August 2014 16:40
- Hits: 3108
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวคล้ายตลาดภูมิภาค, เทรดดิ้งตามงบฯต่อไป
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,530-1,550 จุด เนื่องจากปัจจัยจากต่างประเทศขณะนี้ยังไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบเล็กน้อย
ทั้งนี้ ให้รอดูทางยุโรปที่อาจจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาได้ นอกจากนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ทางยูเครน-รัสเซีย ด้วย อย่างไรก็ดี นักลงทุนสามารถที่เข้ามาเล่นเทรดดิ้งตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนได้ในช่วงนี้ และรอดูสัปดาห์หน้าที่จะมีการโปรดเกล้าฯเรื่องประธานสภาฯ และมีการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(14 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,713.58 จุด เพิ่มขึ้น 61.78 จุด (+0.37%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,955.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.46 จุด(+0.43%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,453.00 จุด เพิ่มขึ้น 18.87 จุด (+0.43%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.58 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.76 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 168.36 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.06 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.08 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.72 จุด
ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันฉลองอิสรภาพ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(14 ส.ค.)1,541.97 จุด ลดลง 2.58 จุด(-0.17%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 559.25 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ส.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(14 ส.ค.)ที่ 95.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.01 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(14 ส.ค.)ที่ 3.09 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.85/86 คาดแกว่งในกรอบแคบ ยังไม่มีปัจจัยใหม่
- "ประจิน" เคาะงบโครงสร้างพื้นฐานแสนล้าน ระยะเร่งด่วน เดินหน้าก่อสร้างรถไฟรางคู่ 2 เส้นทาง "จิระ-ขอนแก่น" และ "ประจวบฯ-ชุมพร" ขณะสศช.หวังเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังฟื้น จากการลงทุนภาครัฐ เตรียมนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวต่อคสช. เชื่อมโยงแผนพัฒนาฯ ฉบับ 12-13
- แบงก์ชาติเผยสัญญาณสินเชื่อเริ่มฟื้น หลัง 2 เดือนที่ผ่านมา ยอดอนุมัติใหม่พุ่ง 1 แสนล้านบาท คาดครึ่งปีหลังโตดีกว่าครึ่งปีแรก ขณะที่สำรองส่วนเกินเอ็นพีแอล สูงถึง 1.6 แสนล้านบาท ประเมินธุรกิจ เช่าซื้อรถยนต์ยังซบเซาจากปัญหาราคารถมือ 2 ร่วงแรก หลายแบงก์ชะลอการ ทำธุรกิจ กสิกรไทยมั่นใจสินเชื่อทั้งปีโต ไม่เกิน 8% ห่วงหนี้ครัวเรือน รับต้องจับตาใกล้ชิด ส่วนปีหน้ามองแนวโน้มเศรษฐกิจโตดี คาดสินเชื่อโตได้ 9%
- นายอานุภาพ คูวินิชกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยายตัวสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.3% แต่ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 9.8%
- นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ใช้สิทธิรถคันแรกที่ได้รับเงินคืนไปแล้วมีการทำผิดเงื่อนไขทำให้กรมสรรพสามิตต้องติดตามเงินคืนเพิ่มสูงขึ้น จากปี 2556 มีผู้ผิดเงื่อนไข 10-20 ราย แต่ในปี 2557 มีผู้ผิดเงื่อนไขแล้ว 511 ราย หรือเพิ่มขึ้นกว่า 50 เท่า เนื่องจากผู้ใช้สิทธิไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดกับบริษัทสินเชื่อเช่าซื้อ(ลีสซิ่ง) ได้ และถือครองรถยนต์ไม่ครบ 5 ปีตามที่โครงการกำหนดไว้โดยกรมสรรพสามิตได้ส่งเอกสารให้กรมบัญชีกลางฟ้องร้องแล้ว 21 ราย
- แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการตามมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.เข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ (พ.ร.บ.ร่วมทุน) เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อหารือแนวทางการคัดเลือกเอกชนเข้าดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ สัญญาที่ 6 งานวางระบบอาณัติสัญญาณ การจัดหาขบวนรถไฟฟ้าและเดินรถ มูลค่า 82,625 ล้านบาท ที่ประชุมมีมติให้เปิดประกวดราคาหาผู้ประกอบการมาดำเนินการแทนการเจรจากับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ให้เข้าไปดำเนินการเพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดินที่ให้บริการในปัจจุบัน เพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งจากนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)จะจัดทำเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) และคาดว่าขั้นตอนการประกวดราคาจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้
- นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เสนอข้อมูลและแนวความคิดให้รวมตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) เข้ากับตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ทีเฟต) ต่อกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง ซึ่งเอเฟตอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพาณิชย์ และทีเฟตอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง รวมถึงได้เสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อพิจารณาในรายละเอียด ทั้งนี้ จะมีการนัดหารือร่วมกันอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปถึงแนวทางดำเนินการภายในปีนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
ASK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 25 บาท กำไรสุทธิกลับมาทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งใน 2Q14 สวนกระแสเศรษฐกิจ โดยเพิ่ม 8% Q-Q และ 5% Y-Y โดยคาดกำไรใน 3Q14-4Q14 จะทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องหลัง Refinance เงินกู้ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายถูกลง การถือหุ้น 19% ในบ.สวีทรานส์กรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจให้เช่ารถขนส่งผู้โดยสารไม่ประจำทาง มิ.ย. ที่ผ่านมา จะช่วยขยายสินเชื่อของบริษัทในระยะยาว แต่ไม่กระทบผลประกอบการในระยะนี้เพราะยังขาดทุนเล็กน้อย
- SIM(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 4.60 บาท จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันจันทร์นี้(18 ส.ค.) หุ้นละ 0.06 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 1.6% พร้อมคาดกำไรสุทธิ 3Q57 เติบโตทั้ง yoy และ qoq และทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากยอดขายมือถือ Smartphone ที่เร่งตัวขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และแรงหนุนของยอดขาย Digital TV Phone ที่ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปลี่ยนถ่ายระบบถ่ายทอดสัญญาณจากระบบ Analog เข้าสู่ระบบ Digital พร้อมประมาณการกำไรปี 2557 ที่ 1,046 ล้านบาท หรือ +24.8% yoy
- RS (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 9.9 บาท ผลงาน 2Q57 ไม่แย่อย่างที่ตลาดคาด พลิกเป็นกำไร 72 ล้านบาท จากขาดทุน 5 ล้านบาทใน 1Q57 และมีโอกาสเติบโตก้าวกระโดดใน 2H57 หากได้รับเงินสนับสนุนจาก กสทช. ส่วนที่เหลืออีก 309 ล้านบาท รวมถึงจากการขายกล่อง Sunbox โดยร่วมทำแคมเปญแพ็กเกจรับชมพรีเมียร์ลีกกับ CTH และเดือนหน้า เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีโอกาสเติบโตจากธุรกิจทีวีดิจิทัลที่คาดว่าตลาดจะกลับมาให้ความสนใจอีกครั้งจากการแจกคูปองทีวีดิจิทัลในเดือนหน้า
- JAS (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 7.25 บาท กรณีข้อพิพาทกับ TT&T เรื่องการขายหุ้นเพิ่มทุนของ TTTBB คาดว่าคำสั่งศาลเรื่องจะมีการคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ เกิดขึ้นในต้นเดือนก.ย. กรณีเลวร้ายสุดอาจมีผลต่อการยกเลิกการออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งไม่กระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจและฐานะทางการเงินแต่อย่างใด และหลังจากนั้นต้องใช้เวลาอีกหลายปีจนกว่าจะทราบผลตัดสินสุดท้าย ซึ่งเชื่อว่าหลังมีคำสั่งศาลเกิดขึ้น ราคาหุ้นจะเริ่มกลับมาสะท้อนผลประกอบการอีกครั้ง ได้สะท้อนผลกระทบดังกล่าวไว้แล้ว จุดตัดขาดทุนอยู่ที่ 6.35 บาท
ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวเล็กน้อยเช้านี้ ขณะสถานการณ์ยูเครนเริ่มดีขึ้น
ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวเล็กน้อยในเช้าวันนี้ หลังจากที่มีรายงานว่าสถานการณ์ในยูเครนเริ่มคลี่คลาย ขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอก็ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางหลายแห่งจะยังคงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ซื้อขายที่ระดับ 147.82 จุด เมื่อเวลา 9.29 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,317.15 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,207.23 จุด เพิ่มขึ้น 0.76 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,969.72 จุด เพิ่มขึ้น 168.36 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,243.67 จุด เพิ่มขึ้น 13.06 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,300.91 จุด เพิ่มขึ้น 6.08 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,862.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.72 จุด
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันฉลองอิสรภาพ
ทั้งนี้ สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในต่างประเทศเริ่มส่งสัญญาณในทิศทางที่ดีขึ้น โดยความคืบหน้าในรัสเซียนั้น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัสเซียจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยยุติความขัดแย้งในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 28.58 จุด หลังคลายวิตกยูเครน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) หลังจากประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่ารัสเซียจะดำเนินความพยายามทุกวิถีทางเพื่อยุติความขัดแย้งในยูเครน
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 28.58 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 6,685.26 จุด
สถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนที่ผ่อนคลายลงได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นลอนดอน โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยยุติความขัดแย้งในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
หุ้นบริติช แลนด์พุ่ง 2.5% และหุ้นแลนด์ ซิเคียวริตีส์ กรุ๊ปปรับขึ้น 2.3% หลังจากเมอร์ริล ลินช์ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นของบริษัทดังกล่าว
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก จากคาดการณ์อีซีบีใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากมีรายงานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซนไม่มีการขยายตัวในไตรมาส 2
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 331.04 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 9,225.10 จุด เพิ่มขึ้น 26.22 จุด, +0.29% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,205.43 จุด เพิ่มขึ้น 10.64 จุด, +0.25% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,685.26 จุด เพิ่มขึ้น 28.58 จุด, +0.43%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีอาจจะตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังากสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซนไม่ขยายตัวในไตรมาส 2/2557 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัว 0.2% ซึ่งตอกย้ำว่าเศรษฐกิจยูโรโซนยังจมอยู่กับอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง และอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป
ข้อมูลดังกล่าวออกมาสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสสองจะขยายตัว 0.1% จากไตรมาสแรก
สำหรับ สาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศต้องประสบกับภาวะชะงักงันในไตรมาสที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะการหดตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในภูมิภาค โดยจีดีพีเยอรมนีหดตัวลง 0.2% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 ขณะที่ฝรั่งเศส ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของยูโรโซน มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 0% ในไตรมาสสอง
หุ้น ThyssenKrupp ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของเยอรมนีปรับตัวขึ้น 0.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรจากการดำเนินงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 398 ล้านยูโร มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 363.6 ล้านยูโร
หุ้นยูไนเต็ด อินเตอร์เน็ต ดีดตัวขึ้น 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 12%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 61.78 จุด เหตุตลาดคลายกังวลยูเครน,กาซา
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในต่างประเทศ หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์ในยูเครนและฉนวนกาซาเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,713.58 จุด เพิ่มขึ้น 61.78 จุด หรือ +0.37% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,453.00 จุด เพิ่มขึ้น 18.87 จุด หรือ +0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,955.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.46 จุด หรือ +0.43%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมองว่า สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในต่างประเทศเริ่มส่งสัญญาณในทิศทางที่ดีขึ้น โดยความคืบหน้าในรัสเซียนั้น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัสเซียจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยยุติความขัดแย้งในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ส่วนสถานการณ์ในกาซานั้น สำนักข่าวมีนารายงานว่า อิสราเอลและกลุ่มฮามาสยอมตกลงขยายเวลาหยุดยิงเพิ่มขึ้น 5 วันตามข้อเสนอของอียิปต์
สัญญาณในด้านบวกจากต่างประเทศนั้น สามารถลดแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ส.ค. เพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 311,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับเพียง 295,000 ราย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อของสหรัฐยังอยู่ในระดับต่ำ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ราคานำเข้าสินค้าเดือนก.ค.ปรับตัวลง 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวลดลง
หุ้นวอล-มาร์ท ปรับตัวขึ้น 0.5% แม้ว่าบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในปี 2557 ก็ตาม
หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 2.6% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรต่อหุ้นรายไตรมาสลงมาอยู่ที่ 51 เซนต์ เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 53 เซนต์ นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนที่จะลดการจ้างงานในองค์กรด้วย
หุ้น Kohl’s ปรับตัวขึ้น 3.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 อยู่ที่ 1.13 ดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.07 ดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค., ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าและยอดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนมิ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนส.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน
อินโฟเควสท์