WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET24ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตลาดตปท. ขานรับผลเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก

     นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยเช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่เช้านี้อยู่ในแดนบวก ภายหลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศสรอบแรก ออกมาเป็นไปตามคาด โดยมีนายเอมมานูเอล มาครอง และนางมารีน เลอเปน เป็น 2 ผู้สมัครที่มีคะแนนสูงสุด ต่อไปก็ให้รอดูผลการเลือกตั้งในวันที่ 7 พ.ค.อีกที ซึ่งผลโพลออกมาว่า นายเอมมานูเอล มาครอง น่าจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งนั่นก็ทำให้ไม่มีแรงกดดันเรื่องการแยกตัวจากสหภาพยุโรป

      นอกจากนี้ ก็ให้ติดตามดูฝั่งเกาหลีเหนือที่จะครบรอบ 85 ปี อาจจะมีการซ้อมรบก็ได้ และติดตามการออกมาตรการลดภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ รวมถึงเพดานหนี้ของสหรัฐฯด้วยที่เต็มแล้ว และคงจะต้องขยายออกไป ส่วนในวันพฤหัสบดีนี้ (27 เม.ย.) ก็จะมีการประชุมธนาคารกลายยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร และในวันศุกร์ (28 เม.ย.) ให้ติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 1/60 ของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะออกมาแย่

      พร้อมให้แนวรับ 1,567-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575-1,583 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 เม.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,547.76 จุด ลดลง 30.95 จุด (-0.15%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,910.52 จุด ลดลง 6.26 จุด (-0.11%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,348.69 จุด ลดลง 7.15 จุด (-0.30%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 269.63 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 143.74 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 25.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.46 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 17.06 จุด

ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Installation of New King

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 เม.ย.60)  1,570.02 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด (+0.24%)

     - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 911.06  ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 เม.ย.60

      - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 เม.ย.60) ปิดที่ 49.62 ดอลลาร์/บาร์เรล  ลดลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 2.2%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 เม.ย..60) ที่ 7.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 34.32 แข็งค่า ขานรับผลเลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศสรอบแรก มองกรอบวันนี้ 34.30-34.40

      - วันนี้ น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า จะแถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยประจำเดือน มี.ค. 2560 โดยการส่งออกเดือน มี.ค. 2560 มีมูลค่า 2.08 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.22% ซึ่งเป็นตัวเลขส่งออกที่สูงสุดของปี 2560

      - รฟท.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษาการปรับโครงสร้าง รฟท. และแนวทางการจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ เพื่อฟื้นฟูกิจการและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าในช่วง 6 ปีแรก ระหว่างปี 2560-2565 จะสามารถสร้างรายได้ ไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปใช้หักลบ หนี้สะสมที่มีอยู่ 1.07 แสนล้านบาทได้

       - รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า เตรียมเชิญบริษัท ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคม (แคท) มาหารือแนวทางร่วมกันผลักดันโครงการเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้น้ำ หรือซับมารีนเคเบิล เนื่องจากเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ และใช้งบประมาณสูง รวมทั้งเป็นโครงการลงทุนสำคัญเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานประเทศ เนื่องจากทั้งสองบริษัทต่างมีการลงทุนในโครงการดังกล่าวซึ่งมีเส้นทางไม่ซ้ำกันโดยจะนำรายละเอียดของโครงการเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ภายในเดือน พ.ค.นี้

        - ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลสาเหตุขาดดุลการค้าตามคำสั่งพิเศษประธานาธิบดี (Executive Order) เพื่อเตรียมชี้แจงกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ โดยเริ่มทยอยหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคธุรกิจที่ทำการค้าและการลงทุนกับสหรัฐ ซึ่งจะส่งคำตอบกลับภายในวันที่ 10 พ.ค.นี้

        - ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานภาคธุรกิจเอกชนที่ขอเปิดร้านรับแลกเงินตราต่างประเทศและได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 112 แห่ง หรือ 6.02% เป็น 1,972 แห่ง เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 1,860 แห่ง

*หุ้นเด่นวันนี้

     - AP (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 8.60 บาท กำไรจาก JV เริ่มเข้ามาตั้งแต่ 1Q60 หนุนกำไรเติบโต +27% y-y ที่ 530 ล้าบาท สวนทางกลุ่ม ขณะที่การเปิดโครงการ Lift ลาดพร้าว 7.6 พันล้านบาท และ Lift One Wireless 6.4 พันล้านบาท ในเดือน  พ.ค.-มิ.ย.นี้ และ JV Condo ใน 3Q60 มูลค่า 6 พันล้านบาท

      - BEM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 10.5 บาท แนวโน้มกำไร 1Q60 น่าจะฟื้นตัวดี คาด +27% Q-Q, +7% Y-Y จากปริมาณจราจรในธุรกิจทางด่วนที่เพิ่มขึ้นทุกเส้นทาง บวกกับการขยายตัวของจำนวนผู้โดยสารในธุรกิจรถไฟฟ้า และรายได้การเดินรถสายสีม่วง BEM ได้เซ็นสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยายแล้ว คาดทยอยเปิดบริการตั้งแต่ภายในปี 2562 และเปิดเต็มเส้นปี 2563

       - PLANB (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.30 บาท คาดกำไร 1Q60 กลับมาดีขึ้น +55% Q-Q, +48.9% Y-Y ตามการขยายตัวของตลาดสื่อโฆษณานอกบ้าน และมีการใช้กำลังผลิตสื่อโฆษณาที่ได้พัฒนาในปีก่อนๆมากขึ้น และได้ส่วนแบ่งรายได้เต็มปีจากการบริหารสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอลฯ

       - BAY (แอพเพิล เวลธ์) "ซื้อ"เป้า 44 บาท กำไรสุทธิ 1Q60 ใกล้เคียงคาดที่ 5.6 พันลบ. +10%YoY +10%QoQ และ  NIM ทรงตัวได้ดีเทียบกับอุตสาหกรรม, NPL ยังต่ำที่ 2.3%

      - IRPC (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 5.85 บาท IRPC Bloomberg Consensus  คาดกำไร 1Q60 อยู่ที่ราว 1.58 พันล้านบาท -6%QoQ และ -47%YoY เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในเดือน ก.พ.-มี.ค. อีกทั้งค่าการกลั่นที่ปรับตัวลงราว 0.5-1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลตามส่วนต่างน้ำมันสำเร็จรูปที่อ่อนตัวลง และคาดว่าจะมีขาดทุนจากสต๊อกเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลง 6% จากต้นปี พร้อมคาดกำไรปี 60 จะอยู่ที่ราว 1.02 หมื่นล้านบาทเติบโต 5%YoY โดยกำไรจะต่ำสุดใน 1Q60 และจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ 2Q60 เป็นต้นไป นอกจากนี้ 3Q60 คาดว่าโรงงาน Propylene 2 จะเริ่ม COD ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการเพิ่มเติม ทั้งนี้คาดกำไรปี 61 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้โรงกลั่น UHV และโรงงาน Propylene 2 เต็มปี

ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ ขานรับผลเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก

        ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ขานรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก โดยนายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ และนางมารีน เลอเปน ผู้สมัครจากพรรค National Front (FN) เป็น 2 ผู้สมัครที่มีคะแนนสูงสุด ลอยลำเข้าสู่การเลือกตั้งรอบ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค.นี้

       ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,890.38 จุด เพิ่มขึ้น 269.63 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,164.25 จุด ลดลง 8.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,185.76 จุด เพิ่มขึ้น 143.74 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,742.91 จุด เพิ่มขึ้น 25.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,175.50 จุด เพิ่มขึ้น 10.46 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,156.89 จุด เพิ่มขึ้น 17.06 จุด ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้

       ทั้งนี้ ผลการนับคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้ว่า นายมาครองมีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ที่  23.87% ขณะที่นางเลอเปนได้คะแนนเป็นอันดับ 2 ที่ 21.43%

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 3.99 จุด จากแรงกดดันของข้อมูลค้าปลีกอังกฤษ

       ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวผันผวนก่อนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) จากแรงกดดันของตัวเลขค้าปลีกของอังกฤษที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงฉุดจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า ขณะที่นักลงทุนบางส่วนชะลอการซื้อขายเพื่อจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้อย่างใกล้ชิด

      ดัชนี FTSE 100 ลดลง 3.99 จุด หรือ -0.06% ปิดที่ 7,114.55 จุด

       ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้ มีแรงฉุดรั้งจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งปรับตัวลงจากแรงกดดันของราคาน้ำมันที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นบีพีร่วงลง 1.2% ขณะที่หุ้นรอยัล ดัตช์ เชลล์ ขยับขึ้นเพียง 0.1%

      หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงทั้งกระดาน โดยหุ้นริโอ ทินโต ขยับลง 0.3% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ลดลง 1% หุ้นแอนโตฟากาสต้า ลดลง 0.9% และหุ้นเกลนคอร์ ขยับลง 0.6%

       ตลาดหุ้นลอนดอนยังถูกกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของอังกฤษที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ รายงานว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษมีการขยายตัวเพียง 1.7% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าระดับคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 3.7% รายงานดังกล่าวฉุดค่าเงินปอนด์ร่วงลง 0.0078% สู่ระดับ 1.2797 ดอลลาร์ โดยแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1.2758 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเกิดความวิตกว่า ยอดค้าปลีกที่ซบเซาลงอาจฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษ

      นักวิเคราะห์ตลาดแห่งแฮนเทค มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ในเวลานี้นักลงทุนได้หันไปจับตาดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีในฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้อย่างใกล้ชิด ขณะที่ผลการเลือกตั้งสามารถออกได้หลายหน้า เนื่องจากผู้สมัครตัวเต็งอย่างนายเอมมานูเอล มาครอง และนางมารีน เลอเปน มีคะแนนเบียดกันคู่คี่สูสีจากโพลล์สำรวจล่าสุดของหลายสำนัก ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนสูง และเป็นเหตุให้นักลงทุนส่วนใหญ่ระมัดระวังการซื้อขาย

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีในฝรั่งเศส

        ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) ขณะนักลงทุนจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกิดกระแสความหวาดวิตกว่า เหตุกราดยิงในปารีสในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้นางมารีน เลอเปน ซึ่งเป็นผู้สมัครที่มีแนวคิดสุดโต่ง สามารถคว้าชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้

       ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.06 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 378.12 จุด

       ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,059.20 จุด ลดลง 18.71 จุด หรือ -0.37% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,048.57 จุด เพิ่มขึ้น 21.25 จุด หรือ +0.18% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,114.55 จุด ลดลง 3.99 จุด, -0.06%

       ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่เบาบาง ขณะที่นักลงทุนระมัดวังการซื้อขายก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีในฝรั่งเศสวันอาทิตย์นี้ โดยโพลล์สำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่า นายเอมมานูเอล มาครอง ซึ่งเป็นผู้สมัครที่มีแนวคิดสายกลาง และนางมารีน เลอเปน จากพรรค National Front (FN) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชูนโยบายประชานิยมขวาจัด และหนุนให้ฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป จะมีคะแนนนำในการเลือกตั้งรอบแรก และทั้งสองจะควงคู่กันผ่านเข้าสู่การเลือกตั้งรอบ 2 ซึ่งเป็นรอบชี้ขาดในวันที่ 7 พ.ค. อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนเกิดความวิตกว่า เหตุกราดยิงในกรุงปารีสล่าสุด อาจทำให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร หันไปเทคะแนนให้กับนางเลอเปน ซึ่งมีแนวคิดต่อต้านนโยบายเปิดรับผู้อพยพ และจะทำให้เธอมีโอกาสชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในท้ายที่สุด

        หุ้นที่น่าจับตา หุ้นโฟล์คสวาเกน ปรับตัวลง 0.8% หลังบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเยอรมนีถูกสั่งให้จ่ายค่าปรับวงเงิน 2.8 พันล้านดอลลาร์ จากคดีติดตั้งอุปกรณ์โกงค่าปล่อยมลพิษในรถยนต์

       หุ้นซอฟต์แวร์ เอจี พุ่งขึ้น 7.9% หลังบริษัทรายงานผลกำไรที่ลดลงต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

       หุ้นทีมสโมสรฟุตบอลโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพิ่มขึ้น 2.5% หลังมีรายงานว่าตำรวจเยอรมนีได้จับกุมตัวและตั้งข้อหาชายสัญชาติรัสเซีย-เยอรมัน ซึ่งต้องสงสัยว่าลอบวางระเบิดโจมตีรถบัสของทีมดอร์ทมุนด์ในระหว่างทางมุ่งหน้าไปยังสนามเพื่อลงแข่งกับโมนาโกในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเขาหวังทำกำไรจากการชอร์ตหุ้นของทีมเมื่อตอนที่หุ้นตก

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 30.95 จุด ตลาดจับตาการเลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศส

       ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (21 เม.ย.) โดยตลาดได้แรงหนุนให้ลดช่วงลบในระหว่างวัน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้ออกมาเปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า เขาเตรียมจะประกาศแผนปฏิรูประบบภาษีครั้งใหญ่ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ระมัดระวังการซื้อขายก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์นี้

      ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,547.76 จุด ลดลง 30.95 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,348.69 จุด ลดลง 7.15 จุด หรือ -0.30% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,910.52 จุด ลดลง 6.26 จุด หรือ -0.11%

     นักวิเคราะห์มองว่า การออกมาส่งสัญญาณที่ชัดเจนของปธน.ทรัมป์ในการเดินหน้าผลักดันแผนปรับลดภาษีครั้งใหญ่นั้น ได้จุดประกายความหวังให้กับนักลงทุนอีกครั้ง และได้หนุนดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงลบในระหว่างวันเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงชะลอการซื้อขายก่อนทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้

      ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนบางส่วนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่บางแห่ง โดยบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 21 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 1 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 17 เซนต์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทยังรายงานรายได้ที่ระดับ 2.766 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.640 หมื่นล้านดอลลาร์

     สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์นั้น บริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือนเม.ย. โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 53.5 หลังจากแตะระดับ 53.3 ในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต

       ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 4.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.71 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2007 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5%

      นักลงทุนจับตาดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์ที่ 23 เม.ย.อย่างใกล้ชิด โดยโพลล์สำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่า นายเอมมานูเอล มาครอง ซึ่งเป็นผู้สมัครที่มีแนวคิดสายกลาง และนางมารีน เลอเปน จากพรรค National Front (FN) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชูนโยบายประชานิยมขวาจัด และหนุนให้ฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป จะมีคะแนนนำในการเลือกตั้งรอบแรก และทั้งสองจะควงคู่กันผ่านเข้าสู่การเลือกตั้งรอบ 2 ซึ่งเป็นรอบชี้ขาดในวันที่ 7 พ.ค. อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนเกิดความวิตกว่า เหตุกราดยิงในกรุงปารีสล่าสุด อาจทำให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร หันไปเทคะแนนให้กับนางเลอเปน ซึ่งมีแนวคิดต่อต้านนโยบายเปิดรับผู้อพยพ และจะทำให้เธอมีโอกาสชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในท้ายที่สุด

    อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!