WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET32ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวขึ้น เล็งแรงหนุนจากบาทแข็งค่า-กระแสเงินทุนไหลเข้า

    นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากเงินบาทแข็งค่ามาในเช้านี้ โดยแข็งค่าในรอบเกือบ 6 เดือน และคาดหวังกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า โดยสังเกตุได้จากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้น และยังได้ทำ Long ในตลาดอนุพันธ์ด้วย

      นอกจากนี้ จะมีการจัดงาน SET in the City 2017 ในวันที่ 23-26 มี.ค.นี้ รวมถึงในสัปดาห์หน้าก็จะมีการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 1/60

     ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน ราว 0.2-0.3% พร้อมให้แนวรับ 1,555 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 ถัดไปก็เป็น 1,580-1,585 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,914.62 จุด ลดลง 19.93 จุด (-0.10%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,901.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.24 จุด (0.00%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,378.25 จุด ลดลง 3.13 จุด (-0.13%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.64 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 2.88 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 4.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 7.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.13 จุด

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 มี.ค.60) 1,560.98 จุด เพิ่มขึ้น 3.93 จุด (+0.25%)

      - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,623.52 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 มี.ค.60

      - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 มี.ค.60) ปิดที่ 48.78 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.1%

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 มี.ค.60) ที่ 5.61 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 34.81 คาดวันนี้แกว่งในกรอบ 34.65-34.85 รอปัจจัยใหม่

                - "ผู้รับเหมา" โอดราคายางมะตอยพุ่งปีเดียว 1 เท่าตัว วอน "สมคิด" หาทางแก้ปัญหา ชี้ไม่เฉพาะเอกชนเดือดร้อน ภาครัฐก็ต้องเสียงบฯ เพิ่มชดเชยด้วย คาดปีนี้รัฐต้องควักเพิ่มไม่ต่ำหมื่นล้าน มึนปรับราคาขึ้นลงไม่อิงราคาน้ำมันโลก โวยรวมหัวกันโก่งราคาช่วงความต้องการยางมะตอยสูง แถมปรับขึ้นครั้งละ 4-5 พัน แต่เวลาลดปรับลงแค่พันเดียว

                - แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ 2561 ในส่วนของงบประมาณการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษหน่วยงานต่างๆ ได้นำเสนอคำขอเข้ามา แยกเป็นการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษหน่วยงานต่างๆ 17,299 ล้านบาท และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาค ตะวันออก (อีอีซี) มีคำเสนอของบประมาณเข้ามา 11,732 ล้านบาท

                - ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ให้เร่งทบทวนทั้งระบบว่าใครเป็นคนริเริ่มกระบวนการให้เอกชนเช่าพื้นที่ ส.ป.ก.ทำกังหันลมทั้ง 20 ราย รวมทั้งพบว่าโครงการดังกล่าวมีกลุ่มการเมืองฉกฉวยโอกาสใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ผูกเข้ากับนโยบายพลังงานทางเลือกมาหาผลประโยชน์ที่อาจมองว่าทันสมัย แต่ สตง.ยืนยันว่าไม่ควรไปใช้พื้นที่ของเกษตรกร เพราะทำให้ประโยชน์ในการทำเกษตรลดลงไป เนื่องจากใช้พื้นที่ติดตั้งเสากังหันลม 1 ไร่/เสา 1 ต้น

                - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ เพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio : LCR) ที่ ธปท.ให้ดำเนินการตั้งแต่เดือน ม.ค. 2559 โดยครบ 1 ปีในเดือน ม.ค. ปีนี้ พบว่าสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบเพิ่มขึ้นถึง 2.7 แสนล้านบาท หรือ 8% จาก 3.4 ล้านล้านบาท เป็น 3.7 ล้านล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

                - KSL (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 7.80 บาท แนวโน้มราคาน้ำตาลยังคงแข็งแรง จากผลผลิตน้ำตาลของไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอันดับ 2 ของโลกมีแนวโน้มลดลงกว่าปีก่อน และประเด็นการนำเข้าน้ำตาลของอินเดียที่อาจเกิดขึ้น ส่วนทิศทางการส่งออกน้ำตาลที่เติบโตชัดเจน พร้อมรายการพิเศษจากเงินคืนค่ารักษาเสถียรภาพ และ Hedging หนุนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 (ก.พ.-เม.ย.60) สดใส ด้านราคาปัจจุบันคิดเป็น P/E ที่เพียง 17 เท่า เมื่อเทียบกับ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปีที่ 23 เท่า และ P/E เฉลี่ยย้อนหลังช่วงปี 51-54 ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำตาลโลกขาดดุลที่ 28 เท่า

        - SUSCO (ธนชาต) "ซื้อ" ปรับประมาณการกำไรขึ้น 8-9.3% ในปี 2560-2562 และปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 5.70 บาท จากค่าการตลาดน้ำมันเบนซินสูง, ยอดเติมน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และการขยายสาขาเชิงรุกเป็น 300+ สาขา ภายในปี 2562 จาก ณ.สิ้นปี 2559 ที่ 220 สาขา คาดการณ์กำไรเติบโตแกร่ง 28-25% ในปี 2560-2561

     - BCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 16 บาท ราคาหุ้นที่ปรับลงมาเกือบ 20% จากจุดสูงสุดของปีนี้ตอบสนองในเชิงลบมากเกินไปเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่ยังโตต่อเนื่อง ตลาดอาจผิดหวังที่สำนักงานประกันสังคมยังไม่ปรับเพิ่มค่าหัว แต่การให้สิทธิตรวจร่างกายฟรีตั้งแต่ต้นปี เป็นบวกเพราะรพ.จะมีรายได้ส่วนเพิ่มที่มีอัตรากำไรสูงเข้ามาเสริม โดยไม่ได้รวมประเด็นนี้ในประมาณการกำไรปีนี้ที่คาดโต 15.6% Y-Y ซึ่งมาจาก WMC ที่มีพัฒนาการดีขึ้นมาก PE ปัจจุบันที่ 38 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมาที่ 45 เท่า

    - KCE (โกลเบล็ก) เป้า Consensus  113.08 บาท คาดกำไรปี 60 ที่ 3.6 พันล้านบาท +21%YoY จากการขยายกำลังการผลิตและรับรู้รายได้เต็มปีของโรงงานเฟส 1,2 , 3  อีกทั้งประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้นและ Demand ที่แข็งแกร่งของ PCB ในอุตฯยานยนต์ซึงเป็นลูกค้าหลักของบริษัทราว 70%  และบริษัทจะเริ่มลงเครื่องจักรเพิ่มเติมเฟส 3 ในปี 2560-2561 (ปี2560 5 แสนตารางฟุต และปี 2561 3 แสนตารางฟุต หนุนการเติบโตระยะยาว

ตลาดหุ้นเอเชียซบเซาเช้านี้ หลัง G20 ไม่แสดงจุดยืนต่อต้านการกีดกันทางการค้า

    ตลาดหุ้นเอเชียทรงตัวในวันนี้ ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ซบเซา หลังจากกลุ่ม G20 ไม่ได้แสดงจุดยืนเกี่ยวกับการต่อต้านการกีดกันทางการค้าในการประชุมเมื่อวันที่ 17-18 มี.ค. ที่เมืองบาเดน-บาเดน เยอรมนี

    ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,241.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,312.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.64 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,905.81 จุด ลดลง 2.88 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,160.32 จุด ลดลง 4.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,162.21 จุด ลดลง 7.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,744.07 จุด ลดลง 1.13 จุด ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ

       ทั้งนี้ G20 ได้ถอดคำว่า "การต่อต้านการกีดกันทางการค้าทุกรูปแบบ" ออกจากแถลงการณ์ฉบับร่างสุดท้าย ซึ่งอาจจะสะท้อนความคลุมเครือของการค้าโลกในอนาคต โดยในการประชุมปีที่แล้วที่ประเทศจีน ประเทศสมาชิกได้ให้คำมั่นที่จะต่อต้านการกีดกันทางการค้าทุกรูปแบบ

       แถลงการณ์ในปีนี้ยังไม่ได้ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ เคยพูดว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องลวงโลก

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : แรงซื้อหุ้นพลังงาน-สื่อสารหนุนฟุตซี่ปิดบวกทำสถิติใหม่

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องสองวันทำการเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสื่อสาร ในขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 ที่เยอรมนี ซึ่งจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้

      ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 9.01 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 7,424.96 จุด

      ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มโทรคมนาคม และกลุ่มสินค้าบริโภค ซึ่งได้สกัดการร่วงลงของหุ้นกลุ่มการเงิน กลุ่มสาธารณสุข และกลุ่มสาธารณูปโภค

        ขณะที่บรรยากาศบางส่วน นักลงทุนได้ชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูผลการประชุมของรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 ในวันนี้ โดยคาดว่าประเด็นหลักที่จะมีการหารือในการประชุมครั้งนี้จะเป็นเรื่องการค้าและอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่รัฐมนตรีคลังกลุ่ม G20 หลายคนได้แสดงความกังวลต่อนโยบายกีดกันทางการค้าที่ทวีความรุนแรง เนื่องจากเกรงว่ารัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะดำเนินนโยบายอันแข็งกร้าวที่นำไปสู่สงครามการค้าและกดดันประเทศอื่นๆในประเด็นนโยบายการเงิน

      นักเศรษฐศาสตร์จากอินเวสเทค กล่าวว่า "ถึงแม้การประชุม G20 จะส่งผลกระทบต่อตลาดไม่มากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่การเข้าร่วมประชุมครั้งแรกของนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐ"

        หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่น่าจับตา หุ้นเฟรสนิลโล ขยับขึ้น 0.1% ขณะที่หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ผู้ผลิตแร่มีค่ารายใหญ่ ขยับลง 0.4%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก นักลงทุนจับตาผลประชุมขุนคลัง-ผู้ว่าแบงก์ชาติกลุ่ม G20

       ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 ที่เยอรมนี ซึ่งจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้

        ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 378.32 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2558

       ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,029.24 จุด เพิ่มขึ้น 15.86 จุด หรือ 0.32% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,095.24 จุด เพิ่มขึ้น 12.06 จุด หรือ 0.10% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,424.96 จุด เพิ่มขึ้น 9.01 จุด หรือ 0.12%

       ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้แรงหนุนจากผลการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ โดยพรรค VVD ของนายมาร์ค รุตเต นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์มีชัยเหนือพรรค PVV ของนายเกิร์ต ไวล์เดอร์ส ซึ่งมีนโยบายต่อต้านสหภาพยุโรปและชาวมุสลิม โดยผลการเลือกตั้งดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของกระแสการเมืองแนวประชานิยมในยุโรป

       ในเวลานี้นักลงทุนได้หันไปจับตาดูผลการประชุมของรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 ที่เยอรมนีในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยคาดว่าประเด็นหลักที่จะมีการหารือในการประชุมครั้งนี้จะเป็นเรื่องการค้าและอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่รัฐมนตรีคลังกลุ่ม G20 หลายคนได้แสดงความกังวลต่อนโยบายกีดกันทางการค้าที่ทวีความรุนแรง เนื่องจากเกรงว่ารัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะดำเนินนโยบายอันแข็งกร้าวที่นำไปสู่สงครามการค้าและกดดันประเทศอื่นๆในประเด็นนโยบายการเงิน

       สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของยุโรปที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า ยูโรโซนมีตัวเลขขาดดุลการค้า 600 ล้านยูโร (644.8 ล้านดอลลาร์) ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับที่เกินดุลการค้า 4.8 พันล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

       ขณะที่การส่งออกสินค้ามีมูลค่า 1.639 แสนล้านยูโร เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนตัวเลขนำเข้าอยู่ที่ระดับ 1.645 แสนล้านยูโร เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

      หุ้นแอร์บัสปรับตัวลง 0.5% หลังมีรายงานว่า หน่วยงานสอบสวนของฝรั่งเศสได้เริ่มการตรวจสอบข้อกล่าวหาฉ้อโกงเกี่ยวกับการขายเครื่องบินและการจัดซื้อเครื่องบินในอังกฤษ

       หุ้นเบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิงส์ ทะยานขึ้น 6.1% หลังบริษัทสร้างบ้านดังกล่าวเปิดเผยว่า กำไรก่อนหักภาษีในปีการเงิน 2560 จะอยู่ในกรอบการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 19.93 จุด ขณะนักลงทุนจับตาผลประชุม G20

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงา สืบเนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อมองหาสัญญาณชี้นำตลาดต่อจากนี้ และจับตาดูการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 ที่เยอรมนี

        ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,914.62 จุด ลดลง 19.93 จุด หรือ -0.10% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,901.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.24 จุด หรือ 0.00% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,378.25 จุด ลดลง 3.13 จุด หรือ -0.13%

       บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนได้ระมัดระวังการซื้อขายเพื่อรอดูปัจจัยชี้นำตลาดต่อไป ซึ่งภายหลังจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ในเวลานี้นักลงทุนได้หันไปจับดูความคืบหน้าในการปฏิรูประบบภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมไปถึงการผ่านร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ที่จะนำมาใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพ "Affordable Care Act " ของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการเลือกตั้งในหลายประเทศในยุโรปอย่างใกล้ชิด

         สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐอยู่ที่ระดับ 97.6 ในเดือนมี.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 97.0 และสูงกว่าระดับ 96.3 ของเดือนก.พ.

       ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% เช่นกันในเดือนม.ค.เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของภาคเหมืองแร่ ขณะที่ภาคสาธารณูปโภคปรับตัวลง

       ส่วน Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ประจำเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังจากที่ดีดตัว 0.6% เช่นกันในเดือนม.ค. และปรับตัวขึ้นสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4%

       ทั้งนี้ ดัชนี LEI ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 6 เดือนในเดือนก.พ. และแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นการบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในปีนี้

      หุ้นอะโดบี ซิสเต็มส์ทะยานขึ้นกว่า 5% แตะระดับ 130.30 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังบริษัทเผยมีกำไรในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 94 เซนต์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 87 เซนต์/หุ้น

        หุ้นทิฟฟานี แอนด์ โค ผู้ผลิตเครื่องประดับรายใหญ่ พุ่งขึ้น 2.7% หลังบริษัทรายงานผลกำไรสูงกว่าระดับคาดการณ์

       นักลงทุนจับตาดูการประชุมของรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 ที่เยอรมนี โดยคาดว่าประเด็นหลักที่จะมีการหารือในการประชุมครั้งนี้จะเป็นเรื่องการค้าและอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่รัฐมนตรีคลังกลุ่ม G20 หลายคนได้แสดงความกังวลต่อนโยบายกีดกันทางการค้าที่ทวีความรุนแรง เนื่องจากเกรงว่ารัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะดำเนินนโยบายอันแข็งกร้าวที่นำไปสู่สงครามการค้าและกดดันประเทศอื่นๆในประเด็นนโยบายการเงิน

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!