WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET25ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามภูมิภาค หลังร่วงไปหลายวัน-ตอบรับคาดการณ์เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย

     นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากตลาดบ้านเราก็ปรับตัวลงมาหลายวันแล้ว และตลาดฯก็ได้ตอบรับเรื่องที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้แล้วด้วย วานนี้ก็เริ่มเห็นนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ และเช้านี้เงินบาทก็แข็งค่าด้วย

      อย่างไรก็ดี การประชุมเฟดในวันที่ 14-15 มี.ค.นี้ ยังต้องติดตามดูแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ตลาดฯก็ยังไม่ได้มีปัจจัยหนุนเข้ามาอย่างเด่นชัดเจน

พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,545 จุด

     ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,881.48 จุด ลดลง 21.50 จุด (-0.10%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,875.78 จุด เพิ่มขึ้น 14.05 จุด (+0.24%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,373.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.87 จุด (+0.04%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.54 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 1.77 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 41.33 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 23.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.79 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.53 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 มี.ค.60) 1,535.51 จุด ลดลง 4.40 จุด (-0.29%)

      - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 260.03 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 มี.ค.60

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 มี.ค.60) ปิดที่ 48.40 ดอลลาร์/บาร์เรล  ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.2%

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 มี.ค.60) ที่ 5.96 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 35.30/32 แนวโน้มแกว่งแคบ นักลงทุนชะลอดูผลประชุมเฟด

       - คมนาคมเตรียมปรับเส้นทางรถไฟ ความเร็วสูง รวมไฮสปีด"ระยอง-แอร์พอร์ต เรล ลิงค์" เชื่อมต่อสถานีกลางบางซื่อ หวังเพิ่มศักยภาพหนุนอีอีซี ด้าน"สมคิด"เร่งดัน 2 โครงการ "อู่ตะเภา-ไฮสปีด" หวังเชื่อม 3 สนามบิน ดันไทยศูนย์กลางการบินภูมิภาค

       - บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) เผยตัวเลขอุตสาหกรรมโฆษณาในช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ยังคงมีมูลค่าหดตัว หรือติดลบ 6.95% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,988 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่า 8,585 ล้านบาท โดยสื่อที่มีโฆษณาติดลบมากที่สุด คือ สื่อนิตยสาร ลบ 38.75% ตามด้วยสื่อเคลื่อนที่ ลบ 27.20% สื่อหนังสือพิมพ์ ลบ 21.26% สื่อเคเบิลทีวี/แซทเทลไลท์ทีวี ลบ 20.48% สื่ออินเทอร์เน็ต ลบ 10.16% และสื่อ ทีวีอะนาล็อก ลบ 8.86%

        - อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจเดือน ก.พ. 2560 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศจำนวน 5,751 ราย เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับเดือน ก.พ.2559 มีมูลค่า 2.69 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% ส่งผลให้การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจช่วง 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) 2560 มีจำนวน 1.20 หมื่นราย เพิ่มขึ้น 6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีทุนจดทะเบียนจัดตั้งช่วง 2 เดือน มูลค่า 4.34 หมื่นล้านบาท ลดลง 13%

       - ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.ได้ติดตามภาวะตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด ว่าจะได้รับผลกระทบจากกรณีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มีนาคมนี้หรือไม่ แต่เท่าที่ติดตามยังไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด โดยทิศทางค่าเงินบาทยังเป็นทิศทางเดียวกับที่ตลาดคาดไว้ เพราะเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลออก แต่ยังไม่พบความผิดปกติ เนื่องจากเป็นเรื่องปกติที่เงินทุนจะไหลไปยังตลาดที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

*หุ้นเด่นวันนี้

     - CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 74 บาท ธุรกิจของ 7-11 มีความเป็น defensive ขณะเดียวกันคาดกำไรปี 2560 +18.4% Y-Y จากการขยายสาขาไม่ต่ำกว่า 700 แห่ง คาด SSSG +4% Y-Y สภาพคล่องทางการเงินผ่อนคลายมากขึ้นหลังออก Perpetual bond 1 หมื่นล้านบาทปลายปีก่อน ปัจจุบันมี PE 27 เท่า ต่ำกว่าในอดีตที่อยู่ 30 เท่าต้นๆ หรือคิดเป็น PEG 1.5 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ 1.7-1.8 เท่า

     - AP (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 9 บาท คาดกำไรสุทธิปี 60 ราว 3.1 พันล้านบาท เติบโต 15% คาดกำไร 1Q60 มีแนวโน้มแผ่วลงจาก 4Q59 ที่บันทึกสถิติสูงสุดรายไตรมาสในปี 59 แต่น่าจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับ 1Q59 จากฐานที่ต่ำเพียง 455 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการร่วมทุนในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตจากปี 59 ที่เริ่มโอนคอนโดฯโครงการแรก และปีนี้จะมีโครงการที่เริ่มโอนอีก 1 โครงการ โดยจะเปิดตัวคอนโดร่วมทุนอีก 2 โครงการ ไลฟ์ วัน ไวร์เลส มูลค่า 6.4 พันล้านบาท และไลฟ์ ลาดพร้าว มูลค่า 7.6 พันล้านบาทในช่วง 1H60 และ yield อยู่ในระดับที่น่าสนใจราว 5-6% Prospect PER 7.3 เท่า

      - EA (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 34 บาท คาดกำไรทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ที่ 4.8 พันล้านบาท +45% y-y จากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 278MW เต็มปี และเริ่มผลิตไฟฟ้าพลังงานลม 126MW ตั้งแต่ มี.ค.นี้เป็นต้นไป สำหรับประเด็นการสร้างกังหันลมในพื้นที่ ส.ป.ก. กำลังการผลิต 260MW คาดว่าจะได้รับความชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2Q60

ตลาดหุ้นเอเชียบวกเล็กน้อยเช้านี้ นักลงทุนจับตาผลประชุมเฟด

                ตลาดหุ้นเอเชียขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเฟด ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไปในปีนี้ด้วย

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,634.29 จุด เพิ่มขึ้น 0.54 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,235.25 จุด ลดลง 1.77 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,871.00 จุด เพิ่มขึ้น 41.33 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,720.53 จุด เพิ่มขึ้น 23.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,127.12 จุด เพิ่มขึ้น 9.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,147.94 จุด เพิ่มขึ้น 0.79 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,722.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.53 จุด

                ทั้งนี้ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 91% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : แรงซื้อหุ้นเหมืองหนุนฟุตซี่ปิดบวก 24.00 จุด

                ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกติดต่อกันสองวันทำการเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนจับตาสภาสามัญชนอังกฤษที่ได้เปิดการอภิปรายเกี่ยวกับร่างกฎหมาย Brexit เมื่อวานนี้

                ดัชนี FTSE 100  เพิ่มขึ้น 24.00 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 7,367.08 จุด

                บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้ นักลงทุนจับตาดูสภาสามัญชนอังกฤษ (House of Commons) ซึ่งได้เปิดการอภิปรายในร่างกฎหมาย Brexit หลังจากที่ไม่ผ่านการรับรองในสภาขุนนาง (House of Lords) ก่อนหน้านี้ โดยสภาขุนนางได้ลงมติเห็นชอบให้มีการแปรญัตติในร่างกฎหมาย 2 ฉบับ โดยต้องการให้รัฐบาลอังกฤษปกป้องสิทธิพลเมืองชาว EU ที่พำนักอาศัยในอังกฤษหลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปไปแล้ว นอกจากนี้ยังต้องให้เพิ่มสิทธิอำนาจแก่รัฐสภาอังกฤษในการโหวตรับรองข้อตกลง Brexit ฉบับสุดท้าย

                หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นด้วยแรงหนุนจากราคาแร่โลหะสำคัญที่ปรับตัวขึ้นทั้งหมด โดยหุ้นเฟรสนิลโล ทะยานขึ้น 5.6% หุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 4% หุ้นริโอ ตินโต พุ่ง 4% และหุ้นเกลนคอร์ เพิ่มขึ้น 1.4%

                หุ้นจดทะบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ขยับขึ้น 0.8% หลังธนาคารประกาศแต่งตั้งนาย มาร์ค ทัคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเอไอเอ กรุ๊ป ขึ้นนั่งตำแหน่งประธานคนใหม่ แทนที่นายดักลาส ฟลินท์ ประธานคนปัจจุบันที่กำลังจะหมดวาระในเดือนก.ย.นี้

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : แรงซื้อเก็งกำไร หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

            ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) เนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไร ขณะที่นักลงทุนจับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ รวมทั้งการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส

                ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 374.64 จุด

                ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,999.60 จุด เพิ่มขึ้น 6.28 จุด หรือ +0.13% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,990.03 จุด เพิ่มขึ้น 26.85 จุด หรือ +0.22% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,367.08 จุด เพิ่มขึ้น 24.00 จุด หรือ +0.33%

                CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 91% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์

                ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเฟด ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไปในปีนี้

                หุ้นเอชเอสบีซีขยับขึ้น 0.8% หลังธนาคารประกาศแต่งตั้งนาย มาร์ค ทัคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเอไอเอ กรุ๊ป ขึ้นนั่งตำแหน่งประธานคนใหม่ แทนที่นายดักลาส ฟลินท์ ประธานคนปัจจุบันที่กำลังจะหมดวาระในเดือนก.ย.นี้

                หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 2.5% เฟรสนิลโล ทะยานขึ้น 5.6% หุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 4% หุ้นริโอ ตินโต พุ่ง 4% และหุ้นเกลนคอร์ เพิ่มขึ้น 1.4%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 21.50 จุด นักลงทุนชะลอเทรดก่อนรู้ผลประชุมเฟด

                ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

                ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,881.48 จุด ลดลง 21.50 จุด หรือ -0.10% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,875.78 จุด เพิ่มขึ้น 14.05 จุด หรือ +0.24% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,373.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.87 จุด หรือ +0.04%

                บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟดในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเฟด ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไปในปีนี้ด้วย

                CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 91% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์

                หุ้นอินเทล ร่วงลง 2.1% หลังจากอินเทล ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิพยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศซื้อกิจการบริษัทโมบิลอาย ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของอิสราเอล ด้วยวงเงิน 1.53 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นวงเงินสูงเป็นประวัติการณ์สำหรับการเทคโอเวอร์อุตสาหกรรมไฮเทคของอิสราเอล

                ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นโมบายอาย ปิดตลาดทะยานขึ้น 28.2%

                สำหรับโมบิลอาย เป็นบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยบริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1999 ด้วยวัตถุประสงค์ในการลดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการขับขี่รถยนต์ นอกจากนี้ โมบิลอายได้จดทะเบียนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในปี 2014 โดยมีมูลค่าตลาด 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์

                หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ดีดตัวขึ้น 1.4% หลังจากเอชเอสบีซีประกาศแต่งตั้งนาย มาร์ค ทัคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเอไอเอ กรุ๊ป ขึ้นนั่งตำแหน่งประธานคนใหม่ แทนที่นายดักลาส ฟลินท์ ประธานคนปัจจุบันที่กำลังจะหมดวาระในเดือนก.ย.นี้

                หุ้นเจซี เพนนี บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 5.8% แม้บริษัทประกาศเปิดตัว "Penney Homes Services" เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัย

                นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมี.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเดือนม.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค. จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

      อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!