- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 06 March 2017 12:53
- Hits: 4892
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ เริ่มหวั่นเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในมี.ค.
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ การปรับขึ้นของดัชนีฯก็มีจำกัด ส่วนขาลงก็ต้องรอดูสัญญาณก่อน ทั้งนี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นติดลบ เนื่องจากเงินเยนแข็งค่า และนักลงทุนก็เริ่มกลัวในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีโอกาสมากขึ้น
นอกจากนี้ จีนก็มีการปรับลดตัวเลข GDP ลงมาเหลือโต 6.5% จากปีที่แล้วที่โต 6.7% พร้อมให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ ถ้าออกมาจำนวนมากก็ยิ่งทำให้เฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีก ซึ่งการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ไม่เป็นผลดีต่อตลาดเกิดใหม่
สำหรับ ปัจจัยในประเทศตอนนี้ก็ไม่ได้มีข่าวดีอะไร และในสัปดาห์นี้จะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD หลายตัว ซึ่งจะมีผลต่อดัชนีฯประมาณ 2.71 จุด
พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด ถ้าหลุดจะมีแรงขายเพิ่มขึ้นทันที ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,560-1,570 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,005.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.74 จุด (+0.01%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,870.75 จุด เพิ่มขึ้น 9.53 จุด (+0.16%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,383.12 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด (+0.05%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 59.99 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 0.98 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 47.77 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 1.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 5.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 0.38 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.79 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 18.20 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 มี.ค.60) 1,566.20 จุด ลดลง 3.74 จุด (-0.24%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,083.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 มี.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 มี.ค.60) ปิดที่ 55.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับตัวขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 มี.ค.60) ที่ 5.25 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.00/04 กลับมาแข็งค่าหลังมีแรงขายดอลล์ รอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ
- "สมชาย พูลสวัสดิ์" อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า พ.ร.บ.สรรพสามิตใหม่ อยู่ระหว่างทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลเก็บจริงในอีก 180 วัน สาระสำคัญคือ ปรับเพดานอัตราภาษีทุกรายการสินค้า แต่อัตราการจัดเก็บภาษีที่แท้จริงจะต่ำกว่าเพดาน ซึ่งกรมมีแนวทางการจัดเก็บว่าต้องไม่เปลี่ยนแปลงจากอัตราการจัดเก็บภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน
- การประชุมคณะกรรมการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (ครศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในเดือนมี.ค.นี้ จะเสนอ 5 โครงการให้ที่ประชุมพิจารณาเปิดประมูลการลงทุนภายใน 8 เดือนข้างหน้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้ภาคเอกชนว่าโครงการอีอีซีเกิดขึ้นแน่นอน
- ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) ของปี 2560 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นคิดเป็นอัตราเติบโต 10-15% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 4/2559 และพบว่ามีผู้บริโภคบางส่วนที่ชะลอการตัดสินใจที่จะปลูกสร้างบ้านในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ได้ตัดสินใจที่จะปลูกบ้าน ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของตลาดรับสร้างในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 มีแนวโน้มดีขึ้น
- คลังไม่วิตกเฟดจ่อขึ้นดอกเบี้ย มั่นใจแบงก์ชาติเอาอยู่ หอการค้าฯแนะทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
- ตลาดหลักทรัพย์เผยสินค้าดีดับบลิวเทรดคึก โบรกเกอร์ต่างชาติรุกขอข้อมูลสนใจขอเปิดขายดีดับบลิว แจงผู้ออกต้องเป็นโบรกเกอร์ไทยเท่านั้น ด้าน "เคจีไอ" นักลงทุนแห่ซื้อดีดับบลิวเก็งหุ้นร่วง วอลุ่มพุ่งสูงสุดประวัติการณ์ เตือนอัตราทดสูง -เทรดใกล้หมดอายุ ระวังเกิดความเสียหาย
- แบงก์ชาติเล็งขยายให้โบรกเกอร์ในตลาด TFEX เป็นนายหน้าซื้อขาย USD futures ในกลางปีนี้ และปลายปีจะเปิดให้นักลงทุนรายย่อยทั่วไปลงทุนต่างประเทศได้อย่างเสรี พร้อมปรับปรุงกฎหมายแลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งมีการใช้มาแล้วถึง 75 ปี หวังลดอุปสรรคและดูแลเงินทุนเคลื่อนย้ายให้ดีขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- LIT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าขึ้นเป็น 14.80 บาท จากเดิม 14 บาท (หลัง XW เป็น 12.30 บาท) การจ่ายหุ้นปันผลและขาย LIT-W1 จะช่วยผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการหาเงินทุนจากแหล่ง B/E ที่ประสบปัญหาความเชื่อถือในช่วงต้นปี และทำให้ D/E ลดเหลือ 2.4 เท่าจาก 3.2 เท่าสิ้นปี 2559 ซึ่งคาดว่าจะทำให้ LIT ขยายสินเชื่อในอัตรา 25-30% ได้อีกอย่างน้อย 3 ปี แนวโน้มกำไร 1Q60 ทำ new high ต่อเนื่อง จึงปรับกำไรปีนี้ขึ้นอีก 6% เป็น +31% Y-Y
- CPN (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 69 บาท กำไรสุทธิ 4Q59 ที่ 2,220 ล้านบาท เติบโต 16%YoY แต่หดตัวราว 5%QoQ ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 59 ตามคาดที่ 9,244 ล้านบาท เติบสูง 17%YoY ขณะที่ปี 60 คาดกำไรสุทธิ ที่ 10,087 ล้านบาท เติบโต 9% แม้ว่า CPN จะมีแผนการปรับปรุง 5 ศูนย์การค้า แต่คาดจะได้รับแรงหนุนจากการเริ่มรับรู้รายได้ของ 3 ศูนย์ฯ ที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ ขณะที่มองการเข้าร่วมพัฒนาโครงการร่วมทุน Mixed-Use กับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (DTC) เป็นบวกแต่ยังไม่รวมในประมาณการ และประกาศจ่ายเงินปันผลงวดปี 59 ที่ 0.83 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 10 มี.ค.60
- HMPRO (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 12.50 บาท ยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) หดตัวลง 1.8% ใน 4Q59 และยังหดตัวเล็กน้อยในช่วง 2M60 สำหรับธุรกิจ Mega Home เริ่มทำกำไรได้ และเร่งขยายสาขาในมาเลฯ อีก 3 แห่งปีนี้ คาดว่าจะ breakeven ในปี 2561
- BANPU (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 23.5 บาท ประเมิน Catalyst บวกจากประเด็นภาครัฐฯจีนอาจปรับลดเวลาการทำงานของเหมืองถ่านหินในจีนลงเป็น 276 วัน (จาก 330 วัน) คาดจะส่งผลให้บวกต่อราคาถ่านหินในระยะสั้น (ฝ่ายวิจัยฯ คาดจะรู้ผลในเดือน มี.ค.นี้)
ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ หลังประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่เฟด
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,409.18 จุด ลดลง 59.99 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,217.33 จุด ลดลง 0.98 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,600.49 จุด เพิ่มขึ้น 47.77 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,647.00 จุด ลดลง 1.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,073.20 จุด ลดลง 5.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,121.96 จุด ลดลง 0.38 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,706.59 จุด ลดลง 1.79 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,228.92 จุด ลดลง 18.20 จุด
ทั้งนี้ นางเยลเลนได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ Executives Club of Chicago เมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม หากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่เฟด
"ในการประชุมครั้งต่อไปของเฟดซึ่งจะมีขึ้นในเดือนนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะประเมินว่า ตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเราหรือไม่ ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม" นางเยลเลนกล่าว
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 8.09 จุด ก่อนเยลเลนแถลง, วิตก PMI ภาคบริการอังกฤษชะลอตัว
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.ของสหราชอาณาจักรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives Club of Chicago โดยตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการไปก่อนที่การกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดจะเสร็จสิ้นลง
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ระดับ 7,374.26 จุด ลดลง 8.09 จุด หรือ -0.11%
อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นราว 1.8%
สำหรับปัจจัยลบที่กดดันตลาดหุ้นลอนดอนให้อ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ มาจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหราชอาณาจักร ร่วงลงสู่ระดับ 53.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน หลังจากอยู่ที่ระดับ 55.1 ในเดือนม.ค. โดยมาร์กิตระบุว่า การชะลอตัวของภาคบริการได้รับผลกระทบจากการลดลงในการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของสหราชอาณาจักรจะอยู่ที่ระดับ 54.1 ในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives Club of Chicago ขณะที่ตลาดคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ประธานเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
CME Group FedWatch ระบุว่า ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 77% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่เครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ บ่งชี้ว่าเฟดมีโอกาสมากกว่า 80% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หุ้น London Stock Exchange Group ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นอังกฤษ ปรับตัวลง 0.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิลดลงในปี 2559
อย่างไรก็ตาม หุ้นโอลด์ มิวชวล ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเพื่อการลงทุนรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 1.8% ขณะที่หุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ ปรับตัวขึ้น 1.7% และหุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองผลิตโลหะมีค่า พุ่งขึ้น 2.8%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ ก่อนเยลเลนกล่าวสุนทรพจน์ที่ชิคาโก
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives Club of Chicago โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการไปก่อนที่การกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดจะเสร็จสิ้นลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อจับสัญญาณว่า ECB จะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปหรือไม่
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 375.23 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 12,027.36 จุด ลดลง 32.21 จุด, -0.27% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,374.26 จุด ลดลง 8.09 จุด, -0.11% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,995.13 จุด เพิ่มขึ้น 31.33 จุด, +0.63%
นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives Club of Chicago ขณะที่ตลาดคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ประธานเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
CME Group FedWatch ระบุว่า ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 77% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่เครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ บ่งชี้ว่าเฟดมีโอกาสมากกว่า 80% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดประเมินว่ามีความเป็นไปได้ไม่ถึง 20% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค.
หุ้นพับลิซีส์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์ของฝรั่งเศส ร่วงลง 1.74% ขณะที่หุ้นอาร์เซลอร์ มิตตัล ดิ่งลง 1.72%
หุ้น Deutsche Borse Group ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นเยอรมนี ดิ่งลง 2.26% ขณะที่หุ้นดอยซ์ แบงก์ ร่วงลง 1.29%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในยูโรโซนลดลง 0.1% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกในยูโรโซนถูกกดดันจากยอดขายที่ดิ่งลง 0.8% ในเยอรมนีและฝรั่งเศส ขณะที่บางประเทศปรับตัวขึ้น
สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีการเปิดเผยล่าสดนั้น มาร์กิต อิโคโนมิคส์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีรวมภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนขั้นสุดท้ายเดือนก.พ. แตะที่ระดับ 56.0 ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขเบื้องต้น ขณะที่เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.4 ในเดือนม.ค.
มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีรวมภาคการผลิตและภาคบริการของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป 4 แห่งปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนี PMI ของสเปนแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน เยอรมนีแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน ฝรั่งเศสแตะระดับสูงสุดในรอบ 69 เดือน และอิตาลีแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี
นักลงทุนจับตาการประชุม ECB ในวันพฤหัสบดีที่ 9 มี.ค. เพื่อจับสัญญาณว่า ECB จะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปหรือไม่ หลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ได้แถลงก่อนหน้านี้ว่า ถ้าหากแนวโน้มเงินเฟ้อยังคงไม่เป็นที่น่าพอใจ หรือหากเกิดสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่สอดคล้องกับความคืบหน้าไปสู่การมีเงินเฟ้อที่ยั่งยืน คณะกรรมการของ ECB ก็พร้อมที่จะเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตร หรือขยายเวลาออกไป
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 2.74 จุด หลังเยลเลนส่งสัญญาณชัดเฟดพร้อมขึ้นดบ.เดือนนี้
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (3 มี.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่เฟด โดยความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของนางเยลเลนเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,005.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.74 จุด หรือ +0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,870.75 จุด เพิ่มขึ้น 9.53 จุด หรือ +0.16% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,383.12 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด หรือ +0.05%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้นทั้งสิ้น 0.9% ดัชนี S&P500 ปรับขึ้น 0.7% และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 0.4%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากนางเยลเลนได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ Executives Club of Chicago เมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม หากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่เฟด
"ในการประชุมครั้งต่อไปของเฟดซึ่งจะมีขึ้นในเดือนนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะประเมินว่า ตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเราหรือไม่ ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม"นางเยลเลนกล่าว
ทั้งนี้ นางเยลเลนได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยระบุว่า "อัตราว่างงานในเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 4.8% ซึ่งสอดคล้องกับระดับการประเมินของเฟด ส่วนเศรษฐกิจก็ดูเหมือนว่าจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศได้ และเงินเฟ้อในเดือนม.ค.ก็ส่งสัญญาณเคลื่อนตัวเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับเกือบ 2% ของเฟด"
นักวิเคราะห์จากรัสเซลล์ อินเวสต์เมนท์กล่าวว่า ในด้านหนึ่งนั้น นักลงทุนมองว่าถ้อยแถลงของนางเยลเลนถือเป็นการส่งสัญญาณที่ "ชัดเจน" ว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากมุมมองด้านบวกที่นางเยลเลนมีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และในอีกด้านหนึ่งนั้น นักลงทุนบางส่วนก็ได้ซึมซับกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเอาไว้แล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้ออกส่งสัญญาณในทิศทางเดียวกันว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ รายงานที่บ่งชี้ถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคบริการในสหรัฐ นับเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก โดยสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM มีการขยายตัวที่ระดับ 57.6 ในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นจากระดับ 56.5 ในเดือนม.ค. โดยภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 86 ในเดือนก.พ. เนื่องจากดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว
หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ผู้ผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมหนัก ดีดตัวขึ้น 0.8% โดยราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี จากข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางสหรัฐได้บุกตรวจค้นสำนักงาน 3 แห่งของแคทเธอร์พิลลาร์ ในรัฐอิลลินอยส์ โดยคาดว่าการบุกค้นครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการหาข้อมูลของบริษัท CSARL ซึ่งเป็นบริษัทลูกของแคทเธอร์พิลลาร์ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์
หุ้น Snap ผู้ให้บริการ Snapchat ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ ทะยานขึ้น 44% หลังจากบริษัทเปิดตัวการซื้อขายอย่างคึกคักเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งส่งผลให้มูลค่าทางตลาดของ Snap สูงถึง 2.84 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่ามูลค่าตลาดของทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง
อินโฟเควสท์
