WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET22ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตลาดตปท. ราคาน้ำมันร่วงกดหุ้นพลังงาน,จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้

      นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสย่อตัวลง จากปัจจัยภายนอกที่ตลาดหุ้นต่างประเทศอยู่ในช่วงปรับฐาน โดยตลาดหุ้นสหรัฐมีแรงขายทำกำไรออกมา หลังจากมีกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้ออกมาส่งสัญญาณดังกล่าว อีกทั้งตลาดยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่จะมีขึ้นในคืนนี้ด้วย ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ก็อยู่ในภาวะที่ซึมตัวลงเช่นกัน

       นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงเมื่อคืนนี้ อาจจะกดดันต่อการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีมาร์เก็ตแคปค่อนข้างมากต่อตลาดหุ้นไทยด้วย อีกทั้งการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทย ก็ยังไม่นิ่ง โดยยังคงมีแรงซื้อสลับขายออกมาต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตลาดน่าจะยังได้ปัจจัยหนุนจากการซื้อสุทธิต่อเนื่องของนักลงทุนสถาบันในประเทศ รวมถึงยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์ และวันนี้อาจมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มเดินเรือด้วย หลังจากที่ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปรับตัวขึ้นกว่า 3% เมื่อวานนี้ ก็น่าจะช่วยประคองภาพรวมการลงทุนได้บ้าง

พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,562 และ 1,558 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,575 และ 1,580 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

        - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,002.97 จุด ร่วงลง 112.58 จุด (-0.53%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,861.22 จุด ลดลง 42.81 จุด (-0.73%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,381.92 จุด ลดลง 14.04 จุด (-0.59%)

       - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 13.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 10.83 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 109.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 19.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 11.73 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 15.28 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.14 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 มี.ค.60) 1,569.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด (+0.18%)

       - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 515.42 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 มี.ค.60

      - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 มี.ค.60) ปิดที่ 52.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 2.3%

       - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 มี.ค.60) ที่  4.49 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 35.04 อ่อนค่าจากดอลล์แข็งหลังนลท.มั่นใจเฟดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้

      - ในวันนี้คณะกรรมการ รฟท.จะประชุมแก้ไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 5 สัญญา มูลค่า 1.36 แสนล้านบาท และจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง หรือซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อ จัดจ้าง ที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบในการประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ทันที เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องการให้เร่งแก้ปัญหาเพื่อให้โครงการก่อสร้างเกิดขึ้นได้เร็ว

     - รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ว่า มอบหมายให้การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) ให้ทันสมัยมากขึ้น จากปัจจุบันกำหนดเพดานสูงสุดที่ 13 บาท/กิโลเมตร (กม.) ใช้ร่วมกันทุกประเภท

    - รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า มาตรการพิเศษที่รัฐบาลกำลังนำออกมาใช้ในการแก้ไขปัญหาการออกสิทธิบัตรล่าช้า จะช่วยแก้ปัญหาคำขอรับสิทธิบัตรที่ค้างการพิจารณาอยู่ในระบบ ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 3.6 หมื่นคำขอ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีก 2-3 ปีเพื่อสะสางคำขอทั้งหมด

*หุ้นเด่นวันนี้

      - BANPU (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 25.15 บาท คาดกำไรปี 2560 ที่ 9 พันล้านบาท +438%YoY จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้น โดยบริษัทยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายถ่านหินราว 50% ของกำลังการผลิตในปี 60 ซึ่งคาดว่าราคาขายจะถูกปรับลด 15% จากราคาถ่านหินเฉลี่ยในปี 60 ที่ 77 ดอลลาร์ต่อตัน ทั้งนี้ราคาถ่านหินเฉลี่ยปี 60 คาดว่าจะปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 77 ดอลลาร์ หลังจีนเตรียมปรับลดวันทำงานของเหมืองถ่านหินลงเหลือ 276 วันในช่วงเดือนมี.ค.-ส.ค. เพื่อลดอุปทานลงหลังจากผ่านช่วงที่มีความต้องการใช้สูงสุดไปแล้ว  นอกจากนี้จีนยังมีแผนปิดเหมือนถ่านหินกว่า 500 แห่งในปีนี้เพื่อเป็นการลดอุปทานและลดมลภาวะในประเทศ ขณะที่คาดว่าต้นทุนการผลิตจะปรับตัวขึ้น 15% สู่ 38-51 ดอลลาร์ต่อตันจากการขุดถ่านหินในพื้นที่ลึกขึ้นทำให้อัตราส่วนดินต่อแร่ (stripping ratio) เพิ่มจาก 8:1 เป็น 13:1

      - JWD (ยูโอบี เคย์เฮียน) ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 3/59 และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้การพ้นธงเหลือง IUU จะช่วยเร่งการฟื้นตัวของธุรกิจห้องเย็น และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร

      - VNG (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 16.30 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q60 ชะลอตัวชั่วคราว จากผลกระทบเหตุการณ์น้ำท่วมที่ภาคใต้ แต่คาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาโดดเด่นใน 2Q60 พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2560-2561 เติบโตดีต่อเนื่อง จากแผนขยายกำลังการผลิตแผ่นไม้ MDF, Particle และ Laminated Flooring ขณะที่อาจมี upside เพิ่มในอนาคตจากแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งยังคงรอความชัดเจนของภาครัฐ อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยกดดันระยะสั้นจากแนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q60 ที่คาดว่าจะชะลอตัว

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ จากคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืน เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้ออกมาส่งสัญญาณดังกล่าว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,551.34 จุด ลดลง 13.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,219.20 จุด ลดลง 10.83 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,618.36 จุด ลดลง 109.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,672.26 จุด ลดลง 19.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,090.92 จุด ลดลง 11.73 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,121.20 จุด ลดลง 15.28 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,714.53 จุด ลดลง 1.14 จุด

      ทั้งนี้ นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

      ผลสำรวจล่าสุดของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนเชื่อว่ามีโอกาสสูงถึง 78% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. และมีโอกาส 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนพ.ค.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายทำกำไรฉุดฟุตซี่ปิดลบ 0.55 จุด

       ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) จากแรงเทขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มบลูชิพ ภายหลังจากที่ดัชนี FTSE 100 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้

     ดัชนี FTSE 100 ลดลง 0.55 จุด หรือ -0.01% ปิดที่ 7,382.35 จุด

       ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้มีแรงฉุดจากการเทขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเมื่อวันพุธ ตามทิศทางของดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐ สืบเนื่องถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่สภาคองเกรส เกี่ยวกับแผนลงทุนในโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานในสหรัฐมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

     นายเคร็ก เออร์แลม นักวิเคราะห์อาวุโสแห่ง Oanda มองว่า นักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ แม้ว่าที่ผ่านมานั้น เขาจะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก็ตาม นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับมุมมองของเฟดที่ว่า สหรัฐจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างร้อนแรงจนเกินไป"

     หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงอย่างหนักนำโดยหุ้นแคปิตา ร่วงลง 9.1% หลังบริษัทเปิดเผยว่า นายแอนดี้ ปาร์คเกอร์ ประธานบริหารของบริษัทจะลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่แคปิตารายงานผลกำไรสุทธิตลอดปีที่ผ่านมาปรับตัวลงลง

     ส่วนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งนำโดยหุ้นคอนวาเท็ค กรุ๊ป ซึ่งทะยานขึ้น 5.1% หลังบริษัทผู้ผลิตเวชภัณฑ์รายใหญ่ดังกล่าวประกาศว่า จะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2017 ที่ระดับ 35% ของรายได้สุทธิ

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : แรงขายทำกำไร ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากตลาดทะยานขึ้นเมื่อวันพุธ อันเนื่องมาจากมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ

      ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.02% แตะที่ 375.61 จุด

       ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 12,059.57 จุด ลดลง 7.62 จุด, -0.06% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,382.35 จุด ลดลง 0.55 จุด, -0.01% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,963.80 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด, +0.06%

      ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา ขณะที่นักลงทุนเทขายหุ้นบางกลุ่ม โดยหุ้น Anheuser-Busch InBev ร่วงลง 2.5% หลังจากบริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการลดต้นทุนในการควบรวมกิจการกับ SABMiller

     หุ้นทราวิส เพอร์กินส์ ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างของอังกฤษ ดิ่งลง 6.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีทรุดฮวบลง 67% ในปี 2560 อันเนื่องมาจากต้นทุนการปรับโครงสร้างธุรกิจ

       หุ้นโรช โฮลดิ้ง ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสวิส พุ่งขึ้น 6.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลการทดสอบยารักษาโรคมะเร็งเต้านมที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจ

      สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า เงินเฟ้อในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรปรับตัวขึ้นแตะ 2% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งกำหนดให้เงินเฟ้ออยู่ที่ใกล้ระดับ 2%

    นอกจากนี้ ยูโรสแตทเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 9.6% ซึ่งทรงตัวจากระดับของเดือนธ.ค. และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2552

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 112.58 จุด จากกระแสคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย

     ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) หลังจากมีกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้ออกมาส่งสัญญาณดังกล่าว ขณะที่นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

      ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,002.97 จุด ร่วงลง 112.58 จุด หรือ -0.53% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,861.22 จุด ลดลง 42.81 จุด หรือ -0.73% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,381.92 จุด ลดลง 14.04 จุด หรือ -0.59%

       ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จากพรูเดนเชียล ไฟแนนเชียลกล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่า เศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้มีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้หรือไม่ แม้เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ก็ตาม นอกจากนี้ การที่ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดติดต่อกันหลายวัน ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายทำกำไร

      นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า นางเยลเลนอาจจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆที่ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด แม้ว่าก่อนหน้านี้นางเบรนาร์ดมักจะสนับสนุนให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำก็ตาม

      ผลสำรวจล่าสุดของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนเชื่อว่ามีโอกาสสูงถึง 78% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. และมีโอกาส 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนพ.ค.

        หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ร่วงลง 4.3% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยลบที่ฉุดตลาดร่วงลงด้วย หลังจากมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐได้เข้าตรวจค้นสำนักงาน 3 แห่งของแคทเธอร์พิลลาร์ในรัฐอิลลินอยส์

       หุ้นโครเกอร์ ดิ่งลง 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด

       หุ้นเชค แชค ซึ่งเป็นผู้บริหารเครือข่ายร้านเบอร์เกอร์ ร่วงลง 2.6% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2560 และเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์

      หุ้นบาร์นส์ แอนด์ โนเบิล ผู้ผลิตและจำหน่ายหนังสือรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 8.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด

      อย่างไรก็ตาม หุ้นเบสท์ บาย พุ่งขึ้น 6.4% หลังจากมีรายงานว่า บริษัท hhgregg ซึ่งเป็นคู่แข่งของเบสท์ บาย ประกาศแผนปิดสาขา 88 แห่ง

     ส่วนหุ้นอเบอร์ครอมบี้ แอนด์ ฟิทช์ ทะยานขึ้น 14% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

    นอกเหนือจากการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเยลเลนแล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.โดยมาร์กิต และดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!