WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

bull market5ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวช่วงติดตามทยอยประกาศงบฯ ยังไร้ปัจจัยใหม่หนุน

     นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ โดยดัชนีฯอาจเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ในช่วงของการรอการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ปัจจัยอื่นไม่ค่อยมีเท่าไร โดยปัจจัยที่มีจะเป็นปัจจัยเฉพาะรายตัวมากกว่า

      ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน ขณะที่ราคาน้ำมันก็ทรงตัว อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,570-1,585 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ก.พ.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,619.77 จุด เพิ่มขึ้น 7.91 จุด (+0.04%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,814.90 จุด ลดลง 4.54 จุด (-0.08%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,347.22 จุด ลดลง 2.03 จุด (-0.09%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 118.79 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.91 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 29.83 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 7.91 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 9.27 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.51 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.78 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ก.พ.60) 1,576.05 จุด เพิ่มขึ้น 2.68 จุด (+0.17%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,438.12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ก.พ.60

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ก.พ.60) ปิดที่ 53.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.5%

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ก.พ.60) ที่ 7.52 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 35.00 มองกรอบวันนี้ 34.80-35.05 ไร้ปัจจัยใหม่

                - 33 ซีอีโอชั้นนำแนะไทยพัฒนาคนรับ 4.0 เล็งดึงสถาบันการศึกษาระดับโลกตั้งในอีอีซี บีโอไอเผยบริษัทใหญ่ขยายลงทุนอุตสาหกรรมไฮเทค

                - ธปท.เผยการปิดสาขาของสถาบันการเงินเริ่มชะลอ ล่าสุดปิดตัวลง 12 แห่ง กระจายทุกพื้นที่ "กสิกรไทย" ปิดสาขามากที่สุด ด้านกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จ่ายคืนหนี้รัฐงวดแรกของปีนี้ 5.64 พันล้านบาท เหลือเงินต้นทั้งสิ้น 9.26 แสนล้านบาท

                - กสทช.มั่นใจปี'60 ทีวีดิจิทัลสดใสตามจีดีพี เหตุรับอานิสงส์จีดีพีขยายตัวและผลจาก คสช.ใช้ ม.44 ขยายเวลาจ่ายค่าใบอนุญาตทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มเกือบ 5 พันล้าน คนดูเพิ่มสวนทางอนาล็อกลดวูบ

                - เปิดเดินรถเชื่อม 1 สถานี สิงหาคมนี้ ยังไม่คิดปรับขึ้นค่าโดยสารสายสีม่วง คาดคนใช้บริการเพิ่ม 15-20% บีอีเอ็มเตรียมซื้อรถไฟฟ้าลอตใหญ่ 35 ขบวน รองรับสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย

                - ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชน เห็นด้วยให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ จ.กระบี่ เนื่องจากภาคใต้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และมีภาคอุตฯ ขนาดใหญ่หลายประเภท เช่น อาหาร ยางพารา เซรามิก มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 4% สูงกว่าการขยายตัวจีพีดี หากต่อไปยังต้องรอการส่งไฟฟ้าจากภาคกลางหรือการขยายสายส่งเพียงอย่างเดียว มองว่า ต่อไปจะกระทบกับความมั่นคงไฟฟ้าทางภาคใต้ และหากไฟฟ้าไม่เพียงพอกับความต้องการ เกิดไฟดับ คาดว่า จะส่งผลกระทบต่อจีดีพีภาคใต้ถึง 1%

                - ท่องเที่ยวไทยเดือนแรกสดใส ต่างชาติแห่เข้ามา 3.19 ล้านคน สร้างรายได้ 1.69 แสนล้านบาท เพิ่มกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ด้านรมว.การท่องเที่ยวฯ พร้อมรอง นายกฯ ลงภูเก็ต พิจารณาโซนนิ่งสถานบันเทิงให้เปิดถึงตี 4

*หุ้นเด่นวันนี้

                - PTT (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 450 บาท ผลดำเนินงานปกติ Q4/59 ยังโตต่อเนื่องจากธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมีเป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจก๊าซยังแข็งแกร่งทั้งโรงแยกก๊าซ ท่อส่งก๊าซ และ NGV ด้านบริษัทย่อยเช่น PTTEP ผลการดำเนินงานลดลง แต่กลุ่มธุรกิจถ่านหินดีขึ้น โดยประมาณการผลการดำเนินงานในปี 60 ยังคงแข็งแกร่งจากกลุ่มธุรกิจก๊าซเป็นหลัก ประกอบกับแนวโน้มจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว ราคาน้ำมันดิบดูไบล่าสุดฟื้นมาที่ 54 เหรียญสหรัฐฯ ส่งผลดีต่อ PTTEP โดยราคาหุ้น PTT ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ P/E เพียง 11.2 เท่า

                - ROBINS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 76 บาท  กำไรปกติ Q4/59 โตดีกว่าคาดเล็กน้อย +51% Q-Q, +10% Y-Y แม้ SSSG จะพลิกเป็นลบ 1.8% Y-Y แต่การเปิดสาขาใหม่ทำให้ผลประกอบการยังเติบโตได้ สำหรับกำไรปกติทั้งปี +18% Y-Y เราคาดปีนี้โตเร่งตัวขึ้น +22% Y-Y จากรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้น

                - MINT (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดกำไรไตรมาส 4/59 อ่อนตัวลง QoQ เนื่องจากไม่มีรายได้อสังหาริมทรัพย์ แต่ core business จากโรงแรมแข็งแกร่ง ขณะที่ราคาหุ้นน่าจะสะท้อนปัจจัยลบจากปราบทัวร์ศูนย์เหรียญแล้ว อีกทั้งคาดกำไรไตรมาส 1/60 จะเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

                - KCE (ธนชาต) "ซื้อ" มองราคาหุ้นสะท้อนต้นทุน copper foil ที่ปรับสูงขึ้นไปแล้ว และกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นใน 1H60 หนุนกำไรโต 26-33% ปี 2560-2561

                - BEAUTY (ธนชาต) "ซื้อ"คาดกำไร 4Q59 ที่ยังเติบโตแกร่ง และ Outlook ธุรกิจที่ยังเติบโตได้ดีจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ คาดกำไรขยายตัวเด่น 42-37% ปี 60-61

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ หลังเยนแข็งค่าฉุดหุ้นญี่ปุ่นร่วง

       ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ร่วงลงกว่า 100 จุด เพราะได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวลง

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,228.74 จุด ลดลง 118.79 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,227.71 จุด ลดลง 1.91 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,077.87 จุด ลดลง 29.83 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,779.16 จุด เพิ่มขึ้น 7.91 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,072.57 จุด ลดลง 9.27 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,099.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.51 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,705.81 จุด ลดลง 1.78 จุด

     ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ Conference Board จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค. ในเวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : แรงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน-เหมืองฉุดฟุตซี่ปิดลบ 24.49 จุด

       ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) จากแรงเทขายในหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ หลังจากที่ดัชนี FTSE 100 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

      ดัชนี FTSE 100 ลดลง 24.49 จุด หรือ -0.34% ปิดที่ 7,277.92 จุด

      นักวิเคราะห์ด้านการเงินแห่ง Spreadex มองว่า การที่ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลงเมื่อวานนี้ เป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราวเท่านั้น โดยตลาดหุ้นลอนดอนยังไม่ได้เข้าสู่ทิศทางขาลงในระยะนี้

      หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดิ่งลง 2.2% ขณะที่หุ้นบีพี ร่วงลง 2% โดยทั้ง 2 บริษัทเข้าสู่วันกำหนดปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น

       หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงทั้งกระดาน จากปัจจัยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวผันผวนระหว่างวัน โดยที่ราคาทองแดงและแร่โลหะอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง

     หุ้นแองโกล อเมริกัน ลดลง 1.8% หุ้นอันโตฟากาสต้า ร่วง 2% หุ้นเกลนคอร์ ขยับลง 0.6%

     หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ที่น่าจับตา หุ้นแอสตราเซเนก้า ขยับลง 0.2% โดยบริษัทเข้าสู่วันกำหนดปิดสมุดทะเบียนเพื่อรอจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นแล้วเช่นกัน

      อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้น หลังสายการบินแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็มเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานพุ่งขึ้น 35% ในปี 2559 จากอานิสงส์ของราคาน้ำมันที่ร่วงลงเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนเชื้อเพลิงของสายการบินลดลง โดยหุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดทเต็ด แอร์ไลน์ส กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ปรับตัวขึ้น 0.6%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : แรงขายหุ้นแบงก์,พลังงาน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทรายใหญ่ รวมถึงหุ้นเนสท์เล่ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงเช่นกัน

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 370.10 จุด

     ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,277.92 จุด ลดลง 24.49 จุด หรือ -0.34% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,899.46 จุด ลดลง 25.40 จุด ห -0.52% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 11,757.24 จุด ลดลง 36.69 จุด, -0.31%

     หุ้นเนสท์เล่ ร่วงลง 1% หลังจากเนสท์เล่ ซึ่งเป็นบริษัทด้านโภชนาการและสุขภาพชั้นนำของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 8.5 พันล้านฟรังก์สวิส ลดลงจากระดับ 9.1 พันล้านฟรังก์ในปี 2558 ขณะที่ยอดขายของบริษัทอยู่ที่ระดับ 8.95 หมื่นล้านฟรังก์สวิส ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

      ขณะเดียวกัน เนสท์เล่คาดการณ์ว่า ยอดขายของเนสท์เล่อาจหดตัวลงในปีนี้ สืบเนื่องจากตลาดสำคัญหลายแห่งกำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัว

    หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง นำโดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดิ่งลง 2.2% ขณะที่หุ้นบีพี ร่วงลง 2%

     ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง โดยหุ้นดอยซ์ แบงก์ ร่วงลง 2% และหุ้นบังโค ซานตานเดร์ ลดลง 1%

       อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม พุ่งขึ้น 13% และหุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดทเต็ด แอร์ไลน์ส กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ปรับตัวขึ้น 0.6%

     ทั้งนี้ แอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็มเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรสุทธิปี 2559 อยู่ที่ระดับ 762 ล้านยูโร (808 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) พุ่งขึ้นจากระดับ 118 ล้านยูโรในปีก่อนหน้า จากอานิสงส์ของราคาน้ำมันที่ร่วงลงเป็นอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนเชื้อเพลิงของสายการบินลดลง

     นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (Insee) รายงานว่า อัตราการว่างงานของฝรั่งเศสลดลง 1% สู่ระดับ 9.7% ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 7.91 จุด รับผลประกอบการ,ข้อมูลศก.สดใส

    ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) โดยดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงสโก ซิสเต็มส์ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง ซึ่งส่งผลให้ดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปิดตลาดอ่อนแรงลงด้วย

      ดัชนีเฉลี่ยอุตาสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,619.77 จุด เพิ่มขึ้น 7.91 จุด หรือ +0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,814.90 จุด ลดลง 4.54 จุด หรือ -0.08% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,347.22 จุด ลดลง 2.03 จุด หรือ -0.09%

    ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้นสู่ระดับ 43.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.1984

      ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับตัวขึ้นเพียง 5,000 ราย สู่ระดับ 239,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ  245,000 ราย นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังคงเคลื่อนไหวใกล้กับระดับ 233,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.1973 หรือต่ำสุดในรอบ 43 ปี

      หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 2.38% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/2559

      หุ้นซีบีเอส คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทสื่อรายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.3% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2559

      อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปิดตลาดในแดนลบ หลังจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน คอร์ป ร่วงลงหนักสุด

       ส่วนหุ้นบริษัทรายอื่นๆที่ปรับตัวลงและสร้างแรงกดดันต่อตลาดนั้น รวมถึงหุ้นคราฟท์ ไฮนซ์ ดิ่งลง 4.2% หุ้นดีน ฟู้ด ร่วงลง 8.1% หุ้นเวนดีส์ โค ปรับตัวลง 4.5%

       นักลงทุนติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ หลังจากที่ทรัมป์ได้จัดการประชุมร่วมกับผู้บริหารของกลุ่มบริษัทค้าปลีกที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเขาให้คำมั่นที่จะปรับลดภาษี และจะปรับลดกฎระเบียบทั่วภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากกฎระเบียบดังกล่าวได้ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายจำนวนมากต่อภาคธุรกิจ และการปฏิรูปภาษีถือเป็นหนึ่งในแนวทางดีที่สุดที่จะส่งผลด้านบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

      นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ โดย Conference Board จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค. ในเวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!