WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET22ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ซึมตัว คล้ายภูมิภาค รอดูนโยบายทรัมป์หลังจะเข้ารับตำแหน่งปธน.สหรัฐ

       นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ ในลักษณะซึม ๆ ทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย เนื่องจากต้องการรอดูนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้

       นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลงมา 4 วันแล้ว รวมถึงราคาน้ำมันได้กลับมารีบาวด์เมื่อคืนที่ผ่านมาก็น่าจะช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,550-1,545 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 ม.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,732.40 จุด ลดลง 72.32 จุด (-0.37%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,540.08 จุด ลดลง 15.57 จุด (-0.28%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,263.69 จุด ลดลง 8.20 จุด (-0.36%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 13.10 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 5.48 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 83.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.68 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 7.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 1.78 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.35 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.36 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ม.ค.60) 1,554.88 จุด ลดลง 5.95 จุด (-0.38%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 191.75 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ม.ค.60

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 ม.ค.60) ปิดที่ 51.37 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.6%

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ม.ค.60) ที่ 6.73 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 35.38/40 แนวโน้มแข็งค่า ตลาดจับตาการเข้ารับตำแหน่งปธน.และการประกาศนโยบายศก."ทรัมป์"

                - อธิบดีกรมศุลฯ ระบุ กำลังอยู่ระหว่างคำนวณภาษีที่เชฟรอนต้องจ่ายคืนให้รัฐจากการขนน้ำมันในประเทศไปใช้บนแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางอ่าวไทย เหตุที่ผ่านมาขอคืนภาษี 2 ช่วงเวลา ด้านคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเชฟรอนจากกระทรวงการคลัง คาดจะได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้

                - 'ศุภชัย เจียรวนนท์'ยันแม้ไปนั่งตำแหน่งซีอีโอเครือซีพีก็ไม่กระทบกับทรู เนื่องจากยังเป็นบอร์ดอยู่ ระบุขณะนี้ได้ตัวผู้บริหารคนใหม่แล้ว แต่ขอไม่เปิดเผย เหตุยังไม่ได้รายงานตลท. คาดไม่เกินไตรมาส 2 ดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมเผยจากนี้'ทรู-ซีพี'จะทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น

                - ธปท.มองส่งออกปีนี้ดีขึ้น แต่ขอดูความชัดเจนนโยบาย"ทรัมป์" ก่อนทบทวนประมาณการใหม่เดือนมี.ค.นี้ นักวิชาการห่วงผลลบต่อเศรษฐกิจไทย ด้านหุ้นปิดร่วงอีก 6 จุดเมื่อวานนี้

                - ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง เห็นชอบให้ธนาคารออมสินขยายเวลาโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร หรือซอฟต์โลน ระยะที่ 3 วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ถึงสิ้นปี 2560 โดยในปีที่ผ่านมามียอดอนุมัติสินเชื่อในโครงการนี้กว่า 1 หมื่นล้านบาท คงเหลือสินเชื่อในโครงการนี้อีกราว 2 หมื่นล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

                - BBL (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 186 บาท ประกาศกำไร 4Q59 ที่ 8,267 ล้านบาท ดีขึ้น 3%QoQ และ 8%YoY ใกล้เคียงกับที่คาดไว้ก่อนหน้า โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียมดีขึ้นเล็กน้อย ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล แต่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญลดลงมากจากระดับสูงในไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งเป็นการสะท้อนคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น มองแนวโน้มปี 60 ปัญหา NPL จะไม่รุนแรงเท่ากับปีก่อน

                - KTC (เคจีไอฯ) "เก็งกำไร"เป้า 160 บาท วานนี้รายงานผลการดำเนินงาน 4Q59 = 640 ล้านบาท (+20% YoY และ +0.1% QoQ) ดีกว่าคาดราว 13% แต่ใกล้เคียงกับที่ Consensus คาด และด้วยแนวโน้มการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ โดยยังคงประเมินแนวโน้มกำไรปี 2560-61 จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 19% นอกจากนี้ PE ปี 2560 ต่ำเพียง 12.2 เท่า และปันผล 3.5% อีกทั้งประเด็นภาครัฐฯจัดระเบียบหนี้นอกระบบ คาดจะทำให้สินเชื่อในกลุ่ม Non-bank มีโอกาสเติบโต (สินเชื่อกลับเข้าสู่ระบบฯ) คาดเป็น Sentiment ต่อหุ้นในกลุ่มฯ

                - WHA (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดกำไรไตรมาส 4/59 ทำสถิติสูงสุดใหม่ จากการขายสินทรัพย์ของ WHA และ HEMRAJ เข้าสู่ REIT ซึ่งเงินที่ได้รวมทั้งที่จะมาจากการ IPO หุ้น WHAUP จะช่วยลดภาระหนี้และทำให้กลับมาเริ่มจ่ายปันผลได้ อีกทั้งคาดบริษัทให้สิทธิ์จองซื้อหุ้นลูกกับผู้ถือหุ้นแม่ (Preemptive right)

                - PTTEP (ไอร่า) เป้า 106 บาท แผนการดำเนินงานในช่วง 5 ปี (2560-2564) ยังคงแผนการลงทุนต่อเนื่อง โดยมีจำนวนเงินลงทุนรวม 5 ปี (CAPEX) อยู่ที่ประมาณ 8.82 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 314,000 ล้านบาท)ส่วนแผนการผลิตของ PTTEP ในปี 60 คาดปริมาณการผลิตอยู่ที่ 3.12 แสนบาร์เรล/วัน ลดลง 2.5% จาก 3.2 แสนบาร์เรล/วัน ในช่วงปี 59 จากการขายแหล่งโอมานออกไป ประกอบกับปริมาณการผลิตน้ำมันจากแหล่งเวียดนาม 16-1 และมอนทาราที่ลดลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มต่อเนื่อง มาอยู่ที่ 53-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 1 ปี 5 เดือน จากข้อตกลงความร่วมมือของกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกในการลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ส่วนผลการดำเนินงานของ PTTEP ในปี 60 คาดว่าจะสามารถรับมือกับความผันผวนของราคาน้ำมันดิบได้ เนื่องจากคาดว่า PTTEP ได้มีการทำ hedging ไว้แล้วจำนวนประมาณ 30% ของการผลิตทั้งหมด

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ ตลาดจับตา ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตน

       ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,059.15 จุด ลดลง 13.10 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,095.82 จุด ลดลง 5.48 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,966.53 จุด ลดลง 83.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,326.80 จุด เพิ่มขึ้น 8.68 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,065.54 จุด ลดลง 7.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,006.44 จุด ลดลง 1.78 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,665.16 จุด ลดลง 1.35 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,252.44 จุด เพิ่มขึ้น 6.36 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นกลุ่มสร้างบ้านฉุดฟุตซี่ปิดลบ 39.17 จุด

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อวานนี้ (19 ม.ค.) ด้วยแรงฉุดจากหุ้นกลุ่มสร้างบ้าน หลังมีรายงานว่า ราคาบ้านในอังกฤษขยายตัวช้าลงในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังมีแรงฉุดรั้งจากหุ้นรอยัล เมล ที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ย่ำแย่

      ดัชนี FTSE 100 ลดลง 39.17 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 7,208.44 จุด

      หุ้นกลุ่มบริษัทสร้างบ้านร่วงลง ภายหลังจากสถาบัน RICS (Royal Institution of Chartered Surveyors) ซึ่งเป็นองค์กรของผู้ทรงคุณวุฒิด้านการประกอบธุรกิจการจัดการทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยรายงานการสำรวจระบุว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวขึ้นในอัตราช้าลงในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. ปีที่แล้ว

    หุ้นบาร์แรตต์ เดเวลลอปเมนต์ส ร่วงลง 2.1% หุ้นเทย์เลอร์ วิมปีย์ ลดลง 1.3% และหุ้นเพอร์ซิมมอน ลดลง 1%

     สำหรับ หุ้นอื่นๆที่น่าจับตา หุ้นรอยัล เมล ร่วงลง 6% หลังบริษัทเปิดเผยว่า ยอดขายในอังกฤษลดลง 2% ในช่วง 9 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 25 ธ.ค.

     หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงเกือบทั้งกระดาน จากการที่ราคาแร่โลหะส่วนใหญ่ปรับตัวลง สืบเนื่องจากปัจจัยการแข็งค่าของดอลลาร์ภายหลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางอาจขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้งไปจนถึงสิ้นปี 2562

      หุ้นเฟรสนิลโล ร่วงลง 3.4% หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอส ลดลง 1% หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 3.1% และหุ้นแอนโตฟากาสตา เพิ่มขึ้น 0.7%

      หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ลดลง 0.6% หลังมีรายงานว่าบริษัทได้ตกลงในรายละเอียดเบื้องต้นร่วมกับบริษัทซามาร์โก ไมเรเชา และเวล ในการจ่ายเงินค่าปรับและเงินชดเชยให้กับทางการบราซิล วงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ จากกรณีที่เขื่อนกักเก็บน้ำในเหมืองถลุงแร่พังทลายจนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในปี 2558

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ หลัง ECB คงวงเงิน QE ในการประชุมวานนี้

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเมื่อวานนี้

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลงเกือบ 0.1% ปิดที่ 362.85 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,841.14 จุด ลดลง 12.26 จุด หรือ -0.25% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,596.89 จุด ลดลง 2.50 จุด หรือ -0.02% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,208.44 จุด ลดลง 39.17 จุด หรือ -0.54%

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจาก ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% นอกจากนี้ ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน สำหรับเดือนม.ค.-มี.ค. ขณะที่เดือนเม.ย.-ธ.ค.จะอยู่ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน

     อย่างไรก็ดี ECB ระบุว่า อาจมีการปรับเพิ่มวงเงิน QE หรือขยายเวลาออกไปเกินกว่าเดือนธ.ค. 2017 หากแนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง

     นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า คณะกรรมการ ECB ไม่ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน โดยทางคณะกรรมการมีความพึงพอใจต่อจุดยืนของนโยบายในปัจจุบัน และมีความมั่นใจต่อการดำเนินการที่ราบรื่นสำหรับโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

     นอกจากนี้ นายดรากีกล่าวว่า สภาวะการดำเนินนโยบายของ ECB ได้ปรับตัวดีขึ้น แต่ ECB ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ พร้อมระบุว่า ความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืดได้ลดลงอย่างมากแล้ว ขณะที่เงินเฟ้อได้รับแรงหนุนจากราคาพลังงาน

      หุ้นรอยัล เมล ดิ่งลง 6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในอังกฤษร่วงลง 25% ในช่วงเวลา 9 เดือนซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 25 ธ.ค.

     หุ้น Moneysupermarket.com Group พุ่งขึ้น 8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรปี 2559 ปรับตัวขึ้น 8%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 72.32 จุด ตลาดจับตาทรัมป์เข้าพิธีสาบานตนวันนี้

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึง ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้นมากเกินคาดในเดือนธ.ค.

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,732.40 จุด ลดลง 72.32 จุด หรือ -0.37% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,540.08 จุด ลดลง 15.57 จุด หรือ -0.28% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,263.69 จุด ลดลง 8.20 จุด หรือ -0.36%

       นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นายทรัมป์จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ และก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายการเงินในวันนี้เวลา 08.00 น.ตามเวลาไทย

       อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่งจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในเดือนธ.ค.

     ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านทะยานขึ้น 11.3% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 1.23 ล้านยูนิต หลังเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.10 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.20 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค.

                ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเลดลง 15,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 234,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 254,000 ราย

                นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กแทบจะไม่มีปฏิกริยาต่อข่าวที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% นอกจากนี้ ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน สำหรับเดือนม.ค.-มี.ค. ขณะที่เดือนเม.ย.-ธ.ค.จะอยู่ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน

                หุ้นเน็ทฟลิกซ์ ปรับตัวขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นยูเนียน แปซิฟิก ดีดตัวขึ้น 2.4% ขานรับผลประกอบการที่สดในเช่นกัน

      อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!