- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 04 August 2014 12:11
- Hits: 3258
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์หลังลงหลายวัน เล็งแรงซื้อนลท.ระยะสั้นหนุน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีลุ้นรีบาวน์หลังจากที่ดัชนีฯได้ปรับตัวลง 6 วันติดต่อกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในระหว่างวันอาจจะมีการแกว่งตัวจากแรงขายทำกำไรที่ยังมีอยู่ โดยเฉพาะแรงขายทำกำไรจากนักทุนต่างชาติที่แม้ว่าจะขายลดลงจาก 1,000 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม โอกาสของการรีบาวน์ในวันนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่มีนักลงทุนสนใจเข้าซื้อขายในระยะสั้น ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเปิดตลาดภาคเช้าดัชนีฯมีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ
พร้อมให้แนวต้าน 1,510 จุด แนวรับ 1,485-1,487 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(1 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,493.37 จุด ลดลง 69.93 จุด(-0.42%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,925.15 จุด ลดลง 5.52 จุด (-0.29%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,352.64 จุด ลดลง 17.13 จุด (-0.39%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 48.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.74 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 57.68 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.78 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.67 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 4.57 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.85 จุด และดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 20.76 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(1 ส.ค.)1,500.20 จุด ลดลง 2.19 จุด(-0.15%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 445.36 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 ส.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(1 ส.ค.)ที่ 97.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(1 ส.ค.)ที่ 2.97 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.14/15 แข็งค่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ กดดอลล์อ่อน
- "บีโอไอ" ยันทุนญี่ปุ่นยังปักหลักในไทยต่อเนื่อง หันลงทุนธุรกิจบริการมากขึ้น หลังเป็นฐานผลิตอุตสาหกรรมหลักมานาน พร้อมใช้ไทยเป็นฐานกระจายการลงทุนไปอาเซียนรองรับเออีซี เผย 2 ปีเศษ หลังน้ำท่วมขนเงินลงทุนกว่า 3.7 แสนล้าน ขณะที่แบงก์ญี่ปุ่น แห่เปิดสำนักงานผู้แทนในไทย ยอดเปิดสำนักงานพุ่ง 25 แห่ง ด้านผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม ระบุ กลุ่มทุนญี่ปุ่นยังสนใจเศรษฐกิจไทย มั่นใจปีหน้าแห่ลงทุนเพิ่มจากภาพการเมืองที่ชัดขึ้น
- เงินนอกไหลเข้าไทยต่อเนื่อง แห่ลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ยอดถือครองพุ่งแตะ 7.7 แสนล้าน นักวิเคราะห์ชี้ดอกเบี้ยจูงใจ-เก็งกำไรค่าบาท ขณะที่ประเมิน กนง.ประชุม 6 ส.ค. คงดอกเบี้ย 2% ระดับที่เอต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง
- นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เห็นชอบร่างกฎหมายเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรมีอำนาจอายัดและระงับการทำธุรกรรมการเงินของบุคคลหรือนิติบุคคลที่ร่วมกันเป็นขบวนการทุจริตการเสียภาษีเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ที่กรมสรรพากรเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว
- "พีระพล ถาวรสุภเจริญ"ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)เผยพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเรียกประชุมคณะทำงานเพื่อสรุปแผนงาน/โครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วน ปี 2557 และปี 2558 ก่อนเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. พิจารณาอนุมัติโครงการและกรอบวงเงินภายในวันที่ 29 ส.ค. นี้
- น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2557 มีจำนวน 5.64 ล้านล้านบาท หรือ 46.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 1.09 แสนล้านบาท แบ่งเป็นรัฐบาลเพิ่มขึ้น 2.53 หมื่นล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินและรัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้น 8.89 หมื่นล้านบาท
- นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการส่งออกไม่ควรดีใจหรือประมาทกับยอดส่งออกไปยังยุโรปจะขยายตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ เพราะสาเหตุที่แท้จริงมาจากการที่ลูกค้าในยุโรปเร่งสั่งซื้อสินค้าและส่งออกจากไทยเก็บไว้ในสต๊อกก่อนที่ไทยจะถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษี (จีเอสพี) ในปี 2557 ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าที่นำเข้าจากไทยมีราคาสูงขึ้น
- "ประสาร ไตรรัตน์วรกุล" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มสินเชื่อในภาคอสังหาริมทรัพย์ครึ่งหลังของปีนี้ ยังน่าจะเติบโตได้ในระดับที่ดี เท่าที่ ธปท. ติดตามดูสินเชื่อในภาพรวม คาดว่าปีนี้น่าจะขยายตัวอยู่ประมาณ 6-8%
*หุ้นเด่นวันนี้
- WORK(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 33.60 บาท คาดผลประกอบการ 2Q57 จะพลิกกลับมามีกำไรราว 5 ล้านบาทจากปัจจัยฤดูกาลของธุรกิจสื่อและคาด 2H57 จะฟื้นตัวต่อเนื่องจากรายการใหม่ในช่องทีวีดิจิตอลและ Seasonal Program ในฟรีทีวี สัปดาห์ก่อน โดยปรับเพิ่มมูลค่าเหมาะสมขึ้น 37% โดยให้น้ำหนักการเติบโตจากธุรกิจทีวีดิจิทัล และคาดกำไรปี 2557-60 เติบโตก้าวกระโดดเฉลี่ย 37% ต่อปี ตามการปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาที่มีโอกาสเพิ่มอีกหลายเท่าตัว
- EGCO(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 150 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q57 เติบโต 37%YoY ที่ 2.5 พันล้านบาท และมีแนวโน้มโตต่อเนื่องใน 3Q57 จากกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากทำ M&A ที่ผ่านมา, ผลตอบแทนปันผลดีสุดในกลุ่มไฟฟ้า คาดจ่ายเงินปันระหว่างกาล 3 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 2%, มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการจากดีล M&A อีก 8 บาทเป็น 158 บาท หากสามารถสรุปการซื้อโรงไฟฟ้าถ่านหินในฟิลิปปินส์ได้ใน 3Q57 และยังอยู่ระหว่างทำ M&A เพิ่ม คาดได้ข้อสรุปเร็วนี้ รวมทั้งมี Upside เพียงบริษัทเดียวในกลุ่มโรงไฟฟ้า หากรวมมูลค่าจากโรงไฟฟ้าในฟิลิปปินส์ และเงินปันผล จะทำให้ EGCO ให้ผลตอบแทนรวมถึง 12%
- CENTEL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"คาดกำไรปกติใน 2Q14 ลด 72% Q-Q และ 26% Y-Y ทั้งจากการเป็น low season ใน 2Q และถูกกระทบจากการเมือง แต่โรงแรมในมัลดีฟ 2 แห่งที่โตโดดเด่นและและธุรกิจร้านอาหารที่โตจากการขยายสาขาเพิ่ม ช่วยลดผลกระทบได้บ้าง แนวโน้มผลการดำเนินงานระยะกลาง-ยาวยังดูดี โดยคาดกำไรปี 2015 โต 28% ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 44 บาท
- CK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 31 บาท คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และคาดว่าจะ Outperform ตลาดได้ใน 2H57 เนื่องจากมี Catalyst รออยู่ต่อเนื่องตั้งแต่ 4Q57 เป็นต้นไป ได้แก่ รถไฟฟ้ารางคู่, รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน, โครงการสนามบินเฟส 2 มูลค่าโครงการ 6.2 หมื่นล้านบาท และ CK รายงานการขายหุ้น BMCL จำนวน 1,025 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.65 บาท คิดเป็นเงินรวม 1,691 ล้านบาท คาดว่าจะส่งผลให้บันทึกกำไรพิเศษหลังภาษีราว 808 ล้านบาท ในงบ 3Q57 พร้อมให้เป็น Top pick ของกลุ่ม เนื่องจากเป็นผู้นำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และปัจจุบันมี Backlog สูงถึง 1.3 แสนล้านบาทรองรับการเติบโตได้อีก 4-5 ปีข้างหน้า
ตลาดหุ้นเอเชียหดตัวลงเช้านี้ หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังจากที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์
ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% สู่ระดับ 147.41 จุด เมื่อเวลา 9.24 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,474.65 จุด ลดลง 48.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,190.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.74 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,590.11 จุด เพิ่มขึ้น 57.68 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,280.29 จุด เพิ่มขึ้น 13.78 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,080.77 จุด เพิ่มขึ้น 7.67 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,339.85 จุด ลดลง 4.57 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,864.19 จุด เพิ่มขึ้น 0.85 จุด และดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,873.47 จุด ลดลง 20.76 จุด
หุ้นฮอนด้า มอเตอร์ ลดลง 1.3% ขณะที่หุ้นคูโบต้า คอร์ป ร่วง 3%
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 230,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานขยับขึ้นสู่ระดับ 6.2%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ หลังผลประกอบการบริษัทใหญ่น้อยเกินคาด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) เนื่องจากหุ้น ArcelorMittal และ Vinci SA ร่วงหนัก ประกอบกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 1.2% ปิดที่ 331.91 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,202.78 จุด ลดลง 43.36 จุด หรือ 1.02% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,210.08 จุด ลดลง 197.40 จุด หรือ 2.10% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,679.18 จุด ลดลง 50.93 จุด หรือ 0.76%
หุ้น ArcelorMittal ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ร่วง 6.1% หลังบริษัทเปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้น Vinci ร่วง 6.3% หลังเปิดเผยว่า กำไรช่วงครึ่งแรกของปีนี้อยู่ที่ 1.54 พันล้านยูโร ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์อยู่ที่ 1.63 พันล้านยูโร
หุ้นอีเลียด เอสเอ ซึ่งเป็นเครือข่ายมือถือฝรั่งเศส ร่วงลง 7% หลังจากออกแถลงการณ์ว่า บริษัทได้เสนอซื้อ ที-โมบายล์ ยูเอส อิงค์ ด้วยเงินสดในราคา 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเข้าถือครองหุ้นส่วนใหญ่ของเครือข่ายไร้สายอันดับ 4 ของสหรัฐ
ตลาดหุ้นยุโรปยังปรับตัวลง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 230,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานขยับขึ้นสู่ระดับ 6.2%
มาร์กิต อีโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนแตะที่ 51.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน โดยดัชนีเดือนก.ค.ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย. แต่ขยับลงเล็กน้อยจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 51.9
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 50.93 จุด เหตุภาคการผลิตจีนโตน้อยเกินคาด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) เนื่องจากภาคการผลิตจีนขยายตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 50.93 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 6,679.18 จุด
หุ้นไอเอจี เอสเอปรับตัวขึ้น 2.2% ภายหลังบริษัทเปิดเผยผลกำไรเกินเป้าหมายของนักวิเคราะห์
หุ้นชโรเดอร์สลดลง 2.6% ภายหลังบริษัทว่า มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการของบริษัทเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดทเต็ด แอร์ไลน์สเพิ่มขึ้น 2.2% ภายหลังเปิดเผยว่า ผลกำไรในไตรมาส 2 อยู่ที่ 380 ล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 364 ล้านยูโร
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลง หลังจากที่เอชเอสบีซีเปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.ของจีน ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 51.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน
อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนก.ค. ขยายตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์อยู่ระดับ 52
ขณะที่มาร์กิต อีโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของอังกฤษร่วงลงแตะ 55.4 ในเดือนก.ค. จาก 57.2 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 230,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานขยับขึ้นสู่ระดับ 6.2%
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : ดอลล์อ่อนค่า หลังตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) เนื่องจากข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐออกมาน้อยเกินคาด ซึ่งก่อให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไป
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแตะ 102.55 เยน จากระดับ 102.84 เยน, อ่อนค่าแตะ 0.9059 ฟรังก์สวิสจากระดับ 0.9085 ฟรังกสวิส และแข็งค่าแตะ 1.0921 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.0902 ดอลลาร์แคนาดา
ค่าเงินยูโรแข็งค่าสู่ระดับ 1.3428 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3390 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าแตะ 1.6831 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6883 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าแตะ 0.9312 ดอลลาร์สหรัฐจากระดับ 0.9293 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด และคาดการณ์ต่อไปว่าเฟดอาจจะคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไป ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 230,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานขยับขึ้นสู่ระดับ 6.2%
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนก.ค.โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวลงแตะ 81.8 จากระดับ 82.5 ในเดือนมิ.ย. แต่ขยับขึ้นจากตัวเลขช่วงต้นเดือนก.ค.ที่ระดับ 81.3 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นช่วงท้ายเดือนก.ค.จะอยู่ที่ 81.9
อินโฟเควสท์