- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 01 August 2014 09:58
- Hits: 3372
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลงตามดาวโจนส์ร่วงหนักกังวลอาร์เจนตินาผิดนัดชำระหนี้
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แนวโน้มดัชนีอาจมีการปรับตัวลง เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเปิดตลาดภาคเช้าที่ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบกันส่วนใหญ่ เนื่องจากดัชนีหุ้นดาวน์โจนส์ปรับตัวลงแรงกว่า 300 จุด ในเมื่อคืนนี้ นื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในต่างประเทศ รวมถึงข่าวการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลอาร์เจนตินา และตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี
นอกจากนั้น ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนจากสถาบันที่เทขายออกมาค่อนข้างมาก เป็นตัวฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในระยะนี้ ขณะเดียวกันระดับ P/E ที่ 15.7 เท่าของตลาดหุ้นไทยยังเป็นระดับที่ถือว่าค่อนข้างสูงแล้ว จึงไม่จูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อ
พร้อมให้แนวต้านวันนี้ที่ 1,510 จุด แนวรับ 1,480 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(31 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,563.30 จุด ร่วงลง 317.06 จุด(-1.88%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,930.67 จุด ลดลง 39.40 จุด(-2.00%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,369.77 จุด ลดลง 93.13 จุด (-2.09%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 109.23 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 162.62 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 92.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 12.41 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 27.65 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 5.25 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(31 ก.ค.) 1,502.39 จุด ลดลง 16.40 จุด(-1.08%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,005.55 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ก.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(31 ก.ค.)ที่ 98.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.1 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(31 ก.ค.)ที่ 3.16 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.17/18 อ่อนค่าต่อเนื่อง
- คสช.ขานรับ"คลัง"เสนอเก็บภาษี "ชาเขียว-กาแฟ-เครื่องดื่มผสมน้ำตาล" ระบุเป็นเครื่องดื่มทำลายสุขภาพ คาดสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี พร้อมเตรียมเสนอลดสิทธิประโยชน์ภาษีลงทุนในบีโอไอ"ตัน"หวั่นกระทบต้นทุน เสนอจัดเก็บ 111 รายการไม่มียกเว้น
- โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 200 สนช. ทหารทุกเหล่าทัพทั้งที่อยู่ราชการและเกษียณอายุพรึ่บ 105 คน ตำรวจ 11 คน ฮือฮา "นิพัทธ์ ทองเล็ก" คืนชีพ ขณะที่ธุรกิจชื่อดังตบเท้าเข้าสภา ท้ง "อิสระ-บุญชัย-สุพันธุ์" ด้านอดีต ส.ว.สรรหาโผล่หลายคน "สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย" ไม่พลาด "กล้านรงค์ จันทิก-สมชาย แสวงการ" ติดโผประกาศ พ.ร.ฎ.เปิดสภานิติบัญญัติ 7 ส.ค.
- ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ. ได้เสนอแผนปรับปรุงท่าเรือมาบตาพุด 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.ปรับปรุงท่าเรือมาบตาพุดเดิมให้รองรับการขนถ่ายสินค้าประเภทตู้คอนเทนเนอร์ได้เพื่อรองรับสินค้าบางส่วนจากท่าเรือแหลมฉบังที่เริ่มแออัด 2.ขยายท่าเรือสาธารณะแห่งที่ 2 เพื่อเพิ่มศักยภาพการขนถ่ายสินค้าในนิคมฯ และ 3.เสนอแผนการศึกษาการออกแบบท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 ซึ่งจะเป็นท่าเรือขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ รองรับการค้าและการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตองผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับข้อเสนอทั้งหมดไว้พิจารณาแล้ว
- ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ยอดการส่งออกทั้งปีนี้ของไทยน่าจะอยู่ในกรอบไม่เกิน 1.6% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าจะโตอยู่ที่ 3% เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของความผันผวนของค่าเงินบาทและสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่
- ปลัดคลังคาดครึ่งปีหลังจีดีพีโต 4.3% สั่งศุลกากรลดอุปสรรคนำเข้าส่งออก และให้กรมด้านภาษีไปปรับจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพ
- ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า งบประมาณปี 2558 วงเงิน 2.575 ล้านล้านบาทจะสามารถใช้ได้ทัน 1 ต.ค.57 จากเดิมที่คาดว่าจะล่าช้า 6 เดือน คาดว่าครึ่งแรกจะมีการเบิกจ่าย 1.22 ล้านล้านบาทมากกว่าที่ประมาณการไว้เดิมในกรณีที่ต้องใช้กรอบงบประมาณปี 2557 เบิกใช้ไปก่อน 3.5 แสนล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้มีส่วนทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่ม 2.4%
*หุ้นเด่นวันนี้
- WORK(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 33.60 บาท ปรับประมาณการกำไรในระยะยาวเพิ่มทำให้มูลค่าเหมาะสมเพิ่มขึ้น 37% จากโอกาสเติบโตจากทีวีดิจิทัลที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะช่อง Workpoint Creative TV ได้รับความนิยมสูงมาตลอดตั้งแต่เริ่มออกอากาศเดือน เม.ย.คาดกำไรปี 57-60 โตก้าวกระโดดเฉลี่ย 37% ต่อปีตามการปรับขึ้นค่าโฆษณาที่มีโอกาสเพิ่มอีกหลายเท่าตัว ช่วงเดือน ก.ย.มีประเด็นบวกจากการแจกคูปองทีวีดิจิทัล
- MODERN(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 11 บาท ปันผลโดดเด่นจะจำกัด Downside โดยจะจ่ายปันผลพิเศษ 0.45 บาทต่อหุ้นขึ้น XD 7 ส.ค.ไม่รวมปันผลประจำปี 57 ที่คาดจ่าย 0.6 บาท รวมให้ผลตอบแทนปันผลรวม 11% ขณะที่ 2Q57 จะบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น MFEC และคาดกำไรสุทธิที่ 397 ล้านบาทเพิ่ม 3 เท่าตัวเทียบ QoQ และ YoY ส่วนธุรกิจปกติคาดมีกำไร 107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY และ 5% QoQ ตามรายได้ส่งมอบงานติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ลูกค้าโครงการที่อยู่อาศัยและสำนักงาน
- PTT, PTTEP, CPALL(เคทีบี)"สะสม"ให้น้ำหนักการเข้าซื้อหุ้น big cap.ที่สำคัญ เนื่องจากคาดการณ์ผลประกอบการปี 2557 ที่แข็งแกร่ง รวมทั้งยังมีความต่อเนื่องในช่วง 1 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ให้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 420, 204 และ 55.60 บาท ตามลำดับ
- EGAT หนุนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้ บล.ทรีนีตี้ คาดสร้าง Sentiment บวกต่อกลุ่มถ่านหิน ซึ่งหุ้นที่เกี่ยวข้อง EARTH(ซื้อ เป้าหมาย 7.41 บาท), BANPU(ถือ เป้าหมาย 28.70 บาท), AGE, LANNA
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงอย่างหนัก
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในต่างประเทศ รวมถึงข่าวการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลอาร์เจนตินา และตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ร่วงลง 0.5% สู่ระดับ 148.16 จุด เมื่อเวลา 9.35 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,511.54 จุด ลดลง 109.23 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,594.23 จุด ลดลง 162.62 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,223.75 จุด ลดลง 92.10 จุด
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,063.71 จุด ลดลง 12.41 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,346.41 จุด ลดลง 27.65 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,866.11 จุด ลดลง 5.25 จุด
หุ้นสกายมาร์ค แอร์ไลน์ส อิงค์ สายการบินรายใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่น ร่วงลง 7.7% หลังบริษัทเผยว่าอาจต้องปิดกิจการหากต้องจ่ายค่าปรับให้แก่แอร์บัส กรุ๊ป กรณีที่ทางสายการบินยกเลิกคำสั่งซื้อเครื่องบิน A380 superjumbo จำนวน 6 ลำจากแอร์บัส
หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ หดตัวลง 2.2% เนื่องจากยูบีเอส เอจี ได้ปรับลดอันดับหุ้นของซัมซุง ส่วนหุ้นโซนี่ คอร์ป ทะยาน 4.8% หลังบริษัทกำไรได้เหนือความคาดหมายในไตรมาสแรก
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 43.33 จุด เหตุวิตกผลประกอบการเอกชน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทเวียร์ กรุ๊ป
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 43.33 จุด หรือ 0.64% ปิดที่ 6,730.11 จุด
หุ้นเวียร์ กรุ๊ป ลดลง 3.8% หลังจากเปิดเผยรายได้ที่ปรับตัวลดลงจากปีก่อน และคาดว่ารายได้ของบริษัทจะยังคงได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
หุ้นธนาคารลอยด์ ร่วงลง 2.8% หลังจากเปิดเผยว่ามีกำไรก่อนหักภาษีลดลงในช่วงครึ่งแรกของปี
หุ้นเชลล์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของยุโรป ดีดตัวขึ้นขึ้น 2.5% หลังจากเปิดเผยรายได้ประจำไตรมาสที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงหลังจากสหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มแรงกดดันต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เพื่อให้รัสเซียยุติการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มกบฏในภาคตะวันออกของยูเครน
ทั้งนี้ อียูมีมติใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซีย อันเนื่องมาจากความขัดแย้งที่ยังไม่คลี่คลายลงในยูเครน รวมถึงกรณีที่รัสเซียยังคงให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฏในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน
การคว่ำบาตรครั้งใหม่นี้ ครอบคลุมถึงการไม่ให้รัสเซียสามารถเข้าถึงการระดมทุนจากธนาคารและเทคโนโลยีอันทันสมัย ซึ่งรวมถึงการห้ามไม่ให้ธนาคารของรัฐบาลรัสเซียทำการขายหุ้นหรือพันธบัตรในยุโรป พร้อมกับคุมเข้มการส่งออกอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการปรับปรุงอุตสาหกรรมน้ำมันให้ทันสมัย ซึ่งอุตสาหกรรมน้ำมันถือเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของระบบเศรษฐกิจรัสเซีย นอกจากนี้ อียูยังได้ระงับสัญญาการขายอาวุธฉบับใหม่ให้กับรัสเซีย รวมทั้งระงับการส่งออกเครื่องจักร ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิก และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับยุทธปัจจัยทางทหารด้วย
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: วิตกผลประกอบการเอกชน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ดิ่งลงหนักสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทต่างๆ รวมถึงอาดิดาส ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กีฬารายใหญ่ของเยอรมนี
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.3% ปิดที่ 335.99 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,246.14 จุด ลดลง 66.16 จุด หรือ -1.53% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,407.48 จุด ร่วงลง 186.20 จุด หรือ -1.94% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,730.11 จุด ลดลง 43.33 จุด หรือ -0.64%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ โดยเฉพาะดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีที่ร่วงลงกว่า 186 จุด หลังจากหุ้นอาดิดาสร่วงลง 15.37% ภายหลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิรายปีลงสู่ระดับ 650 ล้านปอนด์ จากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 830-930 ล้านยูโร อันเนื่องมาจากผลกระทบของวิกฤตการณ์ในยูเครน และความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก โดยทางอาดิดาสระบุว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทำให้ทางบริษัทประสบความยากลำบากในการจัดส่งสินค้าในรัสเซียและประเทศเพื่อนบ้าน
หุ้นสายการบินลุฟท์ฮันซา ร่วงลง 7.33% หลังจากสายการบินรายใหญ่ของเยอรมนีแห่งนี้เปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 2 ลดลง เนื่องจากเหตุการณ์ประท้วงนัดหยุดงาน, ผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน นอกจากนี้ ทางสายการบินยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้ลงสู่ระดับ 1 พันล้านยูโร จากระดับ 1.3 ล้านยูโร
หุ้นอัลคาเทล-ลูเซท์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายของฝรั่งเศส ร่วงลง 6.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในไตรมาส 2 อยู่ที่ 3.28 พันล้านยูโร ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.3 พันล้านยูโร
นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐและกลุ่มประเทศอียูประกาศเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในยูเครน และข้อมูลที่ระบุว่ารัสเซียยังคงให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฏในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 317.06 จุด จากข่าวอาร์เจนตินาผิดนัดชำระหนี้
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในต่างประเทศ รวมถึงข่าวการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลอาร์เจนตินา และตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี
ดัชนีเ ฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,563.30 จุด ร่วงลง 317.06 จุด หรือ -1.88% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,369.77 จุด ลดลง 93.13 จุด หรือ -2.09% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,930.67 จุด ลดลง 39.40 จุด หรือ -2.00%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักในวันทำการสุดท้ายของเดือนก.ค. โดยตลอดทั้งเดือนนั้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงทั้งสิ้น 1.6% ดัชนี S&P ปรับตัวลง 1.5% และดัชนี NASDAQ ปรับลง 0.9%
ตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในต่างประเทศ รวมถึงรายงานของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ที่ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนปรับตัวลงแตะ 0.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 0.5% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มประเทศยูโรโซนกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข่าวที่ว่า อาร์เจนตินา ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของกลุ่มลาตินอเมริกา ได้ประสบกับภาวะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากที่การเจรจาระหว่างรัฐบาลอาร์เจนตินาและสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ไม่ประสบความสำเร็จ ส่งผลให้รัฐบาลอาร์เจนตินาไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรวงเงิน 539 ล้านดอลลาร์ให้แก่กลุ่มผู้ถือครองพันธบัตรได้ตามกำหนด
ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศปรับลดความน่าเชื่อถือพันธบัตรสกุลเงินต่างประเทศของอาร์เจนติน่าลงสู่ระดับ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน" จากระดับ "CCC-/C"
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันมากยิ่งขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อช่วงค่ำวานนี้ โดยกระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 26 ก.ค. เพิ่มขึ้น 23,000 ราย แตะที่ 302,000 ราย ขณะที่
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกปรับตัวลดลงแตะ 52.6 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2556 จากระดับ 62.6 ในเดือนมิ.ย.
หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 4.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ายอดการผลิตน้ำมันดิบลดลง 5.7% สู่ระดับ 3.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน น้อยกว่าที่บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3.96 ล้านบาร์เรลต่อวัน
หุ้นคราฟท์ ฟู๊ดส์ ร่วงลง 6.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในไตรมาส 2 อยู่ที่ 4.75 พันล้านดอลลาร์ น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 4.83 พันล้านดอลลาร์
หุ้น Yum! Brands ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารชื่อดังอย่าง Pizza Hut และ KFC ร่วงลง 4.9% หลังจากบริษัทประกาศยกเลิกการใช้เนื้อจาก OSI Group LLC สำหรับสาขาทั่วโลก โดยก่อนหน้านี้ Yum! Brands ประกาศว่าจะยกเลิกการใช้เนื้อของบริษัทดังกล่าวเฉพาะในจีน ออสเตรเลย และสหรัฐ
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 230,000 ตำแหน่ง ซึ่งชะลอลงจากเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 288,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 6.1% ในเดือนก.ค.
อินโฟเควสท์