WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET7 copyภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้ม ดัชนีเช้านี้ Sideway เชิงลบก่อนหยุดยาว-ECB ไม่ส่งสัญญาณมาตรการ QE

      นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway เชิงลบและซึมลง เนื่องจากก่อนวันหยุดยาวหุ้นไทยในสุดสัปดาห์นี้

     ประกอบกับตลาดหุ้นโลกไร้ทิศทาง แม้ว่าธนาคารกลางยุโรป(ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดไว้ แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะขยายเวลา QE ที่จะสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค. 60 หรือจะลดทอนจำนวนมาตรการ QE ทำให้ตลาดคลุมเครือ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า และมีผลให้ราคาน้ำมันปรับลง 2-3% รวมทั้งราคาทองคำก็ปรับลงด้วย

     พร้อมให้แนวรับที่ระดับ 1,480 - 1,485 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ระดับ 1,500 - 1,505 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 ต.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,162.35 จุด ลดลง 40.27 จุด (-0.22%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,241.83 จุด ลดลง 4.58 จุด (-0.09%), ดัชนี S&P500 ปิดที่  2,141.34 จุด ลดลง 2.95 จุด (-0.14%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 0.86 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 3.54 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.07 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง(ตลาดเลื่อนเวลาเปิดซื้อขายวันนี้), ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.16 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.85 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 5.31 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.20 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 48.25 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ต.ค.59) 1,492.73 จุด เพิ่มขึ้น 6.45 จุด (+0.43%)

    - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,186.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ต.ค.59

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 ต.ค.59) ปิดที่ 50.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 74 เซนต์ หรือ 1.43%

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ต.ค.59) ที่ 6.22 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 35.04/05 แนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง มองกรอบวันนี้ 34.90-35.20

     - พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติว่า ในที่ประชุมได้หารือเพื่อติดตามสถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศโดยในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 2559 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทยจำนวน 24.82 ล้านคน และประเทศมีรายได้รวม 1.23 ล้านล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัว 12.37% และรายได้ขยายตัว 16.22% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ยังคงเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งปี 2559 อยู่ที่ 32 ล้านคน และรายได้อยู่ที่ 2.4 ล้านล้านบาทเช่นเดิม

     - นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ทางกระทรวงคมนาคมจะเสนอโครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ 148 กิโลเมตร วงเงิน 25,000 ล้านบาท เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 90 กิโลเมตร วงเงิน 10,000 ล้านบาท และเส้นทางนครปฐม-หัวหิน 165 กิโลเมตร วงเงิน 20,000 ล้านบาท ระยะทางรวมกว่า 400 กิโลเมตร ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมกำลังสอบถามความเห็นเรื่องโครงการรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ เส้นทางเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ จากหน่วยงานต่างๆและคาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาได้ในเดือน พ.ย.นี้เช่นกัน โดยโครงการนี้มีระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงิน 1.31 แสนล้านบาท

      - นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปี 60 แอตต้าเตรียมนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ทำตลาดจีน ประมาณ 200-300 ราย ไปออกงานโรดโชว์ครั้งใหญ่ ในรูปแบบการสำรวจแหล่งท่องเที่ยว หรือเมกะแฟมทริป ใน 4 เมืองหลักของประเทศจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เป็นต้น เพื่อเปิดโต๊ะเจรจาซื้อขายทางธุรกิจรวมถึงประชาสัมพันธ์ให้คู่ค้าในตลาดจีนทราบว่าขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่การทำตลาดทัวร์ให้เป็นตลาดคุณภาพอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยฟื้นฟูตลาดและสร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการได้ดียิ่งขึ้น หลังจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญตั้งแต่เดือน ส.ค.-ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านกรุ๊ปทัวร์ยังมีแนวโน้มลดลง

*หุ้นเด่นวันนี้

     - BBL  (ฟินันเซียไซรัส) แนะ "ซื้อ" ราคาพื้นฐานปี 60 ที่ 200 บาท  ประกาศกำไรสุทธิ 3Q16 ดีกว่าคาดที่ 8 พันลบ. +12.4% Q-Q, -11%Y-Y จากค่าใช้จ่ายทั้งดอกเบี้ยและไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าคาด ส่วนด้าน NPL พุ่งขึ้นตามคาด +7.6% Q-Q ทำให้ NPL Ratio เพิ่มเป็น 3.4% เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2016 หดตัว 7.5%Y-Y (แนวโน้ม 4Q16 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีจากการตั้งสำรองฯที่น่าจะผ่อนคลายลง) ส่วนปี 2017 คาดเติบโต 4.6%Y-Y คงราคาพื้นฐานปี 2017 ที่ 200 บาท

      - ORI (ฟินันเซียไซรัส) แนะ "ซื้อ" ราคาพื้นฐานปีหน้า 16.40 บาท  (อิง PE 10 เท่า) จุดเด่นของ ORI คือ backlog ที่สูงถึง 1.02 หมื่นลบ.ซึ่งเพียงพอที่จะรับรู้รายได้จนถึงปี 2018 ขณะที่ยอดขายสะสมปัจจุบันสูงถึง 8.5 พันลบ.ซึ่งเกินเป้าหมายแรกของบริษัทที่ 7.5 พันลบ.ไปแล้ว ขณะที่การเติบโตของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายและทำให้เกิด Interchange แห่งใหม่เป็นโอกาสสำหรับ ORI ในการเติบโตในระยะยาว เราคาดกำไรสุทธิปี 2016 และ 2017 เติบโตโดดเด่น 88.3% Y-Y และ 49% Y-Y ตามลำดับ

      - BANPU (โกลเบล็ก) แนะ"ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 20 บาท คาดปี 2016 พลิกเป็นกำไรที่ 1,510 ลบ. (+198% YoY) จากการโรงไฟฟ้า BLCP และโรงไฟฟ้าหงสาจะทำการผลิตไฟฟ้าครบทั้ง 3 หน่วย รวมถึงปรับลดการลงทุนในธุรกิจถ่านหินเพื่อเน้นธุรกิจโรงไฟฟ้าสู่ 2.4 GW ในปี 63 โดยในปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ราว 1.63 GW (รวมโรงไฟฟ้าหงสาทั้ง 3 หน่วย)

        และเตรียมนำ BANPU POWER (BPP) เข้าตลท.ในช่วงเดือนต.ค. 59 โดยนำเงินไปชำระคืนเงินกู้แก่ BANPU ราว 400 ล้านดอลลาร์ และลดภาระดอกเบี้ยได้ราว 800 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งได้อานิสงส์ราคาถ่านหินดีดตัวขึ้นล่าสุด 93.7 US/Tons ทำให้กำไรในปี 60 มีโอกาสกลับมาเติบโตสูง

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ หลังราคาน้ำมันร่วงจากแรงเทขายทำกำไร

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมัน WTI ที่ปิดร่วงลงเมื่อคืน เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ อีกทั้งยังได้รับปัจจัยถ่วงจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นบวกขานรับนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า ECB อาจจะขยายระยะเวลาของมาตรการผ่อยคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไปอีก

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% แตะที่ 139.96 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,283.75 จุด เพิ่มขึ้น 48.25 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,322.55 จุด เพิ่มขึ้น 5.31 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,039.40 จุด ลดลง 1.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,842.46 จุด ลดลง 0.16 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,668.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.85 จุด

    * ตลาดหุ้นฮ่องกงเลื่อนเวลาเปิดซื้อขายภาคเช้าวันนี้ จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น "ไหหม่า"

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 4.98 จุด รับถ้อยแถลงประธาน ECB

      ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) ขานรับถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า ECB อาจผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 4.98 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 7,026.90 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นขานรับถ้อยแถลงของประธาน ECB ที่กล่าวภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า ECB ไม่มีแนวโน้มที่จะยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือปรับลดขนาดของ QE

     นักวิเคราะห์มองว่า ถ้อยแถลงของนายดรากีอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB จะขยายระยะเวลาของมาตรการ QE ออกไปอีก และอาจจะตัดสินใจใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค.

     หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์เพิ่มขึ้น 3.5% หุ้นบาร์เคลย์สเพิ่มขึ้น 3.2% และหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.3%

     หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดดเต็ด แอร์ไลน์ส กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 2% เพราะได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของสายการบินดอยช์ ลุฟฮันซาของเยอรมนี

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับประธาน ECB ส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงิน

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) ขานรับถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า ECB อาจผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค.

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 344.29 จุด

      ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,540.12 จุด เพิ่มขึ้น 19.82 จุด หรือ +0.44% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,701.39 จุด เพิ่มขึ้น 55.71 จุด หรือ +0.52% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,026.90 จุด เพิ่มขึ้น 4.98 จุด หรือ +0.07%

      ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับถ้อยแถลงของประธาน ECB ที่กล่าวภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า ECB ไม่มีแนวโน้มที่จะยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือปรับลดขนาดของ QE

     นักวิเคราะห์มองว่า ถ้อยแถลงของนายดรากีอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB จะขยายระยะเวลาของมาตรการ QE ออกไปอีก และอาจจะตัดสินใจใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค.

      หุ้นกลุ่มสายการบินทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา พุ่งขึ้น 7.9% หลังจากทางสายการบินได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2559 ขณะที่หุ้นแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม พุ่งขึ้น 5.3% หุ้นไรอันแอร์ ปรับตัวขึ้น 3.2% และหุ้นสายการบินบริติช แอร์เวย์ส พุ่งขึ้น 2%

      ส่วนหุ้นเนสท์เล่ ปรับตัวลง 0.8% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายตลอดทั้งปีนี้ โดยคาดว่าปีนี้รายได้จะขยายตัวประมาณ 3.5% เนื่องจากตลาดเกิดใหม่ได้ชะลอตัวลง ขณะที่ยุโรปและอเมริกาเหนือเผชิญกับปัญหาเงินฝืด จนทำให้ไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้

       การปรับลดคาดการณ์ของบริษัทเนสท์เล่มีขึ้นหลังจากที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เนสท์เล่มียอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 3.3% เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.6%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 40.27 จุด หลังราคาน้ำมันร่วง,หุ้นเทคโนฯดิ่ง

     ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงกว่า 2% นอกจากนี้ ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทเวอไรซอน คอมมิวนิเคชั่น ยังได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงด้วย

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,162.35 จุด ลดลง 40.27 จุด หรือ -0.22% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,241.83 จุด ลดลง 4.58 จุด หรือ -0.09% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,141.34 จุด ลดลง 2.95 จุด หรือ -0.14%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 2% เมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร และจากแรงขายทำกำไร

     ขณะเดียวกันผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเวอไรซอน คอมมิวนิเคชั่น ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเวอไรซอนเปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ลดลง 6.7% สู่ระดับ 3.094 หมื่นล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 3 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าการคาดการณ์ซึ่งอยู่ที่ 3.109 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรอยู่ที่  3.6 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 4 พันล้านดอลลาร์

   เวอไรซอนระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้รายได้และกำไรลดลงอย่างมากนั้น เนื่องจากผู้ใช้รายใหม่ในเครือข่ายเวอไรซอนลดลง ในขณะที่การแข่งขันด้านราคาเป็นไปอย่างดุเดือด

     ทั้งนี้ ผลประกกอบการที่ย่ำแย่ของหุ้นเวอไรซอนได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงด้วย โดยหุ้นเวอไรซอน ร่วงลง 2.4% หุ้นยาฮู ดิ่งลง 1.24% หุ้นเอทีแอนด์ที ปรับตัวลง 1.9% หุ้นสปรินท์ ร่วงลง 2.6% หุ้นที-โมบาย ยูเอส ขยับลง 0.6% ส่วนหุ้นอีเบย์ ทรุดฮวบลง 10.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสลดลงอย่างมาก

      นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังปรับตัวลงหลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และได้คงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ไปจนถึงเดือนมี.ค.2560

      อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ซึ่งระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.47 ล้านยูนิต ซึ่งสูงกวาที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.35 ล้านยูนิต

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!