WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET9 copyภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้มีโอกาสผันผวนสูง จาก Sentiment โดยรวมยังเป็นลบ-ไร้ปัจจัยบวกหนุน

      นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง จากปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศที่ยังไม่มีปัจจัยเชิงบวกเข้ามา มองว่านักลงทุนทั่วโลกคงอยู่ในช่วงของการปรับพอร์ตการลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็อยู่ในช่วงของการปรับฐานและรอดูสัญญาณเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และความผันผวนของการเลือกตั้งของสหรัฐฯ

     "จากนี้ไปทิศทางตลาดต่างประเทศคงอยู่ในช่วงของความผันผวน เพราะตัวเลขผลประกอบการของสหรัฐฯที่ออกมาไม่ดีมากนัก ประกอบกับ ยังมีเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และการเลือกตั้งที่ยังต้องติดตามดู ส่วนในประเทศก็ยังมีเรื่องของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยที่จะออกมา ซึ่งยังไม่มีข่าวเชิงบวกออกมา ภาพโดยรวม Sentiment ก็ยังเป็นลบ อย่างไรก็ตาม วันนี้มีโอกาสที่ตลาดจะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ และมีความผันผวนสูง"

     ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาควันนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ จากยังไม่มีปัจจัยเชิงบวก

พร้อมให้แนวรับ 1,350-1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430-1,450 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 ต.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,144.20 จุด เพิ่มขึ้น 15.54 จุด (+0.09%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,239.02 จุด ลดลง 7.77 จุด (-0.15%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,139.18 จุด เพิ่มขึ้น 2.45 จุด (+0.11%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 83.82 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 106.67 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.62 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.54 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.27 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 48.24 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 ต.ค.59) 1,406.18 จุด ลดลง 36.03 จุด (-2.50%)

    - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 390.20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ต.ค.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 ต.ค.59) ปิดที่ 50.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 61 เซนต์ หรือ 1.2%

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 ต.ค.59) ที่ 5.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 35.69/73 กลับมาแข็งค่าหลังอ่อนค่าไปมาก ยังกังวลปัจจัยในปท.

      - แหล่งข่าวจากโรงงานน้ำตาล เปิดเผยถึงกรณีคณะรัฐมนตรี เห็นชอบแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบปี 2559-2564 ว่า สำหรับราคาน้ำตาลใหม่ที่จะปรับขึ้นลงอย่างเสรีอิงตามราคาน้ำตาลในตลาดโลก คาดแนวโน้มราคาคงจะสูงขึ้นจากปัจจุบัน เพราะด้วยความต้องการใช้น้ำตาลในเอเชียที่สูงถึงปีละ 80 ล้านตัน แต่ผลิตได้แค่ปีละ 70 ล้านตัน ย่อมทำให้ราคาปรับขึ้น

                - ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ประจำกรุงเทพฯ นำ นายฮิเดโอะ ซูซูกิ กรรมการผู้จัดการบริษัท นิปปอน สตีล แอนด์ ซูมิโตโม เมทัล คอร์เปเรชั่น หารือร่วมกับนางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม โดยญี่ปุ่นมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้ไทยเป็นฮับในการผลิตเหล็กเกรดพิเศษ จากปัจจุบันที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย และส่งออกในอาเซียน เนื่องจากต้องการหนีปัญหาเหล็กคุณภาพต่ำที่ทุ่มตลาดมาจากประเทศที่ 3 และป้อน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลกำลังส่งเสริม

                - คณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะส่งต่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา และให้มีผลบังคับใช้ปี 2560 ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้

                - กฟผ.ยอมรับเศรษฐกิจตก ผลิตไฟเกิน ส่งผลสำรองพุ่ง 30% ตอบรับนโยบาย รมว.ทบทวนตัวเลขใหม่ ชี้เลื่อนโรงไฟฟ้ายากเพราะเสี่ยงต่อความมั่นคง รวมถึง 50% เป็นของเอกชน

                - แบงก์ชาติถกสมาคมธนาคารไทย และบริษัทที่ดูแลระบบการเงิน ตัดสินใจเลื่อนใช้ 'พร้อมเพย์' จากเดือนต.ค.นี้เป็นต้นปีหน้า รอทดสอบระบบให้รอบด้านและมีความพร้อมทุกธนาคารก่อนเปิดใช้ คลังชี้ไม่มีปัญหาหากได้ความปลอดภัยสูงสุด

*หุ้นเด่นวันนี้

      - COM7 (โกลเบล็ก) เป้า Consensus เฉลี่ย 10.45 บาท คาดกำไรปี 59 ที่ 391 ล้านบาท (+49% YoY)จากการซื้อไอโฟนโดยตรงจากแอปเปิ้ลส่งผลให้ประหยัดต้นทุนราว 2% จากยอดขายไอโฟน 4,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมยกเลิกธุรกิจรับชำระค่าบริการโทรศัพท์แบรนด์ Mango ทำให้ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุน 30 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ได้เปิดธุรกิจ Banana Sure เพื่อขายเครื่องคอมพิวเตอร์มือสอง อัตรากำไรสูงกว่าขายสินค้าใหม่ โดยมีช่องทางการจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ Banana Sure และ Banana IT ซึ่งมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ

     - VNG (ไอร่า) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 18 บาท คาดในปี 60 ผลงานมีโอกาสทำ New High ภายใต้การรับรู้กำลังการผลิตเต็มที่ทั้ง MDF และ Laminate Flooring เพิ่มขึ้น 24% และ 19% ตามลำดับ ขณะที่มีแผนเข้าร่วมทำโรงไฟฟ้าชีวมวลและไบโอแก๊ซที่คาด กกพ.ประกาศรับซื้อ Q1/60 คาดกำลังการผลิต 9.9 MW (ไม่เกิน 10MW ไม่ต้องทำ EIA) ที่โรงงาน จ.สุราษฏร์ธานี คาดใช้เงินลงทุน 70-80 ล้านบาท

      - ARROW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 22.30 บาท คาดกำไร Q3/59 +26% Q-Q, +9% Y-Y เป็น 72 ล้านบาท นอกจาก Q3 จะเป็น High season ของการขายท่อร้อยสายแล้ว บริษัทย่อยพลิกเป็นกำไร และเงินบาทที่แข็งค่าใน Q3/59 ยังส่งผลดีต่อการนำเข้าเหล็กซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก แต่การอ่อนค่าของเงินบาทในระยะนี้ คาดกระทบจำกัดเพราะเป็นช่วงที่ราคาเหล็กเริ่มอ่อนตัวลงพอดี แนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่องใน Q4/59 และคาดปันผลราว 6% ต่อปี

      - ROBINS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 76 บาท เหตุไฟไหม้ร้านอาหารในศูนย์การค้าแปซิฟิคพาร์คศรีราชาวานนี้ แต่ควบคุมเพลิงได้อย่างรวดเร็ว ห้างโรบินสันศรีราชาที่เช่าพื้นที่อยู่ในศูนย์การค้านั้นไม่ได้เกิดไฟไหม้และเปิดปกติในวันนี้ แทบไม่มีผลกระทบ ส่วนแนวโน้ม Q3/59 ชะลอใน Low season และเหตุระเบิดในหลายจังหวัดในเดือน ส.ค.แต่กำไรจะกลับมาโตเต็มที่ตั้งแต่ Q4/59 จาก 3 สาขาที่ปิด renovate กลับมาเปิดให้บริการและมีสาขาใหม่ 2 แห่งเปิดใน H2/59

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ หลังดอลล์แข็งฉุดหุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์อ่อนตัว

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ฉุดหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนตัวลง ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลง

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ไม่รวมญี่ปุ่น ปรับตัวลง 0.2% สู่ระดับ 448.07 จุด เมื่อเวลาประมาณ 8.05 น.ตามเวลาฮ่องกง

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,923.82 จุด เพิ่มขึ้น 83.82 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,057.97 จุด ลดลง 0.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,300.38 จุด ลดลง 106.67 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,268.22 จุด เพิ่มขึ้น 15.62 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,033.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,805.17 จุด ลดลง 8.54 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,667.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,381.58 จุด ลดลง 48.24 จุด

    ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย. ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดบางส่วนมองว่าการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเวลานานเกินไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 46.87 จุด หลังราคาน้ำมันร่วง

     ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจต่อข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน

      ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 46.87 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 7,024.01 จุด

      ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน นำโดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ และหุ้นบีพีที่ลดลง 1.1% และ 0.4% ตามลำดับ

       หุ้นกลุ่มพลังงานได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน หลังจากนายอิกอร์ เซชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทรอสเนฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ระบุว่า ทางบริษัทจะไม่ปรับลดกำลังการผลิต หรือตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน แม้กลุ่มประเทศโอเปกจะทำข้อตกลงกัน

      หุ้นเฟรสนิลโล ปรับตัวลง 0.7% ถึงแม้ว่าบริษัทจะปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตตลอดทั้งปี เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของผลผลิตทองคำและโลหะเงินประจำไตรมาส

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ หลังหุ้นเทคโนโลยีร่วง,ราคาน้ำมันดิ่ง

       ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัทอิริคสันปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 3 นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันยังส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงด้วย

   ดัชนี Stoxx Europe ลดลง 0.5% ปิดที่ 338.56 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,452.24 จุด ลดลง 19.50 จุด หรือ -0.44% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,523.07 จุด ลดลง 54.09 จุด หรือ -0.51% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,024.01 จุด ลดลง 46.87 จุด หรือ -0.66%

      นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัทอิริคสันปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 3 เนื่องจากธุรกิจอุปกรณ์เครือข่ายมือถือหลักชะลอตัวลง โดยข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นอิริคสันร่วงลงรุนแรงถึง 20% และหุ้นโนเกีย ดิ่งลง 5.1%

     หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้น Neste Corp ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันของฟินแลนด์ ปรับตัวลง 0.7% หุ้นทุลโลว์ ออยล์ ร่วงลง 1.9% ขณะที่หุ้น Eni Spa ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของอิตาลี ปรับลง 0.7%

     สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. ปรับตัวลดลง 0.2% หลังจากที่ขยายตัว 0.3% ในเดือนก่อนหน้านั้น ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 15.54 จุด หลังเฟดเผยรายงานประชุม

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย. ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดบางส่วนมองว่าการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเวลานานเกินไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย อย่างไรก็ดี ในการประชุมครั้งนี้ กรรมการส่วนใหญ่มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,144.20 จุด เพิ่มขึ้น 15.54 จุด หรือ +0.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,239.02 จุด ลดลง 7.77 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,139.18 จุด เพิ่มขึ้น 2.45 จุด หรือ +0.11%

      ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของเฟดระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดที่ต้องการให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น มีความวิตกว่าการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเวลานานเกินไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

     กรรมการเฟดบางรายได้อ้างอิงถึงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ซึ่งอัตราว่างงานได้ร่วงลงต่ำกว่าระดับปกติในระยะยาวที่มีการประเมินไว้ โดยกรรมการเหล่านี้ตั้งข้อสังเกตุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาดังกล่าวมักตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการเพิ่มขึ้นอย่างมากของอัตราว่างงาน โดยกรรมการเฟดกังวลว่าหากมีการชะลอการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยออกไปนานเกินไป เฟดก็จะถูกบังคับให้ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นอย่างมากจนทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง

     อย่างไรก็ดี การประชุมในเดือนก.ย.นั้น กรรมการส่วนใหญ่มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยมองว่าในขณะที่เหตุผลที่สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ก็เป็นการเหมาะสมที่จะรอดูหลักฐานมากขึ้นที่จะแสดงถึงความคืบหน้าไปสู่เป้าหมายด้านนโยบายของทางคณะกรรมการ

     หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.9% หลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า แอปเปิลจะสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นหลังจากบริษัทคู่แข่งอย่างซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ประกาศยุติการผลิตสมาร์ทโฟน Galaxy Note 7 เป็นการถาวรแล้ว หลังมีข่าวว่าสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวบางเครื่องยังคงเกิดไฟลุกไหม้

      หุ้น Amazon.com ดีดตัวขึ้น 0.4% หลังจากมีรายงานว่าทางบริษัทวางแผนที่จะเปิดตัวร้านค้าสะดวกซื้อ โดยมีเป้าหมายที่จะแข่งขันกับบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อย่างวอล-มาร์ท

       นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในการประชุมเศรษฐกิจครั้งที่ 60 ของเฟดสาขาบอสตัน ในวันศุกร์ที่ 14 ต.ค.นี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อจับความเคลื่อนไหวว่าประธานเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่ โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "The Elusive Recovery"

       นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

    สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของพนักงาน (JOLTS) รายเดือน พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 388,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.40 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 5.9 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค.

    ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวของกระทรวงแรงงานสหรัฐเป็นสิ่งบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ โดยวัดการเปิดรับสมัครงานในภาคธุรกิจต่างๆ รวมทั้งการจ้างงาน และการปลดพนักงาน และเป็นข้อมูลเศรษฐกิจที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดให้ความสนใจ

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!