WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET48ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นฟื้นตามตลาดเอเชีย เล็งรับ Sentiment บวกจากสหรัฐฯ แต่บาทอ่อนอาจกดดันตลาดฯ

    นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก เนื่องจากรับ Sentiment บวกจากสหรัฐฯ ที่ขานรับชัยชนะในการโต้วาทีครั้งที่ 2 ของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต เหนือนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน

      แต่ Valuation ของตลาดฯก็ไม่ถูกมาก และเงินบาทอ่อนค่าก็อาจจะไปกดดันตลาดได้ ดังนั้น แนะนำให้ถือเงินสดไว้มาก ๆ และเมื่อดัชนีฯลงมาต่ำกว่าระดับ 1,400 จุดก็ค่อยเข้าไปทยอยซื้อ

     พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,440-1,470 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (10 ต.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,329.04 จุด เพิ่มขึ้น 88.55 จุด (+0.49%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,328.67 จุด เพิ่มขึ้น 36.27 จุด (+0.69%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,163.66 จุด เพิ่มขึ้น 9.92 จุด (+0.46%)

       - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 76.22 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.48 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 162.02 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 45.98 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 3.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.55 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.43 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 ต.ค.59) 1,457.02 จุด ลดลง 47.32 จุด (-3.15%)

    - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,000.56 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ต.ค.59

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (10 ต.ค.59) ปิดที่ 51.35 ดอลลาร์/บาร์เรล 1.54 ดอลลาร์ หรือ 3.1%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ต.ค.59) ที่ 5.24 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

       - เงินบาทเปิด 35.18 อ่อนค่าต่อหลังมีเงินไหลออก มองกรอบวันนี้ 35.10-35.25

       - เตือนคาร์บอมบ์ กทม.-ปริมณฑลช่วง 25-30 ต.ค.นี้ 'ศรีวราห์' รับมีการข่าวแจ้งจริง เรียกประชุมฝ่ายมั่นคง สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง-สัญลักษณ์ คาดฝีมือกลุ่มบึ้ม-เผา 7 จังหวัด 'ศานิตย์' มั่นใจรับมือได้ทุกตารางนิ้ว

       - ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.จะเสนอให้มีการตั้งกองทุน Revolving Fund เข้ามาหนุนหลังกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ (ทีเอฟเอฟ) เพื่อการันตีผลตอบแทนให้นักลงทุน และเพิ่มความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุนมากขึ้น

      - กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเจรจากับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ปล่อยกู้ดอกเบี้ยพิเศษให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวตลาดจีนที่ได้รับผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญตามนโยบายรัฐบาลเพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอดต่อไป

    - รมว.พาณิชย์ เผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (เจทีซี) ไทย-อิหร่าน ครั้งที่ 1 ว่า จากการหารือร่วมกับนายโมฮัมหมัด เรซา เนมัทซาเด รมว.อุตสาหกรรม เหมืองแร่ และการค้าของอิหร่าน ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันที่จะจัดทำความตกลงสิทธิพิเศษทางการค้า (Preferential Trade Agreement-PTA) เพื่อเร่งเปิดตลาดสินค้าระหว่างกัน โดยนำร่องศึกษาสินค้าที่จะนำมาลดภาษีระหว่างกัน 100 รายการแรก ซึ่งเป็นสินค้าที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญ คาดจะแล้วเสร็จภายในปี 2560

                - ธปท.เผยยอดสินเชื่อบัตรเครดิตหดตัว 1.12 พันล้านบาทเทียบกับเดือนก่อน ส่วนใหญ่ฝั่งแบงก์พาณิชย์ ขณะที่ปริมาณการใช้จ่ายบัตรโดยรวมเพิ่มขึ้น 2.74 พันล้านบาท พบนอนแบงก์กลับสวนทางหดทั้งปริมาณการใช้จ่ายในประเทศ-ใช้จ่ายเมืองนอก

                - ศุลกากรผุดโครงการตรวจสอบการเสียภาษีอากรให้ผู้ประกอบการ เปิดทางผู้ประกอบการสุจริตแต่ชำระภาษีไม่ครบ ทบทวนตัวเองเพื่อมาเสียภาษีให้ถูกต้อง จะไม่ถูกปรับ ด้านพาณิชย์ดันร่างแก้ไข กม.แข่งขันฯ เข้า ครม. 11 ต.ค.นี้ หลังได้ข้อยุติส่งเงินค่าปรับคืนคลัง

                - ตลาดหลักทรัพย์ฯประเมิน ความผันผวนตลาดทุนไม่กระทบหุ้นไอพีโอ ชี้บริษัทวางแผนการใช้เงินแล้ว มั่นใจปีหน้าระดมทุน ต่อเนื่อง คาดมีมูลค่ามาร์เก็ตแคป 2.7 แสนล้านบาท ชี้ตลาดหุ้นไทยระยะสั้น อาจผันผวน หากนักลงทุนคลายความกังวล โอกาสพลิกฟื้นได้เร็วพร้อมเร่งทำแผนโรดโชว์ ชูธุรกิจสตาร์ทอัพ

*หุ้นเด่นวันนี้

      - SCB (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 169 บาท ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงแรงทำให้ Upside กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง ขณะที่ผลประกอบการค่อนข้างแข็งแกร่ง  โดยคาดกำไร 3Q59 ที่ 12,775 ล้านบาท ทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน และอ่อนตัว 3%QoQ โดยสินเชื่อยังไม่เติบโต และอาจเห็นรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงแรง เนื่องจากในไตรมาสก่อนธนาคารมีการกลับสำรองของธุรกิจประกัน อย่างไรก็ตามปัจจัยทางด้านรายได้ถูกชดเชยด้วยค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลงแรงเช่นกัน สำหรับแนวโน้ม NPL อาจเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นในไตรมาสหน้าเป็นต้นไป

    - SMT (โกลเบล็ก) เป้า Consensus 6.9-8.25 บาท โดย Consensus คาดปี 2559 Turnaround พลิกมีกำไรราว 200 ล่านบาท  จากสินค้า Value added (margin สูง) โดยเฉพาะ IC Packaging  / Wafer dicing ที่เติบโตสูงมาก แม้ว่าสินค้าฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์จะมียอดขายลดลงมาก (margin ต่ำ) พร้อมเตรียมเซ็นเป็นตัวแทนขาย Solar Panel ให้บริษัทใหญ่ในอเมริกา โดยโรงงานผลิต Solar Panel Generation 3 กำลังการผลิตที่ 40 เมกะวัตต์ (MW) คาดว่าจะเสร็จเดือนต.ค. และเริ่มเดิมเครื่องในเดือนพ.ย. ซึ่งจะรับรู้รายได้ไปอีก 3 ปีข้างหน้า (ทั้งนี้บริษัทมีเป้าขยายถึง 200 MW อีกทั้งบริษัทเตรียมขยายกำลังการผลิตเพิ่มในปี 2560 อีก 30-40% ในกลุ่มสินค้าประเภท high margin เช่น IC Packaging / Wafer dicing

       - EGCO (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยไตรมาส 3/59 คาดรายได้จะเป็นจุดสูงสุดของปีจากโรงไฟฟ้าขนอม (KN4) ที่เริ่มรับรู้รายได้เต็มไตรมาส พร้อมทั้งคาดว่าจะ COD โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ชัยภูมิกำลังการผลิต 90 MW ในช่วงไตรมาส 4/59 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกส่วนต่อขยายของโรงไฟฟ้าขนอม และยังเป็นหุ้น  Defensive play ในช่วงตลาดขาลง

    - PTT (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดได้รับผลประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการที่โอเปกบรรลุข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมัน ประกอบกับภาพรวมธุรกิจก๊าซที่คาดว่าจะดีขึ้นในช่วง 2H59 นอกจากนี้คาดว่า PTT จะได้ประโยชน์จาก พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในช่วงสิ้นปี 59 นี้

     - TISCO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 60 บาท กำไรตรงตามคาด +3.5% Q-Q, +54.4% Y-Y เป็น 1.25 พันล้านบาท แม้จะตั้งสำรองสูงเกินคาดตาม NPL ที่สูงขึ้นในกลุ่มลูกค้า SME (แต่ NPL ในพอร์ตรถยนต์ลดทำให้ NPL ratio ทรงตัวที่ 3.04%) แต่ PPOP ทำได้แกร่งกว่าคาดและรายได้ดอกเบี้ยขยับขึ้นซึ่งเป็นเซอร์ไพรส์ สำหรับกำไรงวด 9 เดือนแรกปีนี้ +23.5% Y-Y และคิดเป็น 74% ของทั้งปีที่คาด 5 พันล้านบาท +18% Y-Y แนวโน้มกำไร 4Q59 จะดีขึ้นตามสินเชื่อที่เพิ่มจากงานมอเตอร์โชว์

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ หลังราคาน้ำมัน WTI พุ่งกว่า 3%

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดทะยานขึ้นเมื่อคืน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 3%

      ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 140.70 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,936.31 จุด เพิ่มขึ้น 76.22 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,051.62 จุด เพิ่มขึ้น 3.48 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,013.84 จุด เพิ่มขึ้น 162.02 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,311.79 จุด เพิ่มขึ้น 45.98 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,053.29 จุด ลดลง 3.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,872.79 จุด เพิ่มขึ้น 2.55 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,664.89 จุด ลดลง 0.43 จุด

      ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 3% แตะที่ระดับกว่า 51 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้กล่าวในที่ประชุมพลังงานโลก (World Energy Congress) ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวานนี้ว่า รัสเซียพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการจำกัดเพดานการผลิตน้ำมัน พร้อมระบุว่า มาตรการตรึงการผลิต หรือ ลดการผลิตนั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมในการรักษาเสถียรภาพของตลาดพลังงานโลก

      ขณะที่นายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต ในการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 30 พ.ย.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 53.11 จุด หลังตลาดน้ำมันฟื้นตัว

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของเราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์

     ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 53.11 จุด หรือ 0.75% แตะที่ 7,097.50 จุด

      ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ หลังจากนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และนายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะให้ความร่วมมือในข้อตกลงปรับลดเพดานการผลิตน้ำมัน

     นอกจากนี้ นายปูตินยังกล่าวด้วยว่า "เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว การตรึงการผลิต หรือ ลดการผลิตนั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมในการรักษาเสถียรภาพของตลาดพลังงานโลก" พร้อมกับแสดงความคาดหวังว่า ที่ประชุมโอเปกจะสามารถยืนยันการตัดสินใจในการกำหนดโควตาของประเทศสมาชิกในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.

      หุ้นหลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ที่พุ่งขึ้น 2.8% ในขณะที่หุ้นบีพีเพิ่มขึ้น 1.7%

     หุ้นอีซีเจ็ทร่วงลง 2.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของโซซิเอเต เจเนอราล เอสเอ แนะนำให้นักลงทุนขายหุ้นของบริษัท

     หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นริโอ ทินโต ต่างก็พุ่งขึ้นมากกว่า 2% เพราะได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินปอนด์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับราคาน้ำมันพุ่ง,หุ้นดอยซ์แบงก์พลิกบวก

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และการดีดตัวขึ้นของราคาหุ้นดอยซ์แบงก์ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารรายใหญ่ของอิตาลี 2 แห่ง จะได้รับไฟเขียวจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้สามารถควบรวมกิจการได้

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.7% ปิดที่ 341.98 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,497.26 จุด เพิ่มขึ้น 47.35 จุด หรือ +1.06% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,624.08 จุด พุ่งขึ้น 133.22 จุด หรือ +1.27% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,097.50 จุด เพิ่มขึ้น 53.11 จุด หรือ +0.75%

                ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ และน้ำมัน WTI ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ หลังจากนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และนายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะให้ความร่วมมือในข้อตกลงปรับลดเพดานการผลิตน้ำมัน

   ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นสแตทออยล์ พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นเรพซอล ทะยานขึ้น 3%

    หุ้นดอยซ์แบงก์ที่ปิดตลาดทะยานขึ้น 3.4% หลังจากที่ดิ่งลงในช่วงแรก อันเนื่องมาจากรายงานของหนังสือพิมพ์ Bild am Sonntag ของเยอรมนี รายงานว่า นายจอห์น ไครอัน ซีอีโอดอยซ์แบงก์ ประสบความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงกับตัวแทนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ในการเจรจาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

    นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตกล่าวว่า ปัจจัยที่ช่วยให้ราคาหุ้นดอยซ์แบงก์สามารถพลิกกลับมาปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ได้นั้น เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่า สถานะการเงินของดอยซ์แบงก์ยังคงแข็งแกร่ง

    นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคาร Banco Popolare และธนาคาร Banca Popolare di Milano ซึ่งเป็น 2 ธนาคารรายใหญ่ของอิตาลี จะได้รับอนุมัติจากกลุ่มผู้ถือหุ้นให้สามารถควบรวมกิจการกันได้

    ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นธนาคาร Banco Popolare พุ่งขึ้น 6.3% และหุ้นธนาคาร Banca Popolare di Milano ดีดตัวขึ้น 6%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 88.55 จุด รับฮิลลารีคว้าชัยดีเบต,ราคาน้ำมันพุ่ง

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) ขานรับชัยชนะในการโต้วาทีครั้งที่ 2 ของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต เหนือนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมัน WTI ที่พุ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 51 ดอลลาร์/บาร์เรล อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันมีแนวโน้มปรับลดการผลิตในการประชุมเดือนหน้า

      ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,329.04 จุด เพิ่มขึ้น 88.55 จุด หรือ +0.49% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,328.67 จุด เพิ่มขึ้น 36.27 จุด หรือ +0.69% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,163.66 จุด เพิ่มขึ้น 9.92 จุด หรือ +0.46%

     ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่จัดทำโดย CNN/ORC บ่งชี้ว่า นางฮิลลารีสามารถคว้าชัยชนะเหนือนายทรัมป์ ไปด้วยคะแนน 57% ต่อ 34%  ในการโต้วาทีรอบที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ตามเวลาไทย ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน รัฐมิสซูรี

      นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นกว่า 3% แตะที่ระดับกว่า 51 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้กล่าวในที่ประชุมพลังงานโลก (World Energy Congress) ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวานนี้ว่า รัสเซียพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการจำกัดเพดานการผลิตน้ำมัน พร้อมระบุว่า มาตรการตรึงการผลิต หรือ ลดการผลิตนั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมในการรักษาเสถียรภาพของตลาดพลังงานโลก

     ขณะที่นายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต ในการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 30 พ.ย.

     หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน นำโดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2% ส่วนหุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 33.7%

     หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.7% หลังจากมีรายงานข่าวว่า บริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง ออกแถลงการณ์ โดยระบุว่า ทางบริษัทได้ปรับแผนการผลิตสมาร์ทโฟน Galaxy Note 7 หลังมีข่าวว่าสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวบางเครื่องยังคงเกิดไฟลุกไหม้ แม้ว่าทางบริษัทได้เปลี่ยนเครื่องใหม่แล้วก็ตาม

     หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ดีดตัวขึ้น หลังจากมายแลน อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ ยอมตกลงจ่ายเงิน 465 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความที่ทางบริษัทได้กำหนดราคายา "EpiPen" ในอัตราที่สูงเกินไป โดยยาดังกล่าวใช้รักษาอาการแพ้ขั้นรุนแรง ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นมายแลน ปรับตัวขึ้น 8.2%

      ส่วนหุ้นทวิตเตอร์ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยร่วงลงอีก 12% เมื่อคืนนี้ หลังจากมีกระแสข่าวว่า บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ซึ่งรวมถึง กูเกิล, แอปเปิล และดิสนีย์ ต่างก็ไม่มีแผนที่จะเสนอราคาประมูลซื้อกิจการของทวิตเตอร์

     นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

    อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!